Upload
Download free for 30 days
Login
Submit search
27การตรวจครรภ์
43 likes
109,589 views
Papawee Laonoi
1 of 11
Download now
Downloaded 249 times
1
2
3
4
5
Most read
6
Most read
7
Most read
8
9
10
11
More Related Content
PDF
กลไกการคลอดปกติ 8 ขั้นตอน
da priyada
PPTX
แนวทางการบริโภคอาหารสำหรับผู้สูงอายุ
Dashodragon KaoKaen
PDF
ไข้เลือดออก
Prachaya Sriswang
PDF
Case study : dengue fever
Noomnum Gentlegirl
PDF
ยารักษาโรคจิตเวช รพ. สหัสขันธ์
Utai Sukviwatsirikul
PDF
การพยาบาลผู้ป่วยก่อนและหลังการตรวจเพื่อการวินิจฉัยโรค
CC Nakhon Pathom Rajabhat University
DOC
แนวข้อสอบ 100 ข้อ
โพธิ์ตะวัน ทีโยตระกูล
PDF
O&g examination
Dr. Rubz
กลไกการคลอดปกติ 8 ขั้นตอน
da priyada
แนวทางการบริโภคอาหารสำหรับผู้สูงอายุ
Dashodragon KaoKaen
ไข้เลือดออก
Prachaya Sriswang
Case study : dengue fever
Noomnum Gentlegirl
ยารักษาโรคจิตเวช รพ. สหัสขันธ์
Utai Sukviwatsirikul
การพยาบาลผู้ป่วยก่อนและหลังการตรวจเพื่อการวินิจฉัยโรค
CC Nakhon Pathom Rajabhat University
แนวข้อสอบ 100 ข้อ
โพธิ์ตะวัน ทีโยตระกูล
O&g examination
Dr. Rubz
What's hot
(20)
PPT
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีอารมณ์ผิดปกติ โดย อ.วิไลวรรณ บุญเรือง
Utai Sukviwatsirikul
PDF
ภาวะซีด
พวงพยอม แก้วผลึก
PDF
Total parenteral nutrition
techno UCH
PDF
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหา ของระบบทางเดินหายใจ
techno UCH
PPT
ติวเด็ก
Rofus Yakoh
PPTX
การส่งเสริมการขับถ่ายอุจจาระ 57
Sirinoot Jantharangkul
PDF
คู่มือ ICD (Chest drain)
Weerawan Ueng-aram
DOC
การวินิจฉัยชุมชน อ.สมเกียรติ
Sambushi Kritsada
DOCX
Berodual salbutamol solution
Utai Sukviwatsirikul
PDF
PALS manual 2009
taem
PDF
โครงสร้างและหน้าที่ระบบทางเดินอาหาร 2560
Aphisit Aunbusdumberdor
PDF
Thai nihss
Nawee Naowaprateep
PPTX
Ppt. stroke1
Prachaya Sriswang
PDF
การประเมินระบบกระดูก กล้ามเนื้อและข้อ
Utai Sukviwatsirikul
PDF
Pediatric dosage table ขนาดการใช้ในเด็กแบ่งตามอายุ+น้ำหนัก
Aiman Sadeeyamu
PDF
การจัดการความปวดเบื้องต้น
Sutthiluck Kaewboonrurn
PDF
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นและ ฟื้นคืนชีพ (CPR)
yahapop
PDF
คู่มือนักโภชนาการ
ธัญญชล พงษ์อิ่ม
PDF
pathophysiology of lower gastrointestinal for nursing students
Aphisit Aunbusdumberdor
DOC
ข้อสอบกายวิภาคศาสตร์ (บันทึกอัตโนมัติ)
Aom S
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีอารมณ์ผิดปกติ โดย อ.วิไลวรรณ บุญเรือง
Utai Sukviwatsirikul
ภาวะซีด
พวงพยอม แก้วผลึก
Total parenteral nutrition
techno UCH
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหา ของระบบทางเดินหายใจ
techno UCH
ติวเด็ก
Rofus Yakoh
การส่งเสริมการขับถ่ายอุจจาระ 57
Sirinoot Jantharangkul
คู่มือ ICD (Chest drain)
Weerawan Ueng-aram
การวินิจฉัยชุมชน อ.สมเกียรติ
Sambushi Kritsada
Berodual salbutamol solution
Utai Sukviwatsirikul
PALS manual 2009
taem
โครงสร้างและหน้าที่ระบบทางเดินอาหาร 2560
Aphisit Aunbusdumberdor
Thai nihss
Nawee Naowaprateep
Ppt. stroke1
Prachaya Sriswang
การประเมินระบบกระดูก กล้ามเนื้อและข้อ
Utai Sukviwatsirikul
Pediatric dosage table ขนาดการใช้ในเด็กแบ่งตามอายุ+น้ำหนัก
Aiman Sadeeyamu
การจัดการความปวดเบื้องต้น
Sutthiluck Kaewboonrurn
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นและ ฟื้นคืนชีพ (CPR)
yahapop
คู่มือนักโภชนาการ
ธัญญชล พงษ์อิ่ม
pathophysiology of lower gastrointestinal for nursing students
Aphisit Aunbusdumberdor
ข้อสอบกายวิภาคศาสตร์ (บันทึกอัตโนมัติ)
Aom S
Ad
Viewers also liked
(20)
PDF
คู่มือฝากครภ์และการคลอด
Hummd Mdhum
PDF
การพยาบาลในระยะตั้งครรภ์
CUPress
PDF
หัตถการที่จำเป็นทางสูติ
vora kun
PPT
Normal labor
Dr. Suhas Otiv
PDF
คลอด
niralai
PDF
บทที่ 1
KruPor Sirirat Namthai
PDF
NTstep3round2 9_jan2554
vora kun
PDF
แผนการจัดการเรียนรุ้คุณธรรมนำความคิดเรื่องสารละลาย โดยใช้รูปแบบ 4 mat นายกอบว...
Kobwit Piriyawat
PPT
Lie, presentation, attitude, and position
Longwap
PPT
Female bony pelvis and fetal skull for undergraduate
Faculty of Medicine,Zagazig University,EGYPT
DOCX
2
Sirin Jeanwiwattanavong
DOCX
For extern
Teru Jojoe
PDF
Neonatal resuscitation การช่วยฟื้นชีวิตทารกและทารกแรกเกิด
Narenthorn EMS Center
PPTX
Occipitoposterior position
Dr.Jatheesh Mohan
PDF
Step3 Tutorial by SWU book1
vora kun
PDF
Normal Labour and Abnormal Labour
Kavindya Fernando
DOCX
แบบประเมินผลการปฏิบัติงาน (พี่ก้อย)
yuiops
PPT
Abnormal+labour
Ruth Nwokoma
PDF
Dysfunctional labor
Aboubakr Elnashar
PPT
Normal and abnormal labour
Dr Kishwar Naheed
คู่มือฝากครภ์และการคลอด
Hummd Mdhum
การพยาบาลในระยะตั้งครรภ์
CUPress
หัตถการที่จำเป็นทางสูติ
vora kun
Normal labor
Dr. Suhas Otiv
คลอด
niralai
บทที่ 1
KruPor Sirirat Namthai
NTstep3round2 9_jan2554
vora kun
แผนการจัดการเรียนรุ้คุณธรรมนำความคิดเรื่องสารละลาย โดยใช้รูปแบบ 4 mat นายกอบว...
Kobwit Piriyawat
Lie, presentation, attitude, and position
Longwap
Female bony pelvis and fetal skull for undergraduate
Faculty of Medicine,Zagazig University,EGYPT
2
Sirin Jeanwiwattanavong
For extern
Teru Jojoe
Neonatal resuscitation การช่วยฟื้นชีวิตทารกและทารกแรกเกิด
Narenthorn EMS Center
Occipitoposterior position
Dr.Jatheesh Mohan
Step3 Tutorial by SWU book1
vora kun
Normal Labour and Abnormal Labour
Kavindya Fernando
แบบประเมินผลการปฏิบัติงาน (พี่ก้อย)
yuiops
Abnormal+labour
Ruth Nwokoma
Dysfunctional labor
Aboubakr Elnashar
Normal and abnormal labour
Dr Kishwar Naheed
Ad
Similar to 27การตรวจครรภ์
(20)
PDF
Fertilization pptx
panithanwan
PDF
343 pre4
peerada15005
PDF
คู่มือเด็กเล็ก 0 3 ปี
Utai Sukviwatsirikul
PDF
การพยาบาลผู้ป่วยเด็กที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ
Susheewa Mulmuang
DOC
J:\งาน Powerpoint And Word\งานต๊อก\งานPaper\เรื่องที่อยากเล่า แต่ยังไม่มีหัวข้อ
viriyalekprasert
PPTX
[ห้อง 343] การเกิดฝาแฝด กลุ่ม 4 (1,8,17,27)
AunyapatThanasinborw
PDF
Cpr newversion
Loveis1able Khumpuangdee
PPTX
Multiplepregnancy
natthamasridama
PPT
เสถียรธรรมสถาน1 Copy
Volunteer SdsElite
PPTX
งานนำเสนอโปสเตอร์ กลุ่มที่ 8 ห้อง 342
ChanyaProm
PDF
ทันตกรรมป้องกันในเด็กและวัยรุ่น
dentyomaraj
PDF
ติวสอบเตรียมสืบพันธุ์และเจริญสัตว์
Wichai Likitponrak
PDF
Lesson 2
pattanan sabumoung
PDF
Foreign Body
yinyinyin
PDF
โครงงานสุขศึกษา
Tatsawan Khejonrak
PDF
เรื่องการสืบพันธ์ของสุนัข
ต๊อบ แต๊บ
PDF
Lessonplanunit4animalrepro kr uwichai62
Wichai Likitponrak
PDF
Lessonplan 4animalreproduce
Wichai Likitponrak
PDF
Twins-341 pre2
SuphanatSittithammac
PPT
Psychology1
Rorsed Mardra
Fertilization pptx
panithanwan
343 pre4
peerada15005
คู่มือเด็กเล็ก 0 3 ปี
Utai Sukviwatsirikul
การพยาบาลผู้ป่วยเด็กที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ
Susheewa Mulmuang
J:\งาน Powerpoint And Word\งานต๊อก\งานPaper\เรื่องที่อยากเล่า แต่ยังไม่มีหัวข้อ
viriyalekprasert
[ห้อง 343] การเกิดฝาแฝด กลุ่ม 4 (1,8,17,27)
AunyapatThanasinborw
Cpr newversion
Loveis1able Khumpuangdee
Multiplepregnancy
natthamasridama
เสถียรธรรมสถาน1 Copy
Volunteer SdsElite
งานนำเสนอโปสเตอร์ กลุ่มที่ 8 ห้อง 342
ChanyaProm
ทันตกรรมป้องกันในเด็กและวัยรุ่น
dentyomaraj
ติวสอบเตรียมสืบพันธุ์และเจริญสัตว์
Wichai Likitponrak
Lesson 2
pattanan sabumoung
Foreign Body
yinyinyin
โครงงานสุขศึกษา
Tatsawan Khejonrak
เรื่องการสืบพันธ์ของสุนัข
ต๊อบ แต๊บ
Lessonplanunit4animalrepro kr uwichai62
Wichai Likitponrak
Lessonplan 4animalreproduce
Wichai Likitponrak
Twins-341 pre2
SuphanatSittithammac
Psychology1
Rorsed Mardra
27การตรวจครรภ์
1.
คู่มือการฝึกปฏิบัติการพยาบาล เรื่อง การตรวจครรภ์
ภาควิชาการพยาบาลสตรีและเด็ก คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
2.
คู่มือการฝึกปฏิบัติการพยาบาล เรื่อง การตรวจครรภ์
โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์กัญจนี พลอินทร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์จิตใส ลาวัลย์ตระกูล ผู้ช่วยศาสตราจารย์วัฒนา ศรีพจนารถ
3.
แบบประเมินผลการตรวจครรภ์ ชื่อ......................สกุล........................ รหัส..............................กลุ่ม.............
คะแนนเต็ม..........คะแนนที่ได้.......... ร้อยละ............................................... อ.ผู้ประเมิน........................................ ผลการประเมินทักษะ ทักษะที่ประเมิน ผ่าน ไม่ผ่าน หมายเหตุ 1 การแนะนำตัว 2 การอธิบายขั้นตอนการทำและจุดประสงค์การ ตรวจ 3 ให้ถ่ายปัสสาวะก่อนทำ 4 การล้างมือก่อนและหลังการตรวจ 5 การจัดท่า กั้นม่าน ใช้ผ้าคลุมท้องน้อยและขา 6 เทคนิคการตรวจ 6.1 การดู 6.2 การคลำ โดยใช้วิธี Leopold’s maneuver 6.3 การฟังและนับอัตราการเต้นของหัวใจทารก 7 การบอกผลการตรวจและให้คำแนะนำ 8 การบันทึกผลการตรวจในสมุดบันทึกสุขภาพ
4.
การตรวจครรภ์ จุดประสงค์ 1.
เพื่อประเมินอายุครรภ์ 2. เพื่อตรวจหาลักษณะของทารกว่าอยู่ในลักษณะใด 3. เพื่อตรวจสภาพการมีชีวิตของทารก วิธีปฏิบัติ 1. ให้หญิงตั้งครรภ์ถ่ายปัสสาวะให้หมดก่อน เพื่อให้การวัดระดับยอดมดลูกเที่ยงตรง 2. ให้หญิงตั้งครรภ์นอนหงายหนุนหมอนบนเตียง กั้นม่านให้เรียบร้อย 3. เปิดหน้าท้อง คลุมผ้าปิดตั้งแต่บริเวณท้องน้อยลงมา 4. เข้ายืนด้านขวาของหญิงตั้งครรภ์ หันหน้าไปทางศีรษะของหญิงตั้งครรภ์ 5. ใช้หลักในการตรวจ ได้แก่ การดู การคลำ และการฟัง การดู สิ่งที่ต้องดูคือ - ขนาดของมดลูกว่ามีขนาดใหญ่ได้สัดส่วนกับอายุครรภ์หรือไม่ ถ้ามีขนาดใหญ่มาก อาจเป็นการตั้งครรภ์แฝด แฝดน้ำ หรือทารกมีขนาดใหญ่ - รูปทรง มดลูกอยู่ในแนวตามยาวหรือตามขวาง หน้าท้องห้อยหย่อน กล้ามเนื้อหน้า ท้องแยกออกจากกันหรือไม่ หน้าท้องนูนมากหรือน้อย มีลอนหรือไม่ - การเคลื่อนไหวของทารก - การเปลี่ยนแปลงของผิวหนังที่บริเวณหน้าท้อง เช่น หน้าท้องลาย ผนังหน้าท้อง หย่อน รอยผ่าตัดเป็นต้น - สิ่งผิดปกติอื่นๆ เช่น บวม ผื่น โรคผิวหนัง การคลำ โดยใช้วิธีลีโอโพลด์ (Leopold’s maneuver) ดังนี้ ท่าที่ 1 First Leopold Handgrip (Fundal Grip) คลำบริเวณยอดมดลูกเพื่อตรวจหา ระดับของยอดมดลูกและส่วนของทารกที่อยู่บริเวณยอดมดลูก โดย
5.
1. ใช้ฝ่ามือและปลายนิ้วแตะที่บริเวณยอดมดลูก อีกมือหนึ่งแตะที่บริเวณลิ้นปี่
ดู ว่าระดับยอดมดลูกว่าเป็นสัดส่วนเท่าใดกับระยะระหว่างสะดือและลิ้นปี่ หรือในกรณีที่อายุ ครรภ์น้อยดูว่าเป็นสัดส่วนเท่าใดกับระยะระหว่างสะดือถึงขอบบนของกระดูกหัวเหน่า 2. ใช้ฝ่ามือและปลายนิ้วมือทั้งสองข้างคลำส่วนของทารกที่บริเวณยอดมดลูก ว่า เป็นศีรษะหรือก้น ถ้าเป็นศีรษะจะคลำได้เป็นก้อนกลมแข็ง มี ballottement คลำได้ร่องคอ ถ้า เป็นก้นจะนุ่มกว่า ไม่กลม อาจมี ballottement บ้างแต่ไม่ชัดเจนเท่าศีรษะ ท่าที่ 2 Second Leopold Handgrip (Umbilical Grip) คลำหาส่วนหลังทารก โดย 1. ใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างวางทาบบนผนังหน้าท้อง
6.
2. มือข้างหนึ่งกด อีกมือวางไว้เฉยๆ
คลำให้ได้ว่าด้านไหนเป็นส่วนหลังของทารก (large part) ด้านที่เป็นส่วนหลังจะคลำได้เป็นแผ่นเรียบโค้งเป็นทางยาวติดต่อกัน มีความรู้สึก ต้านฝ่ามือ ส่วนที่เป็นด้านหน้าของทารก (small part) จะมีความรู้สึกว่าคลำได้เป็นปุ่ม ซึ่งได้แก่ แขน ขา ข้อศอก หัวเข่า ในกรณีที่คลำแขนขาได้ไม่ชัดเจนจะมีความรู้สึกว่าด้านหน้าของทารก จะว่างสามารถกดผนังหน้าท้องลงไปได้มากกว่า ท่าที่ 3 Third Leopold Handgrip (Pawlik Grip) ตรวจหาส่วนนำและ attitude ของ ทารก โดย 1. ใช้มือขวาคลำและจับส่วนของทารกที่บริเวณเหนือหัวเหน่าให้อยู่ภายในอุ้งมือ 2. ตรวจหาส่วนนำ ถ้าเป็นศีรษะจะมีลักษณะกลมแข็งและเรียบ มี ballottement ชัดเจน และอาจคลำได้ร่องคอ 3. ตรวจหาระดับของส่วนนำ โดยถ้าโยกส่วนนำของทารกให้เคลื่อนไหวไปมาได้ แสดงว่าส่วนนำของทารกยังลอยอยู่ (float) แต่ถ้าไม่สามารถโยกส่วนนำได้เลยแสดงว่าส่วนนำ ผ่านลงสู่ช่องเชิงกรานแล้ว (engagement) 4. ตรวจทรงของทารก โดยคลำหา cephalic prominence ของทารก ถ้าคลำได้ ตรงกันข้ามกับหลังและสูงกว่าแสดงว่าทารกอยู่ทรงก้ม ถ้าคลำได้ด้านเดียวกับหลังแสดงว่า ทารกอยู่ในทรงเงย
7.
ท่าที่ 4 Fourth
Leopold Handgrip (Bilateral Inquinal Grip) ตรวจหาระดับของส่วน นำและทรงของทารก โดย 1. ยืนหันหน้าไปทางปลายเท้าของหญิงตั้งครรภ์ 2. ใช้ปลายนิ้วมือทั้งสองข้างวางลงที่ด้านข้างของส่วนนำที่บริเวณขาหนีบ เคลื่อน ฝ่ามือสัมผัสด้านข้างของส่วนนำไปตามขาหนีบ 3. ตรวจหาระดับของส่วนนำ ถ้าปลายมือยังสอบเข้าหากันได้แสดงว่าศีรษะทารก ยังไม่ผ่านลงสู่ช่องเชิงกราน แต่ถ้าปลายนิ้วมือสอบเข้าหากันไม่ได้แสดงว่าศีรษะทารกผ่านลงสู่ ช่องเชิงกรานแล้ว 4. ตรวจหาส่วนนำและทรงของทารก ถ้าศีรษะเป็นส่วนนำจะพบว่ากลม เรียบ แข็ง มี ballottement คลำร่องคอและ cephalic prominence ได้ ส่วนก้นจะไม่พบร่องคอและ cephalic prominence ถ้าคลำ cephalic prominence ได้ชัดอยู่ด้านตรงข้ามหลังและใกล้สะดือมาก ทารก อยู่ทรงก้ม มี Vertex presentation การฟังเสียงหัวใจทารก สามารถฟังโดยการใช้หูฟังวางทาบกับผนังหน้าท้อง การฟังเสียงหัวใจทารกสามารถ วินิจฉัยการตั้งครรภ์แฝด สภาพการมีชีวิตของทารก ส่วนนำและท่าของทารกในครรภ์ ตำแหน่งที่จะได้ยินเสียงหัวใจทารกขึ้นกับส่วนนำ ท่าและทรงของทารก ตำแหน่งที่ฟังได้ชัดเจนที่สุด คือ บริเวณสะบักซ้ายของทารก “left scapula region” เนื่องจากทารกอยู่ทรงก้ม หลังโค้งทาบใกล้กับผนังมดลูกมากที่สุด ปกติเสียงหัวใจทารกจะได้ ยินชัดต่ำกว่าระดับสะดือ แต่ถ้าศีรษะเคลื่อนเข้าสู่ช่องเชิงกรานแล้วตำแหน่งหัวใจของทารกอาจ ต่ำมากใกล้กับเชิงกราน ในท่าก้นจะได้ยินชัดบริเวณระดับสะดือหรือสูงกว่า
8.
อัตราการเต้นของหัวใจทารกจะประมาณ 120-160 ครั้งต่อนาทีและเป็นเสียงคู่
ดัง ตุบ ตุบ แต่ละคู่ที่ฟังได้คือการเต้นของหัวใจทารก 1 ครั้ง ระหว่างที่มีการหดรัดตัวของมดลูกเสียง หัวใจของทารกจะเต้นเร็วกว่าปกติแล้วเปลี่ยนเป็นช้าลง แต่จะไม่ต่ำกว่า 100 ครั้งต่อนาที ดังนั้น จึงควรฟังเสียงหัวใจของทารกหลังจากมดลูกคลายตัว 20-25 วินาที ขณะฟังควรจับชีพจรหญิง ตั้งครรภ์พร้อมกันเพื่อเปรียบเทียบและแยกว่าเสียงที่ฟังได้นั้นเป็นเสียงหัวใจทารกจริงๆ นอกจากเสียงหัวใจทารกแล้วยังมีเสียงอื่นที่ได้ยินร่วมด้วย เช่น (1) เสียงจากสายสะดือ (umbilical cord souffle หรือ funic souffle) ซึ่งเป็นเสียงที่ได้ ยินจากการที่เลือดไหลผ่านภายในหลอดเลือดของสายสะดือทารกไม่สะดวกจากการถูกกดหรือ ถูกบีบหรือสายสะดือผิดมากๆ เสียงที่ได้ยินจะเป็นเสียงฟู่ๆ มีอัตราการเต้นเท่ากับหัวใจทารก (2) เสียงจากหลอดเลือดของมดลูก (uterine souffle) เป็นเสียงที่ได้ยินจากการที่เลือด ไหลผ่านหลอดเลือดของมดลูก มีอัตราการเต้นเท่ากับชีพจรของหญิงตั้งครรภ์ (3) เสียงการเคลื่อนไหวของทารก โดยเฉพาะการดิ้นทั้งตัวหรือการพลิกตัวของ ทารก และถ้าดิ้นแล้วส่วนของทารกกระทุ้งถูกผนังมดลูกจะเกิดเสียงดังตุบ (Fetal shocking sound) ส่วนต่างๆ ของทารกและกระโหลกศีรษะ 1. ส่วนของทารก ปกติทารกในครรภ์จะงอหมดทุกส่วน คือ หลังงอ ศีรษะก้ม แขนขางอ ทุกข้อต่องอ ทำให้อยู่ในรูปไข่ (ovoid shape) และมีขั้ว 2 ขั้ว คือ ขั้วหัวและขั้วก้น
9.
2. ศีรษะทารก ประกอบด้วย
- หน้าผาก (brow หรือ sinciput) คือ บริเวณระหว่างคิ้วหรือกระดูกของตาไปถึงขม่อม หน้า - ส่วนยอดศีรษะ (vertex) คือ บริเวณจากขม่อมหน้าถึงขม่อมหลัง - ส่วนท้ายทอย (occiput) คือ บริเวณจากขม่อมหลังถึงปุ่มกระดูกท้ายทอย - ส่วนใต้ท้ายทอย (subocciput) คือ ส่วนของหัวที่อยู่ต่ำกว่าปุ่มกระดูกท้ายทอย - ไบพาไรเอตัล (biparietal) อยู่ระหว่างส่วนนูนที่สุดของกระดูกไบพาไรเอตัล เป็นส่วน ที่กว้างที่สุดของศีรษะทารก - ไบเทมไพรอล (bitemporal) อยู่ระหว่างกระดูกเทมโพรอล
10.
3. แนวของลำตัวทารก (lie)
หมายถึง ความสัมพันธ์ระหว่างความยาวของทารกกับความ ยาวของโพรงมดลูก 3.1. แนวยาว (longitudinal lie) คือ ความยาวของทารกอยู่ในแนวตามความยาวของ โพรงมดลูก 3.2. แนวขวาง (transverse lie) คือ ลำตัวทารกหรือสันหลังทารกจะขวางกับความยาว ของโพรงมดลูก 4. ทรงของทารก (attitude) หมายถึง ความสัมพันธ์ระหว่างแขน ขา ลำตัว และศีรษะทารก แบ่งออกเป็น 4.1. ทรงก้ม (flexion) คือ ทารกอยู่ในท่าก้ม ศีรษะคางจรดอก หลังก้ม แขนงอ ขางอติด หน้าท้อง เป็นรูปไข่ ซึ่งเป็นทรงปกติของทารกในครรภ์ 4.2. ทรงเงย (deflexion) คือ ทารกมีการเงยของศีรษะ 5. ส่วนนำ (presentation) คือ ส่วนนำเป็นส่วนของทารกที่อยู่ตรงส่วนล่างของมดลูกใน แนวยาว แบ่งออกเป็น 2 อย่าง คือ 5.1. ทารกเอาศีรษะเป็นส่วนนำ (cephalic presentation) พบได้ประมาณ 97 เปอร์เซ็นต์ 5.2. ทารกเอาก้นเป็นส่วนนำ (breech presentation) 6. จุดอ้างอิง (denominator) หมายถึง ส่วนของทารกบนส่วนนำเพื่อใช้ส่วนนี้บอกท่าของ ทารกตามส่วนนำ ดังนี้ (วราวุธ, 2529; สุรีย์และธีระ, 2537) 6.1. ส่วนนำเป็นศีรษะทารกที่มีการก้มเต็มที่ (vertex presentation) มีกระดูกท้ายทอย (occiput) เป็นจุดอ้างอิง 6.2. ส่วนนำเป็นศีรษะทารกที่มีการเงยเล็กน้อย (bregma presentation) ส่วนของขม่อม หน้าจะเป็นส่วนที่อยู่ต่ำที่สุดมีกระดูกท้ายทอย (occiput) เป็นจุดอ้างอิง 6.3. ส่วนนำเป็นศีรษะทารกมีการเงยขึ้นอีก (brow presentation) ส่วนของหน้าผากทารก เป็นส่วนที่อยู่ต่ำที่สุด มีกระดูกฟรอนทัล (frontal) เป็นจุดอ้างอิง 6.4. ส่วนนำเป็นศีรษะทารกมีการแหงนหน้าเต็มที่ (face presentation) หน้าทารกจะเป็น ส่วนที่อยู่ต่ำที่สุดมีคางเป็นจุดอ้างอิง
11.
6.5. ส่วนนำเป็นก้น (breech
presentetion) มีกระดูกก้นกบ (sacrum) เป็นจุดอ้างอิง 7. ท่าของทารก (position) คือ ความสัมพันธ์ระหว่างจุดอ้างอิงกับช่องเชิงกรานของมารดา การที่จะบอกว่าทารกอยู่ในท่าใดก็ขึ้นอยู่กับจุดอ้างอิงนั้นๆ ในท่าส่วนนำเป็นศีรษะ ทารกมีการก้มมีกระดูกท้ายทอยเป็นจุดอ้างอิง ซึ่งจะมีท่าของ ทารกได้ 6 แบบ ดังนี้ (Dickason, 1998) 7.1. ท้ายทอยอยู่ทางด้านหน้าข้างซ้ายของช่องเชิงกราน (left occiput anterior) ย่อว่า LOA 7.2. ท้ายทอยอยู่แนวขวางของช่องเชิงกราน (left occiput transverse) ย่อว่า LOT 7.3. ท้ายทอยอยู่ด้านหลังข้างซ้ายของช่องเชิงกราน (left occiput posterior) ย่อว่า LOP 7.4. ท้ายทอยอยู่ด้านหน้าข้างขวาของช่องเชิงกราน (right occiput anterior) ย่อว่า ROA 7.5. ท้ายทอยอยู่แนวขวางของช่องเชิงกราน (right occiput transverse) ย่อว่า ROT 7.6. ท้ายทอยอยู่ด้านหลังข้างขวาของช่องเชิงกราน (right occiput posterior) ย่อว่า ROP
Download