การนาเสนอภาพนิ่งนี้ จัดทาขึ้นจาก หนังสือคู่มือซอฟต์แวร์การวางแผนทรัพยากรองค์กร ERP
ของ ดร.คานาย อภิปรัชญาสกุล
ผู้จัดทาการนาเสนอภาพนิ่ง มิได้มีเจตนาละเมิดลิขสิทธิ์ แต่จัดทาขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาเท่านั้น
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ 1
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
ERP และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง
การรีเอ็นจิเนียริ่งกระบวนการทางธุรกิจ
คลังข้อมูล
เหมืองข้อมูล
การประมวลผลเชิงวิเคราะห์ออนไลน์
การจัดการซัพพลายเชน
แพลทฟอร์มเทคโนโลยีใหม่
2
สถาปัตยกรรมทางเทคนิคของซอฟต์แวร์
สถาปัตยกรรมทางเทคนิคของซอฟต์แวร์ ERP
ความต้องการทางธุรกิจ
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
ERP ย่อมาจาก Enterprise Resource Planning ซึ่งหมายถึง เทคนิคและหลักการ
สาหรับเชื่อมต่อการจัดการในกระบวนการทางธุรกิจทั้งระบบ เพื่อให้เกิดประสิทธิผลในการ
จัดการทรัพยากรและปรับปรุงประสิทธิภาพขององค์กร โดยระบบจะทาหน้าที่เชื่อมข้อมูลที่
แยกกันอยู่ เข้าสู่ระบบเดียวกัน ตั้งแต่ การจัดการวัสดุ การวางแผนการผลิต การขาย การ
กระจายสินค้า บัญชีและการเงิน การจัดการทรัพยากรมนุษย์ เป็นซอฟต์แวร์ชุดเดียว
3
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
ซอฟต์แวร์ ERP ระบบเดี่ยว มีข้อจากัด ดังนี้
1. ผู้จัดการไม่สามารถสร้างรายงานตามความต้องการได้ ต้องอาศัยความช่วยเหลือจาก
โปรแกรมเมอร์
2. ระบบ ERP ให้ข้อมูลสถานะในปัจจุบันเป็นหลัก เช่น การเปิดใบสั่งซื้อ ซึ่งผู้บริหาร
จาเป็นต้องทราบสถานะต่าง ๆ ในกระบวนการทางธุรกิจ เพื่อให้ทราบแนวโน้ม และ
รูปแบบในการทาการตัดสินใจได้ดีขึ้น
3. ข้อมูลในการประยุกต์ใช้ใน ERP ไม่มีการเชื่อมต่อกับองค์กรอื่นภายนอก หรืองานฝ่ายอื่น
ๆ ทั้งในภาครัฐและเอกชน
4
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
จากภาวะการแข่งขันในตลาด ERP ในประเทศไทย ซึ่งมีผู้ขายซอฟต์แวร์เป็นจานวน
มาก จะต้องหาแนวทางขยายเข้าสู่ส่วนตลาดต่าง ๆ การขยายจากระบบเดิม ซึ่งซอฟต์แวร์ที่
สามารถใช้งานได้ในอนาคตต้องมีเทคโนโลยีเชื่อมต่อเชิงบูรณาการ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
BPR : Business Process Reengineering คือ การปรับแก้กระบวนการทางธุรกิจ
หรือการรีเอ็นจิเนียริ่ง เป็นสิ่งที่ต้องดาเนินการต่อเนื่องในระยะยาว ต้องลงมือดาเนินการ
มากกว่าการโฆษณาเพื่อให้เกิดความสาเร็จในวันเวลาที่ต้องการ ซึ่งส่งผลดีต่อองค์กร บุคลากร
ในบริษัท และการสร้างแรงจูงใจในการเปลี่ยนแปลง
5
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
ดร.ไมเคิล แฮมเมอร์ ได้ให้ความหมายว่า “เป็นพื้นฐานในการนามาคิดใหม่ และการ
ออกแบบกระบวนการทางธุรกิจใหม่ เพื่อให้สามารถปรับปรุงงานส่วนที่เป็นวิกฤติขององค์กร มี
การวัดผลดาเนินงานจากต้นทุน คุณภาพ การบริการและความรวดเร็ว”
เราจะพบว่าระบบ ERP ช่วยในการบูรณาการกระบวนการทางธุรกิจขององค์กรเพื่อ
ช่วยให้มีการพัฒนาการในยุคใหม่โดยมีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาเกี่ยวข้อง
6
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
ข้อมูลเชิงปฏิบัติการ จะเก็บไว้ในฐานข้อมูลของระบบ ERP เมื่อเวลาผ่านไปข้อมูลจะ
เพิ่มมากขึ้น และกระทบต่อผลงานของระบบ ERP ดังนั้น ข้อมูลใดไม่ได้ใช้ควรจะนาออกจาก
ระบบฐานข้อมูล และเก็บไว้ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง เพื่อรักษาไว้ใช้ในโอกาสที่จาเป็น
7
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
เหมืองข้อมูลเป็นกระบวนการกาหนดข้อมูลที่
ยังคงใช้ได้ ประวัติข้อมูล การใช้ประโยชน์และข้อมูลเข้าใจ
จนถึงจุดสุดท้ายได้จากฐานข้อมูล ทาให้การตัดสินใจทาง
ธุรกิจได้ดี ระบบเหมืองข้อมูลสมัยใหม่จะเรียนรู้ด้วยตนเอง
จากผลข้อมูลที่ได้วิเคราะห์แล้วจากระบบที่ผ่านมา การ
กาหนดรูปแบบและการทดสอบสมมุติฐานเกี่ยวกับกฎต่าง
ๆ ที่สร้างขึ้น ซึ่งระบบจะยอมรับความรู้ที่มีมูลค่าที่ระบบ
สนใจจะค้นหาซึ่งต้องเชื่อมต่อกับระบบสนับสนุนการ
ตัดสินใจ ซึ่งช่วยให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจทางธุรกิจได้ดี
ขึ้น
8
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
การประมวลผลเชิงวิเคราะห์ออนไลน์ เกี่ยวข้องกับธุรกิจอัจฉริยะ ซึ่งอันดับแรกต้อง
สามารถให้คาจากัดความของ 5 คาศัพท์ ดังนี้
1. รวดเร็ว หมายถึง ระบบที่ได้กาหนดเป้าหมายเพื่อจัดส่งข้อมูลในการตอบสนองต่อผู้ใช้งาน
ภายใน 5 วินาที โดยงานง่าย ๆ สามารถวิเคราะห์ภายใน 1 วินาที และงานยากสามารถ
วิเคราะห์ได้ใน 20 วินาที
2. การวิเคราะห์ หมายถึง ระบบสามารถรับมือกับรูปแบบธุรกิจต่าง ๆ และการวิเคราะห์เชิง
สถิติที่เกี่ยวข้องสาหรับการประยุกต์ใช้งาน ผู้ใช้งาน รักษาง่ายและเพียงพอสาหรับผู้ใช้เป้าหมาย
9
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
3. การใช้ข้อมูลร่วมกัน หมายถึง ระบบได้ติดตั้งระบบความปลอดภัยของข้อมูล สาหรับเก็บเป็น
ความลับ ง่ายในการเจาะลงไปในระดับเซล ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้หลายคน
สามารถกระทาร่วมกันในระดับที่เหมาะสมตามที่ตกลงไว้
4. หลายขนาด หมายถึง ระบบต้องจัดเตรียมข้อมูลในหลายมุมมองและหลายขนาด รวมถึงการ
สนับสนุนเต็มรูปแบบในการจัดระบบตามลาดับขั้นและการจัดระบบหลายลาดับขั้น
5. สารสนเทศ เป็นการนาข้อมูลที่ได้กลั่นกรองแล้วว่ามีความแม่นยาอยู่ในเวลาที่เหมาะสมและ
เกี่ยวข้องกับผู้ใช้งาน
10
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
เทคโนโลยีการประมวลผลเชิงวิเคราะห์ออนไลน์ ใช้เพื่อเพิ่มขอบเขตในการประยุกต์ใน
ระบบ ERP ให้สูงขึ้น ซึ่งประกอบด้วยชุดการวิเคราะห์การตลาดและการขาย รายงานทาง
การเงิน และการรวบรวม ข้อมูลทางเงินจากบริษัทในกลุ่ม การกาหนดงบประมาณ และการ
วางแผน นอกจากนั้นยังใช้ในการวิเคราะห์ราคา และความสามารถในการทากาไรของ
ผลิตภัณฑ์ ต้นทุนฐานกิจกรรม การวางแผนแรงงาน การวิเคราะห์คุณภาพ และเรื่องราวต่าง ๆ
ที่จาเป็นในการจัดการ ซึ่งต้องการความยืดหยุ่น จากภาพการจัดการจากระดับบนลงล่าง
11
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
ซัพพลายเชน เป็นเครือข่ายของสถานที่ต่าง ๆ ในการกระจายสินค้า ทาให้สามารถ
จัดซื้อวัสดุ แปรสภาพวัสดุ เป็นสินค้าระหว่างการผลิตและสินค้าสาเร็จรูปและกระจายสินค้า
เหล่านี้ไปยังลูกค้า ซึ่งซัพพลายเชนจะมีทั้งในภาคการผลิตและการบริการ แต่ละซัพพลายเชน
จะมีความซับซ้อน ก็จะขึ้นกับอุตสาหกรรมต่ออุตสาหกรรม บริษัทต่อบริษัทและการขยายเข้าสู่
ซัพพลายเชนในระดับสากล
12
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ 13
ซอฟต์แวร์ ERP ที่สามารถประยุกต์ใช้ทั้งการค้า
การบริการและการผลิต เพื่อให้อุตสาหกรรม
ขนาดกลางและขนาดย่อม สามารถนาไปใช้ได้
โดยซอฟต์แวร์พัฒนาจาก Microsoft.Net
เพื่อให้สามารถครอบคลุมซัพพลายเชนได้ใน
อนาคต
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
แบบจาลองที่ 1 ใช้ในซอฟต์แวร์ที่ใช้ในระบบคอมพิวเตอร์
เมนเฟรม โดยติดตั้งซอฟต์แวร์ลงในแต่ละเครื่อง ทั้งข้อมูล
ป้อนเข้าและผลลัพธ์ที่ได้เกิดจากการใช้งานผ่านสถานี ซึ่ง
โครงสร้างสถาปัตยกรรมเป็นแบบโมโนลิทิค ซึ่งหมายถึง การ
ประยุกต์ใช้เพื่อเป้าหมายในการนาไปขยายใช้งาน โดยมี
โปรแกรมเดียววิ่งบนเมนเฟรมชุดเดียว
14
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
แบบจาลองที่ 2 เป็นแบบจาลองเครื่องแม่ข่ายและเครื่องผู้ใช้งาน (Client/Server model)
15
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
แบบจาลองล่าสุด เป็นสถาปัตยกรรมที่เน้นการบริการ (Service-Oriented
Architecture : SOA) ซึ่งมีแนวคิดมาหลายปี ซึ่งนามาปฏิบัติการ และกระจายการใช้งานผ่าน
เวปเซอร์วิส ซึ่งการบริการด้วยระบบนี้มี 3 ลักษณะคือ
 การเชื่อมต่อเพื่อให้บริการเป็นแพลทฟอร์มที่อิสระกัน
การบริการที่สามารถกาหนดตาแหน่งและจุดอ้างอิงเชิงพลวัต
การบริการจะดาเนินการด้วยตนเอง
16
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ 17
ที่มา :
https://www.dvt.co.za/news-
insights/insights/item/99-is-
service-oriented-architecture-
soa-out-of-style
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
เทคโนโลยีที่สาคัญที่บริษัท นาเข้าสู่การพัฒนาโดยมีเป้าหมายเพื่อทาให้ผู้ใช้งาน เกิด
ความยืดหยุ่น ความน่าเชื่อถือ สามารถขยายความสามารถซอฟต์แวร์ได้และต้นทุนต่าแก่ผู้ที่ซื้อ
เพื่อใช้งาน มี 2 แพลทฟอร์ม ดังนี้
1. .NET Business
2. Microsoft.NET Platform
18
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
.NET Business เป็นการพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยแยกแพลทฟอร์มทางธุรกิจ ออกจากภาษาที่
พัฒนา เพื่อให้การพัฒนารวดเร็วขึ้น การนามาเข้าสู่ระบบ การบูรณาการ และการจัดการ เพื่อ
ให้ผลการดาเนินงานทางธุรกิจสูงสุด การออกแบบระบบนี้จึงส่งผลให้เกิดประสิทธิผลใน
ผลิตผลและต้นทุน
ระบบฐานข้อมูลที่ขึ้นกับแพลทฟอร์ม เป็นระบบจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ เพื่อให้
เข้าถึงภาษา Dot.NET และเครื่องมือจาก Microsoft SQL2010 และ Oracle 11g/DB2
ระบบปฏิบัติการที่ขึ้นกับแพลทฟอร์ม Dot.NET ยอม ให้ใช้ระบบปฏิบัติการได้หลาย
ผลิตภัณฑ์ เช่น Windows หรือ Linux ทาให้มีความยืดหยุ่นและขนาดใหญ่ขึ้น
19
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
Microsoft.NET Platform
เฟรมเวิร์ครวมถึงชุดของผลิตภัณฑ์สมบูรณ์ รวมถึงเครื่องมือในการพัฒนาภาษารันไทม์
และเครื่องแม่ข่ายยี่ห้อต่าง ๆ
Microsoft.NET : เป็นชุดของเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ไมโครซอฟต์ สาหรับเชื่อมโลกไปทั้ง
ข้อมูล คน ระบบ และอุปกรณ์ สามารถเชื่อมกัน โดยใช้การบริการผ่านเวป XML ซึ่งมีขนาดเล็ก
ทาซ้า ใช้เป็นการสร้างบร็อค เชื่อมกับคนอื่น สามารถเชื่อมต่อผ่านเวปไซต์ สามารถนาไปพัฒนา
ตามที่โปรแกรมเมอร์ต้องการ สามารถใช้ข้อมูลร่วมกันง่ายขึ้น
20
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ 21
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
แนวทางการเขียนโปรแกรม หมายถึง รูปแบบ ลักษณะ หรือทิศทางในการเขียนโปรแกรม
เพื่อให้ได้วัตถุประสงค์ตามต้องการ แนวทางการเขียนโปรแกรมมีด้วยกันหลายประเภท แต่
ประเภทหนึ่งที่นิยมใช้กันมากที่สุดในปัจจุบัน และเป็นแบบเดียวที่จะกล่าวถึง คือ การเขียน
โปรแกรมเชิงวัตถุ (Object Oriented Programming)
22
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
ปัจจุบันการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อจาหน่ายโดยใช้เครื่องมือหลักของ Microsoft ด้วยแนวทาง
การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ ด้วยภาษา C# หรือภาษาอื่นในชุด ใช้เครื่องมือพัฒนาหลัก คือ Visual
studio.Net ด้วยเหตุผล ดังต่อไปนี้
1. ระบบปฏิบัติการ Microsoft windows มีผู้ใช้มากกว่าร้อยละ 90 ในประเทศไทย และแนวโน้ม
ใน การเปลี่ยนไปใช้ระบบปฏิบัติการอื่นก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเหตุผลของกลยุทธ์
การตลาดของ Microsoft
2. เครื่องมือต่าง ๆ ในการพัฒนามีความสมบูรณ์มากขึ้นง่ายต่อการขยายงานศึกษา ง่ายและเข้ากัน
ได้สมบูรณ์ เพราะเป็นผลิตภัณฑ์จากบริษัทเดียวกัน
3. มีแหล่งทรัพยากรมาก เข้าใจง่ายและหาง่าย ทาให้ใช้เวลาในการศึกษาต่า เหมาะสาหรับ
การพัฒนซอฟต์แวร์ซึ่งมีการปรับเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วตลอดเวลา
23
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
แพลทฟอร์ม คือสภาวะแวดล้อมที่ประกอบด้วยฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของระบบ
คอมพิวเตอร์ระบบหนึ่ง เช่น แพลทฟอร์มเอ็มเอสดอสบนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ซีพียู 80486,
ยูนิกส์ บนเครื่องซัน SPARC station, System 7 บนเครื่องแมคอินทอช Powerbook 180
เป็นต้น จะเห็นได้ว่าในคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการต่างกัน ก็จะมี Platform ที่ต่างกันไป
ด้วย
24
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
Platform จะประกอบด้วย ระบบปฏิบัติการ ,โปรแกรมประสานงานระบบคอมพิวเตอร์
และ ไมโครโพรเซสเซอร์ ซึ่ง Microchip ของคอมพิวเตอร์ใช้ในการทางานด้ายตรรกะ และจัดการการ
เคลื่อนย้ายข้อมูล ระบบปฏิบัติการต้องได้รับการออกแบบให้ทางานกับคาสั่งของ ไมโครโพรเซสเซอร์
เช่น Microsoft Windows 95 ได้รับการสร้างให้ทางานกับชุดคาสั่งของ ไมโครโพรเซสเซอร์ของ
Intel เพื่อการใช้คาสั่งร่วมกัน นอกจากนี้ ยังหมายถึงส่วนอื่น ๆ เช่น เมนบอร์ด และ บัสของข้อมูล
แต่ส่วนเหล่านี้กาลังเพิ่มลักษณะที่เป็นโมดูล และมาตรฐานมากขึ้น ในอดีตโปรแกรมประยุกต์แต่ละ
โปรแกรมยังจะเขียนใหม่ให้ทางานเฉพาะ platform เนื่องจากแต่ละ Platform มีโปรแกรมอินเตอร์
เฟซที่ต่างกัน ดังนั้น โปรแกรมของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลต้องมีการเขียนให้ทางานกับ Windows ชุด
หนึ่ง และทางานกับ Macintosh อีกชุดหนึ่ง แต่ระบบเปิดหรือมาตรฐานด้านอินเตอร์เฟซยินยอมให้
บางโปรแกรมทางานกับ Platform ที่ต่างกันโดยผ่านโปรแกรมตัวกลาง หรือ broker Programs
25
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
แอปพลิเคชั่นแพลตฟอร์ม หมายถึง รูปแบบทางสถาปัตยกรรมของแอปพลิเคชั่น หรือ
ซอฟต์แวร์สาเร็จรูปสาหรับใช้งาน มีทั้งหมด 7 ยุค จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นยุคที่เจ็ด เกิดแนวคิดใน
การแบ่งส่วน (Tier) ของเครื่องแม่ข่ายออกเป็นหลายส่วนตามการใช้งาน เช่น Web server
Application server Database server Network server Printer server และอื่น ๆ ซึ่งแต่
ละส่วนก็ได้มีการจัดเตรียมส่วนโปรแกรมมิ่งแอปพลิเคชั่น (Application Programming
Interface: API) เพื่อความสะดวกในการพัฒนาซอฟต์แวร์โดยเฉพาะ ในภายหลังจึงได้มีการ
คิดค้นมาตราฐานกลาง สาหรับเชื่อมต่อ API นี้เข้าด้วยกัน เรียกว่า Extensible Markup
Language (XML) แอปพลิเคชั่นแพลตฟอร์ม ในยุคนี้ก็ใช้ XML เป็นมาตรฐานในการเชื่อมต่อ
เช่นเดียวกัน มีชื่อเรียกว่า Distributed Web Application หรือชื่อที่คุ้นเคยกันคือ เว็บเซอร์วิส
26
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
หมายถึงโครงสร้างทั้งเชิงกายภาพและเชิงตรรกะของซอฟต์แวร์ โครงสร้างเชิงกายภาย
ได้แก่ อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์หน้าที่การทางาน ลักษณะการเชื่อมต่อต่าง ๆ โครงสร้างเชิงตรรกะ
ได้แก่ ซอฟต์แวร์ โปรแกรม หรือแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ หน้าที่การทางาน โปรโตคอล หรือ
มาตราฐานต่าง ๆ ที่ใช้
27
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
1. แบบ Single Tier หมายถึง ทุกส่วนการประมวลผล จะอยู่ในหน่วยประมวลผลเครื่อง
เดียวกัน
28
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
2. แบบ Dual Tier หรือ แบบไคเอนด์เซิร์ฟเวอร์ จะแยกออกเป็นสองส่วนคือส่วนเครื่องแม่
ข่ายหรือเซิร์ฟเวอร์และส่วนเครื่องลูกข่ายหรือไคลเอนต์ สถาปัตยกรรมลักษณะนี้แยก
ออกเป็นสองแบบย่อย คือ Thin Client กับ Fat Client
29
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ 30
จะรวมส่วนการประมวลผลทั้งหมดและการจัดเก็บข้อมูลไว้ในเครื่องแม่ข่ายเพียงแห่ง
เดียว ส่วนเครื่องลูกข่ายมีหน้าที่ร้องขอทาการประมวลผล แล้วจึงรอรับข้อมูลผลลัพธ์เท่านั้น
เหมาะสาหรับระบบที่มีเครื่องแม่ข่ายที่มีคุณภาพสูง และเครื่องลูกข่ายมีคุณภาพต่า
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
จะประมวลผลทั้งหมดในเครื่องลูกข่ายเอง แต่เพียงส่งข้อมูลมาเก็บไว้ในเครื่องแม่ข่าย
เท่านั้น เครื่องแม่ข่ายนี้จะถูกเรียกว่าเครื่องแม่ข่ายฐานข้อมูล (Database server) เหมาะ
สาหรับ ระบบที่มีเครื่องลูกข่ายใช้งานปริมาณมาก ๆ ซึ่งภาระในการประมวลผลของฝั่งเครื่อง
แม่ข่ายนั้นหนักเกินไป
31
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ 32
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
จะแบ่งออกเป็นหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับผู้ออกแบบ แต่แนวคิดหลักคือ แบ่งภาระงาน
ของเครื่องแม่ข่ายออกเป็นส่วนย่อย ๆ ซึ่งอาจจะใช้ เกณฑ์ในการแบ่งหลายวิธี เช่น ปริมาณงาน
ประเภทของงาน หรือแม้กระทั่งแบ่งเพื่อความเป็นศูนย์กลางของซอฟต์แวร์
สถาปัตยกรรมแบบ Multi-tier (หรือ n-tier) คือสถาปัตยกรรมแบบ Client-Server ที่
มีการแยกการแสดงผล (Presentation) การประมวลผล (Application Processing) และการ
จัดการข้อมูล (Data Management) ออกจากกัน
33
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
หนึ่งในสถาปัตยกรรมแบบ Multi-tier ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย คือ แบบ Three-Tier โดย
ประกอบด้วย 3 ส่วนคือ
• Presentation Tier – User Interface (A PC)
• Application Tier – Handles the interaction between the Web browser client
and the data storage tier. (A server)
• Data Storage Tier – Responsible for Data Storage (A database)
34
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ 35
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
การออกแบบสถาปัตยกรรมสาหรับพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อจาหน่าย ยึดเกณฑ์หลักคือ
ความเป็นศูนย์กลางของซอฟต์แวร์และหน้าที่การทางาน พัฒนาขึ้นมาจากสถาปัตยกรรมแบบ
ไคลเอนต์ เซิร์ฟเวอร์ (Thin client) แต่แบ่งส่วนเครื่องแม่ข่ายออกเป็นส่วนย่อย ๆ รวมทั้งสิ้น 6
ส่วน คือ
1. User Interface (UI) 4. O/R Mapper (ORM)
2. Boundary (BD) 5. Data Access (DA)
3. Business Logic (BL) 6. Physical Data (PD)
36
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
ส่วนติดต่อระหว่างผู้ใช้กับระบบ เพื่อการเตรียมสารสนเทศและการนาสารสนเทศนั้น
ไปใช้โดยการตอบโต้กับคอมพิวเตอร์
37
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
เป็นส่วนของขอบเขตของ UI หมายถึงโค๊ดทั้งหมดในส่วนของ UI จะเป็น HTML และ
ASP.NET แต่ในส่วนการทางานทั้งหมดจะเป็น code ภาษา C# ส่วน BD นี้จะทาหน้าที่ Map
คอนโทรลและตัวแปรทั้งหมดในโปรแกรมให้สอดคล้องกัน
38
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
เป็นส่วนการประมวลผลธุรกรรมหลักทั้งหมดของซอฟต์แวร์ ซึ่งพัฒนาด้วยภาษา C# ล้วน ๆ ใน
ส่วนนี้เองจะเรียกใช้คลาสหรือทรัพยากรต่าง ๆ ใน .Net Framework มากมาย
39
https://medium.com/@uraniumshee
p/business-logic-adapters-platforms-
and-how-to-plug-it-together-
83431f500a55
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ 40
เป็นส่วนจัดเก็บข้อมูลชั่วคราวทุกอย่างในระบบเพื่อเตรียมการประมวลผลอย่างใดอย่างหนึ่ง
https://na5cent.blogspot.com/
2013/01/orm-object-relational-
mapping-java.html
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
เป็นส่วนติดต่อฐานข้อมูล เพื่อกระทาการอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งถูกกาหนดจากส่วน ORM
41
https://fugoconsulting.wordpress.c
om/2011/05/26/understanding-
obdal-in-openbravo/
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
คือ ฐานข้อมูล หรือแหล่งจัดเก็บข้อมูลจริง ๆ
42
https://docs.microsoft.com/en-us/sql/relational-
databases/linked-servers/linked-servers-database-
engine?view=sql-server-2017
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
ERP สร้างพลังจากสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์ฐานบริการ (SOA) เพื่อให้เป็นซอฟต์แวร์ ในยุค
ต่อไป ซึ่งซอฟต์แวร์ทาให้เกิดผลดีต่อธุรกิจ ดังนี้
- สร้างเพื่อให้เกิดผลดีที่สุด - สร้างเพื่อให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้
- สร้างเพื่อความร่วมมือ - สร้างเพื่อให้มีความน่าเชื่อถือ
- สร้างเพื่อให้ปรับแก้ได้ - สร้างเพื่อให้สามารถขยายความสามารถซอฟต์แวร์ได้
- สร้างเพื่อให้เคลื่อนที่ง่าย - สร้างเพื่อให้มีความปลอดภัย
- สร้างเพื่อให้มีความยืดหยุ่น - สร้างเพื่อให้ใช้ร่วมกับเทคโนโลยีเรียลไทม์
43
ดร.ธีทัต ตรีศิริโชติ
- สร้างเพื่อให้มีการมีเติบโต - สร้างเพื่อใช้งานร่วมกับ ดอทเนต
- สร้างเพื่อให้รองรับธุรกิจระดับสากล - สร้างเพื่อให้มีบริการผ่านเวป
- สร้างเพื่อให้เหมาะกับประสบการณ์ของผู้ใช้งาน - สร้างเพื่อให้มีฟังก์ชั่นงานที่ครบถ้วน
- สร้างเพื่อให้ต้นทุนของเจ้าของกิจการต่าลง - สร้างเพื่อใช้ในร้านค้า
- สร้างเพื่อใช้ในโรงงาน - สร้างเพื่อใช้ในคลังสินค้า
- สร้างเพื่อให้องค์กร
44

Chapter 4 ERP and related technologies