SCB EIC
Monthly
เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง-ปีหน้าเสี่ยงชะลอตัวแรง
SCB EIC มองผลกระทบขึ้นอยู่กับผลเจรจาภาษีสหรัฐฯ
ก่อนถึงกาหนด 1 ส.ค.
Issue : July 2025
2
Executive summary
SCB EIC ประเมินเศรษฐกิจไทยปี 2025 จะขยายตัวใกล้เคียงมุมมองเดิมที่ 1.5% แม้ในกรณีที่ไทยจะสามารถเจรจาลดกาแพงภาษีสหรัฐฯ ลงมาได้บ้าง ภายใน 1 ส.ค. แต่ยังสูงกว่าคู่แข่งหลัก
• เศรษฐกิจไทยยังมีปัจจัยบวกจากเครื่องชี้ไตรมาส 2 ที่สูงกว่าคาด โดยเฉพาะ Front-loading สินค้าส่งออกก่อนสหรัฐฯ จะเริ่มเก็บภาษีนาเข้าสูงไว้แล้ว สาหรับช่วง H2 เศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบรุนแรงขึ้น จาก Reciprocal
tariffs ไทยที่อาจสูงกว่าคู่แข่งในสหรัฐฯ มุมมองเศรษฐกิจไทยในปี 2026 จะขยายตัวต่าลงมากเหลือเพียง 1.2% (เดิม 1.4%) จากการส่งออกและลงทุน
ที่จะหดตัวแรงขึ้น
o กรณีไทยเจรจาไม่สาเร็จ (Worse case) สหรัฐฯ ยังเก็บภาษีตอบโต้ไทยที่ 36% เศรษฐกิจไทยอาจเติบโตเพียง 1.1% ในปีนี้ และต่าลงมากเหลือ 0.4% ในปี 2026
• สินค้าส่งออกสาคัญของไทยกาลังเผชิญความเสี่ยงจากการสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ ให้คู่แข่งที่เผชิญภาษีตอบโต้อัตราต่ากว่า โดยเฉพาะกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า
มีแนวโน้มสูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้คู่แข่งในอาเซียน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
• ไทยยังอาจเผชิญความเสี่ยงจากการถูกเก็บภาษีสวมสิทธิ เช่นเดียวกับเวียดนาม จะยิ่งเพิ่มต้นทุนการค้า เผชิญมาตรการตรวจสอบแหล่งกาเนิดสินค้าที่เข้มงวดขึ้น และอาจกระทบการส่งออกสินค้าที่มี High import content เพิ่มเติม
• อุตสาหกรรมเกษตรและปศุสัตว์ โดยเฉพาะสุกร ไก่เนื้อ และข้าวโพด จัดว่ามีความอ่อนไหวสูง หากไทยต้องเปิดตลาดเสรีให้สินค้าสหรัฐฯ เนื่องจาก (1) ต้นทุนการผลิตของไทยสูงกว่าสหรัฐฯ
(รวมค่าขนส่งมาไทย) ค่อนข้างมาก (2) ปัจจุบันไทยพึ่งพาผลผลิตนี้ในประเทศเป็นหลัก หากจะต้องพึ่งพาการนาเข้า ต้องพิจารณาประเด็นความมั่นคงทางอาหารของประเทศอย่างสมดุล และ (3) ผู้ผลิตและผู้เล่นที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่
การผลิตในประเทศอาจได้รับผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อยที่มีต้นทุนผลิตสูงกว่า ดังนั้น หากจะมีการเปิดเสรีสินค้าในภาคเกษตร ภาครัฐจะต้องเตรียมมาตรการเพื่อรองรับผลกระทบและช่วยผู้ประกอบการ และ
เกษตรกรในการปรับตัวอย่างเหมาะสม
SCB EIC ประเมินการเลื่อนเก็บภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ เป็น 1 ส.ค. และการเจรจากับประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ ที่มีความคืบหน้า มีส่วนช่วยให้มุมมองเศรษฐกิจโลกในปี 2025 ปรับดีขึ้นบ้าง แต่ผลของกาแพงภาษีสหรัฐฯ จะชัดเจน
มากขึ้นหลังเดือน ส.ค. และจะกดดันเศรษฐกิจโลกต่อเนื่องไปถึงปี 2026
• กิจกรรมเศรษฐกิจของโลกยังขยายตัวได้ดีจากการเร่งผลิตเพื่อส่งออกในช่วงครึ่งปีแรก เช่น เศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวได้ดีกว่าคาดในไตรมาส 2 ส่วนหนึ่งจากการส่งออกที่ขยายตัวดี โดยเฉพาะตลาดอาเซียนและยุโรป รวมถึงกาแพง
ภาษีของสหรัฐฯ ต่อสินค้าจีนได้ลดลงบ้างตั้งแต่เดือน พ.ค. อย่างไรก็ดี การนาเข้าของสหรัฐฯ เริ่มปรับลดลงหลังเร่งนาเข้าล่วงหน้า (front-load) ไปมากตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 4 ปี 2024 ต่อเนื่องในไตรมาส 1 ปีนี้
• สหรัฐฯ เจรจาประเทศต่าง ๆ คืบหน้ามากขึ้น โดยเฉพาะหลังส่งจดหมายถึงคู่ค้าหลักกลุ่มแรก ๆ แจ้งอัตราภาษีตอบโต้ที่จะเริ่มเป็น 1 ส.ค. และเร่งให้คู่ค้ายื่นข้อเสนอที่ดีขึ้นอีก นอกจากนี้ สหรัฐฯ
ยังขู่จะเริ่มเก็บภาษีรายสินค้าเพิ่มอีกหลายรายการในปีนี้ เช่น ทองแดง ยา เซมิคอนดักเตอร์
• นโยบายการเงินโลกยังมีแนวโน้มผ่อนคลายในปีนี้ แต่ความเสี่ยงจากสงครามการค้าจะมีผลต่อความไม่แน่นอนของนโยบายการเงินในระยะข้างหน้า เช่น Fed จะยังไม่เร่งปรับลดดอกเบี้ยใน Q3 จากตลาดแรงงานยังแข็งแกร่ง
และผลกระทบกาแพงภาษีต่อเงินเฟ้อยังไม่ชัดเจน ขณะที่ญี่ปุ่นมีแนวโน้มคงดอกเบี้ยนโยบาย จากผลกาแพงภาษีที่กระทบค่าจ้างและชะลอวัฏจักรเชิงบวกของเงินเฟ้อ
SCB EIC มองว่ามีโอกาสมากขึ้นที่จะเห็น กนง. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 2 ครั้งในปีนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะข้างหน้าที่จะแย่ลงกว่าที่ กนง. เคยประเมินไว้
แต่หากการเจรจากับสหรัฐฯ ไม่สาเร็จ เศรษฐกิจไทยจะยิ่งเผชิญความเสี่ยงด้านต่าสูงขึ้น อาจมีโอกาสเห็น กนง. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมากกว่า 2 ครั้งภายในปีนี้
3
เศรษฐกิจโลก
สหรัฐฯ เลื่อนเก็บภาษีตอบโต้เป็น 1 ส.ค. ช่วยให้เศรษฐกิจโลกในปีนี้ไม่ชะลอตัวลงมาก
แต่สหรัฐฯ เร่งให้คู่ค้าเจรจาข้อเสนอที่ดีขึ้นอีก จะเป็นความเสี่ยงต่อเนื่องไปถึงปี 2026
4
มูลค่าการนาเข้าสินค้าของสหรัฐฯ กลับสู่แนวโน้มปกติ
หน่วย : พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ, ปรับฤดูกาล
เศรษฐกิจจีนเติบโตสูงกว่าคาดใน Q2/2025
หน่วย : %YOY, %QOQ_sa (RHS)
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) โลกชะลอลงบ้าง
หน่วย : ดัชนี, >50 สะท้อนการขยายตัว
5.3
4.7 4.6
5.4 5.4 5.2
1.4
1
1.3
1.6
1.2
1.1
0.0
0.5
1.0
1.5
2.0
0
1
2
3
4
5
6
Mar-24 Jun-24 Sep-24 Dec-24 Mar-25 Jun-25
%YOY %QOQ_sa
• เศรษฐกิจจีนขยายตัว 5.2%YOY ใน Q2 สูงกว่าตลาดคาด (5.1%)
แม้มีสัญญาณชะลอลงจากไตรมาสก่อน ส่วนหนึ่งจากการส่งออก
ที่ยังขยายตัวดี โดยเฉพาะในตลาดอาเซียนและยุโรป รวมถึงกาแพง
ภาษีของสหรัฐฯ ต่อสินค้าจีนได้ลดลงบ้างตั้งแต่เดือน พ.ค.
• ในช่วง H2 จีนอาจเผชิญความท้าทายมากขึ้น จากการบังคับใช้ภาษี
ตอบโต้อัตราสูงของสหรัฐฯ เงินฝืด และปัญหาภาคอสังหาฯ
50.3
49.3
51.9
51.5
51.7
45
46
47
48
49
50
51
52
53
54
55
Jan-24
Feb-24
Mar-24
Apr-24
May-24
Jun-24
Jul-24
Aug-24
Sep-24
Oct-24
Nov-24
Dec-24
Jan-25
Feb-25
Mar-25
Apr-25
May-25
Jun-25
Mnfg. Mnfg. Export Order
Services Services: New Business
Composite
• PMI สะท้อนกิจกรรมเศรษฐกิจโลกใน Q2 ขยายตัวชะลอลง
แต่ยังอยู่ในระดับที่ดี ส่วนหนึ่งผลจากการเร่งตัวก่อนได้รับ
ผลกระทบจากกาแพงภาษีของสหรัฐฯ เต็มที่
• ข้อมูลเดือน มิ.ย. ยังสะท้อนการเร่งดาเนินกิจกรรมเศรษฐกิจ
ในภาคการผลิต ภาคบริการชะลอตัวลงบ้าง
230
250
270
290
310
330
350
01/2023
03/2023
05/2023
07/2023
09/2023
11/2023
01/2024
03/2024
05/2024
07/2024
09/2024
11/2024
01/2025
03/2025
05/2025
มูลค่าการนาเข้า แนวโน้มเดิมปี 2023-2024
y = 1.2147x + 249.12
R^2 = 0.6831
• สหรัฐฯ นาเข้าสินค้าสูงกว่าแนวโน้มในอดีตมากถึง 1.69 แสนล้าน
ดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง ธ.ค. 2024 – มี.ค. 2025
• แต่การนาเข้าสหรัฐฯ เดือน เม.ย. - พ.ค. เริ่มลดต่ากว่าแนวโน้ม
ปกติ เฉลี่ยเดือนละ 7-9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
• ในระยะข้างหน้า ประเมินว่าสหรัฐฯ มีแนวโน้มนาเข้าลดลงต่อเนื่อง
กิจกรรมเศรษฐกิจโลกขยายตัวชะลอลงบ้างใน Q2 แต่ยังสะท้อนการเร่งผลิตและส่งออกก่อนกาแพงภาษีสหรัฐฯ
เริ่มบังคับใช้จริง ทั้งนี้การนาเข้าของสหรัฐฯ เริ่มชะลอลงกลับสู่แนวโน้มปกติ
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ National Bureau of Statistics of China, JP Morgan, S&P Global, US Commerce Department, US Census Bureau, และ HSBC
5
กาแพงภาษีล่าสุดที่สหรัฐฯ ทยอยส่งหนังสือถึงคู่ค้าช่วง 7-15 ก.ค. 2025 เทียบค่าเฉลี่ยโลก
หน่วย : % (รวม Reciprocal tariffs, Universal tariffs, Country specific tariffs)
50
40
40
36
36
35
35
30
30
25
25
25
25
20
19
0
10
20
30
40
50
60
บราซิ
ล
ลาว
เมี
ย
นมา
กั
ม
พู
ช
า
ไทย
แคนาดา*
เม็
ก
ซิ
โ
ก*
ศรี
ล
ั
ง
กา
สหภาพยุ
โ
รป
ญี
่
ป
ุ
่
น
มาเลเซี
ย
เกาหลี
ใ
ต้
บรู
ไ
น
ฟิ
ล
ิ
ป
ปิ
น
ส์
อิ
น
โดนี
เ
ซี
ย
ภาษีที่ประกาศ ณ 2 เม.ย. 2025 ภาษีที่ประกาศหลังจาก 7 ก.ค. 2025
ค่าเฉลี่ยอาเซียน (ไม่รวมไทย) = 26%
ค่าเฉลี่ยเอเชีย (ไม่รวมไทย) = 18%
ค่าเฉลี่ยโลก (ไม่รวมไทย) = 16%
กาแพงภาษีนาเข้ารายสินค้า (Product Specific Tariffs) ของสหรัฐฯ ตั้งแต่ต้นปี 2025
ยุโรป ชิลี สิงคโปร์ และอินเดียอยู่ในกลุ่มประเทศที่จะถูกกระทบจากภาษีทองแดงและยา (โดย HSBC)
หน่วย : % การนาเข้าทองแดงและยาเทียบการนาเข้าทั้งหมดจากประเทศนั้น ๆ ของสหรัฐฯ (HS-Code 8 หลัก)
สถานะปัจจุบัน ประเภทสินค้า
เก็บภาษีแล้ว รถยนต์/ส่วนประกอบ (25%) เหล็ก อะลูมิเนียม เครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิด (50%)
ขู่บังคับใช้ ทองแดง (50% เริ่ม 1 ส.ค.), ยา (อาจใช้บางส่วนตั้งแต่ 1 ส.ค. และเพิ่มเป็น 200%
ใน 1 – 1.5 ปีข้างหน้า), เซมิคอนดักเตอร์ (25% ไม่ระบุวัน แต่อาจเริ่ม 1 ส.ค.)
กาลังศึกษา ไม้ซุงและไม้แปรรูป, เซมิคอนดักเตอร์และอุปกรณ์สาหรับการผลิตชิป เวชภัณฑ์
และส่วนประกอบทางยา, รถบรรทุกขนาดใหญ่, อากาศยานพาณิชย์และ
เครื่องยนต์เจ็ต, แร่สาคัญที่ผ่านกระบวนการแปรรูปและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
สหรัฐฯ เร่งให้คู่ค้าเจรจาและยื่นข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ มากขึ้น โดยได้ทยอยส่งหนังสือแจ้ง Reciprocal
tariffs ล่าสุดให้คู่ค้ากลุ่มแรก ๆ และประกาศจะเก็บ Product specific tariffs เพิ่มเติม เช่น ทองแดง 50% และยา 200%
หมายเหตุ : อาจไม่รวมสินค้าภายใต้ข้อตกลง USMCA
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ The White House, US Commerce Department, US Census Bureau และ HSBC
นอกจากนี้ ในวันที่ 10 ก.ค. ทรัมป์ยังขู่
ขึ้นภาษีขั้นต่าสาหรับประเทศอื่นที่ไม่ได้
รับจดหมายหรือยังไม่ได้เจรจากับ
สหรัฐฯ เป็น 15-20% จากเดิม 10%
6
ข้อเสนอลดอัตราภาษีการบริโภค (Consumption Tax Rate : CTR) ของหลายพรรคการเมืองในญี่ปุ่น ดุลการค้าญี่ปุ่นกับสหรัฐฯ ในปี 2024 รายสินค้า
o หากรัฐบาลได้เสียงข้างมากในสภาบน : จะยังคงเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยในสภาล่าง การขาดดุลการคลัง
จะเพิ่มขึ้นจากัด การเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ จะดาเนินต่อเนื่อง
o หากรัฐบาลได้เสียงข้างน้อยในสภาบน : จะเสียอานาจทั้งสองสภา ผลตามมา 2 กรณี คือ
1) ไม่ยุบสภา เปลี่ยนนายก/ปรับ ครม. ฝ่ายค้านมีอานาจต่อรองมากขึ้น อาจเสนอลด CTR อัตราสูง ซ้าเติม
ปัญหาขาดดุลการคลังและหนี้สาธารณะสูง (237% GDP ในปี 2024) การเจรจากับสหรัฐฯ ยังต่อเนื่องได้
2) ยุบสภา เลือกตั้งทั่วไปใหม่ ส่งผลต่อเศรษฐกิจ และความต่อเนื่องในการเจรจากับสหรัฐฯ
การเจรจาการค้าญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ยืดเยื้อ เนื่องจากญี่ปุ่นต้องเจรจาทุกประเด็นในข้อตกลงเดียว (No partial deal)
และให้ความสาคัญบางเรื่องมาก เช่น
• ลด Specific tariffs ยานยนต์ ญี่ปุ่นเกินดุลการค้าสหรัฐฯ สูงอันดับ 7 ของโลกในปี 2024 โดย 86.4%
ของการเกินดุลการค้าเป็นสินค้ากลุ่มยานยนต์ (5.7 เท่าของ UK ซึ่งได้ดีลลดภาษียานยนต์จากสหรัฐฯ)
• ไม่เปิดตลาดสินค้าเกษตรบางชนิด โดยเฉพาะข้าว ซึ่งเป็นสินค้าที่ญี่ปุ่นกีดกันสูงมาโดยตลอด
พรรค / มาตรการลด CTR * CTR% CTR% Food ผลต่อรายได้ภาครัฐ (% GDP) โดย GS
อัตราภาษีเดิม 10 8 31.4 ล้านล้านเยน (5.1%)
พรรคร่วมรัฐบาล (เสียงข้างน้อย)
LDP 10 8 0.0 (0%)
Komei 10 5 () -1.9 ล้านล้านเยน (-0.3%)
พรรคฝ่ายค้าน (เสียงข้างมาก แต่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ จากความเห็นที่ไม่ตรงกัน)
CDP / Ishin 10 0 () -5.0 ล้านล้านเยน (-0.8%)
DPP / Communist / Reiwa 5 () 5 () -14.3 ล้านล้านเยน (-2.4%)
• รัฐบาลปัจจุบันเผชิญโจทย์ยากในการบริหาร หากพรรคฝ่ายค้านไม่โหวตให้ เพราะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย
ในรอบกว่า 20 ปี หลังเสียที่นั่งในสภาล่างจานวนมากจากการเลือกตั้ง ต.ค. 2024
• ในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (Upper house election) วันที่ 20 ก.ค. พรรคร่วมรัฐบาลต้องได้เสียงอย่างน้อย
50 จาก 125 ที่นั่ง (เฉพาะที่ต้องเลือกตั้งใหม่ จากทั้งหมด 248 ที่นั่ง) เพื่อให้คงเสียงข้างมากในสภาสูงได้อยู่
Products
Value
(USD Million)
% of Total
Trade Balance
Total Trade Surplus (Rank 7th in the World) 56,609.6 100%
Vehicles 48,895.1 86.4%
Machinery and mechanical appliances 18,200.5 32.2%
Electrical machinery and equipment 9,589.5 16.9%
Commodities not elsewhere specified 7,848.6 13.9%
Rubber and articles thereof 2,057.8 3.6%
Articles of iron or steel 1,409.7 2.5%
Cereals -5,247.3 -9.3%
Pharmaceutical products -6,943.4 -12.3%
Mineral fuels -13,230.4 -23.4%
การเลือกตั้งญี่ปุ่นเพิ่มความเสี่ยงให้การเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ยืดเยื้อขึ้น หลายพรรคยังนาเสนอนโยบายกระตุ้น
เศรษฐกิจ ซ้าเติมปัญหาภาคการคลังที่มีอยู่ ท่ามกลางแนวโน้มรายได้ภาษีศุลกากรจะลดลงจากการเปิดตลาดให้สหรัฐฯ
หมายเหตุ : * พรรคการเมืองยังมีอีกหลายมาตรการเพื่อช่วยเหลือเศรษฐกิจ เช่น การแจกเงินสด มาตรการด้านราคาพลังงาน การเพิ่มเกณฑ์รายได้ขั้นต่าที่ต้องเสียภาษี เป็นต้น แต่มาตรการลดหย่อนภาษีการบริโภคได้รับความสนใจมากเนื่องจากเป็นรายได้หลักของรัฐบาล
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ Trademap, Goldman Sachs และสานักข่าวต่างประเทศ
7
GDP Growth
(%YOY)
2023 2024
2025F 2026F
Jun 25 Jul 25 Jun 25 Jul 25
Global 2.9% 2.8% 2.3% 2.4% 2.3% 2.3%
US 2.9% 2.8% 1.5% 1.5% 1.5% 1.5%
Eurozone 0.4% 0.9% 0.7% 0.8% 1.1% 1.0%
Japan 1.5% 0.1% 0.9% 0.9% 0.9% 0.7%
China 5.4% 5.0% 4.5% 4.7% 3.9% 4%
India 8.8% 6.7% 6.2% 6.4% 6.4% 6.5%
ASEAN-5* 4.3% 5.4% 4.6% 4.8% 4.7% 4.8%
แนวโน้มเศรษฐกิจโลกปี 2025 - 2026 โดย SCB EIC (ณ ก.ค. 2025)
ประเทศที่สหรัฐฯ ประกาศบรรลุข้อตกลงเจรจาการค้า
สหรัฐฯ – อินโดนีเซีย บรรลุข้อตกลงด้านภาษี (15 ก.ค.)
• สหรัฐฯ ลดภาษีตอบโต้เหลือ 19% (เดิม 32%) และกรณีสินค้าประเทศที่อัตราภาษีสูงกว่า
ส่งออกผ่านอินโดนีเซียจะเก็บ 19% + อัตราภาษีประเทศเจ้าของสินค้าเดิม
• อินโดนีเซียเปิดตลาดทั้งหมด (Full access) ให้สหรัฐฯ เก็บภาษี 0% และนาเข้าสินค้า
พลังงาน (USD 15 Billion) สินค้าเกษตร (USD 4.5 Billion) เครื่องบิน Boeing 50 ลา
สหรัฐฯ – เวียดนาม บรรลุข้อตกลงด้านภาษี (3 ก.ค.)
• สหรัฐฯ ลดภาษีตอบโต้เหลือ 20% (เดิม 46%) และ 40% สาหรับสินค้าประเทศอื่น
ที่ส่งออกผ่านเวียดนาม (ป้องกัน Transshipment โดยเฉพาะจากจีน)
• เวียดนามเปิดตลาดให้สหรัฐฯ เก็บภาษี 0% และอาจลด Non-tariff barriers
สหรัฐฯ - จีน บรรลุข้อตกลงจัดเก็บภาษีระหว่างกันชั่วคราว (12 พ.ค.)
• สหรัฐฯ เก็บภาษีจีนลดเหลือ 30% (เดิม 145%) หากรวมภาษีในช่วงทรัมป์ 1.0 เดิม 25%
รวมจีนถูกสหรัฐฯ เก็บภาษี 55%
• จีนเก็บสหรัฐฯ 10% และลดการควบคุมส่งออกแม่เหล็กและแร่ธาตุหายาก
สหรัฐฯ – UK ลงนามข้อตกลงการค้า (17 มิ.ย) ลด Product specific tariff เช่น รถยนต์
แสนคันแรก / ไม่ลด Universal tariff 10% / เปิดตลาดในประเทศ / เพิ่มนาเข้าสินค้าสหรัฐฯ
ข้อตกลงการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ตั้งแต่ 2 เม.ย.
ทรัมป์เลื่อนเก็บ Reciprocal tariff เป็น 1 ส.ค. และยังไม่มีความชัดเจนว่าจะ
เลื่อนอีกครั้งหรือไม่หากการเจรจายังไม่คืบหน้า หรือหากศาลอุทธรณ์สั่งห้ามทรัมป์
ตั้งกาแพงภาษีนี้
• ศาลอุทธรณ์มีกาหนดการไต่สวนคดีการใช้อานาจ IEEPA ของปธน. ทรัมป์ วันที่ 31 ก.ค.
• SCB EIC ประเมินว่าทรัมป์จะเดินหน้าตั้งกาแพงภาษีต่อไปผ่านทางเลือกอื่น (เช่น ขยาย Product
Specific, สั่ง USTR สอบสวนเพิ่มเติม) แม้ศาลอุทธรณ์สั่งห้าม ทรัมป์ตั้งกาแพงภาษี แต่อาจทาให้การตั้ง
กาแพงภาษี/เจรจาบางส่วนล่าช้าออกไป
SCB EIC ปรับประมาณการเศรษฐกิจโลกปี 2025 เป็น 2.4% หลังสหรัฐฯ เลื่อนขึ้นกาแพงภาษีไปอีก 1 เดือน
และการเจรจาคืบหน้ามากขึ้น ในปี 2026 เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลง ผลจากกาแพงภาษีที่ชัดขึ้น
หมายเหตุ : ASEAN-5 ประกอบด้วย Indonesia, Malaysia, Philippines, Singapore, และ Vietnam
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ The White House, US Congress, IMF, WTO, CEIC และ Bloomberg
8
ธนาคารกลางหลักมีแนวโน้มผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อเนื่อง
ความเสี่ยงจากสงครามการค้ามีผลต่อความไม่แน่นอนของนโยบายการเงิน
9
ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่ง เอกชนเริ่มชะลอการจ้างงานใหม่
หน่วย : พันคน (LHS), % (RHS)
• ตลาดแรงงานในภาพรวมยังคงแข็งแกร่ง สะท้อนจากการจ้างงาน
นอกภาคการเกษตรเดือน มิ.ย. เพิ่ม 147,000 ตาแหน่ง
• อัตราการว่างงานลดลงเล็กน้อยเป็น 4.1% ต่าสุดในปีนี้ และต่ากว่า
ค่าเฉลี่ยปี 2015 – 2019 ที่ 4.4% ส่วนหนึ่งจากนโยบายกีดกันผู้อพยพ
• การจ้างงานภาคเอกชนชะลอลงครั้งแรกตั้งแต่ต้นปี เพิ่มขึ้นเพียง
74,000 ตาแหน่ง
147
74
4.1
3.5
3.7
3.9
4.1
4.3
4.5
0
50
100
150
200
250
300
350
01/24
02/24
03/24
04/24
05/24
06/24
07/24
08/24
09/24
10/24
11/24
12/24
01/25
02/25
03/25
04/25
05/25
06/25
Change in Non-Farm Total Employment (LHS)
Change in Non-Farm Private Employment (LHS)
Unemployment Rate (RHS)
คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ โดย SCB EIC
หน่วย : %
5.4 5.4
4.4 4.4 4.4 4.4 4.1 3.9 3.6 3.6 3.6
1
2
3
4
5
6
23H2
24H1
24H2
25Q1
25Q2F
25Q3F
25Q4F
26Q1
26Q2
26Q3
26Q4
ช่วงคาดการณ์
• ราคาสินค้าในสหรัฐฯ เริ่มสะท้อนผลกระทบจากกาแพงภาษีบางส่วน
โดยเฉพาะของเล่น, เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องประดับ ซึ่งมีสัดส่วน
นาเข้าสูง
• ราคาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ยังคงหดตัว แม้สหรัฐฯ ตั้งกาแพง
ภาษีรายสินค้าไว้ 25% เนื่องจากผู้ผลิตเน้นขายสินค้าคงคลังที่นาเข้าไว้
ก่อนและผู้ส่งออกหลัก (ในญี่ปุ่น, เยอรมนี และเกาหลีใต้) หรือผู้นาเข้า
รับต้นทุนส่วนเพิ่มไว้เองในช่วงที่ยังรอผลเจรจากับสหรัฐฯ
อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ทรงตัวในภาพรวม บางรายการเริ่มเร่งตัว
หน่วย : %MOM_SA
1.0
1.8
-0.4
-2.7
1.9
-3
-2
-1
0
1
2
01/25 02/25 03/25 04/25 05/25 06/25
CPI Core CPI
CPI: HH. Furnishing CPI: Toys
CPI: Motor Vehicles PPI
Core PPI PPI: Passengers Transport
CPI: Appliances
ในปี 2025 Fed มีแนวโน้มลดดอกเบี้ย
นโยบายอีก 1 ครั้งในไตรมาส 4
กรรมการ FOMC สื่อสาร Hawkish ขึ้นหลังเงินเฟ้อ มิ.ย. ออก
มุมมองลด
ดอกเบี้ยปีนี้
ก่อนข้อมูลเงินเฟ้อ
เดือน มิ.ย. ออก
หลังข้อมูลเงินเฟ้อ
เดือน มิ.ย. ออก
Wait-and-
See
Hammack (14 ก.ค.)
Musalem (10 ก.ค.)
Powell (1 ก.ค.)
Barkin (26 มิ.ย.)
Williams (16 ก.ค.)
Collins (15 ก.ค.)
Logan (15 ก.ค.)
ลด 0-1 ครั้ง Bostic (16 ก.ค.)
อาจลด 2
ครั้งขึ้นไป
Daly (10 ก.ค.)
Bowman (23 มิ.ย.)
Waller (17 ก.ค.)
SCB EIC ประเมินธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยังไม่เร่งลดดอกเบี้ยในไตรมาส 3 เพราะผลกระทบกาแพงภาษี
ต่อเงินเฟ้อสหรัฐฯ ยังไม่ชัดเจน และข้อมูลตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ Bloomberg, Fed, และ U.S. Bureau of Labor Statistics
10
3.3
3.4
2.9
100.2
0
40
80
120
0
4
8
12
01/23
02/23
03/23
04/23
05/23
06/23
07/23
08/23
09/23
10/23
11/23
12/23
01/24
02/24
03/24
04/24
05/24
06/24
07/24
08/24
09/24
10/24
11/24
12/24
01/25
02/25
03/25
04/25
05/25
06/25
Core-CPI (Excl. Freshfood) Core-Core CPI (Excl. Freshfood & Energy) PPI Rice CPI (RHS)
การเจรจาค่าจ้างช่วงฤดูใบไม้ผลิ (Shunto Wage Negotiation)
หน่วย : %
คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายญี่ปุ่น โดย SCB EIC
หน่วย : % ต่อปี
-0.1
0.1
0.25
0.5 0.5 0.5 0.5
0.75 0.75
1 1
-1
0
1
2
23H2
24H1
24H2
25Q1
25Q2F
25Q3F
25Q4F
26Q1
26Q2
26Q3
26Q4
ช่วงคาดการณ์
• BOJ มีแนวโน้มคงดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปี 2025
มุมมอง BOJ ปรับดอกเบี้ยขึ้นเพียง 25 BPS ตลอดทั้งปีนี้ สาเหตุหนึ่ง
เพราะเศรษฐกิจมีความเสี่ยงด้านต่าจากผลการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ
• กาแพงภาษีสหรัฐฯ อาจกระทบการปรับขึ้นค่าจ้างและชะลอวัฏจักร
เชิงบวกระหว่างค่าจ้างและเงินเฟ้อ (ปัจจัยหลักที่ BOJ ให้ความสาคัญ
ในการปรับขึ้นดอกเบี้ย) เนื่องจากกระทบกาไรบริษัทญี่ปุ่น โดยเฉพาะ
อุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีการจ้างงานสูง (8% ของการจ้างงานรวม)
• BOJ มีแนวโน้มกลับมาขึ้นดอกเบี้ยในช่วงต้นปี 2026 หลังผลเจรจา
ค่าจ้างของสหภาพแรงงานชัดเจนขึ้นในช่วงเดือน ม.ค. - มี.ค.
อัตราเงินเฟ้อญี่ปุ่น
หน่วย : %YOY
1.7 1.7 1.7 1.7
2.1 2.2 2.0 2.0 2.1 2.1 1.9 1.8 2.1
3.6
5.1 5.3
0
1
2
3
4
5
6
2010 2011 2012 2013 2014 2015 2016 2017 2018 2019 2020 2021 2022 2023 2024 2025
• อัตราการเจรจาค่าจ้างใน 2025 เพิ่มสูงสุดในรอบ 34 ปี
• ประเมินอัตราการเจรจาค่าจ้างในปี 2026 จะชะลอลงบ้าง จากปัญหาขาดแคลนแรงงานสูง และ
บริษัทเริ่มส่งผ่านราคาในประเทศได้มากขึ้น ขณะที่กาไรบริษัทเสี่ยงลดลงจากผลกาแพงภาษีสหรัฐฯ
• เงินเฟ้อญี่ปุ่นขยายตัวเนื่อง ส่วนหนึ่งจากปัญหาขาดแคลนข้าวตั้งแต่ H2/2024
• BOJ อาจปรับคาดการณ์เงินเฟ้อขึ้นเล็กน้อยในการประชุมเดือน ก.ค.
จากความกังวลราคาข้าวที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง แม้เงินเยนแข็งค่าขึ้นและกาแพงภาษี
สหรัฐฯ เป็นปัจจัยความเสี่ยงด้านต่าต่อเงินเฟ้อด้านอุปสงค์
BOJ จะคงดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือปี 2025
และกลับมาขึ้นดอกเบี้ยช่วงต้นปี 2026
BOJ มีแนวโน้มคงดอกเบี้ยต่อเนื่องในปีนี้ ส่วนหนึ่งเพราะกาแพงภาษีสหรัฐฯ อาจกระทบการขึ้นค่าจ้างและชะลอ
วัฏจักรเชิงบวกของค่าจ้างและเงินเฟ้อ แต่ BOJ จะขึ้นดอกเบี้ยในช่วงต้นปี 2026 หลังผลเจรจาค่าจ้างชัดเจนขึ้น
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ CEIC, Japanese Trade Union Confederation and Statistical Bureau
11
2
2.3
0.1
0.7
-2
0
2
4
6
8
10
12
Aug-19
Mar-20
Oct-20
May-21
Dec-21
Jul-22
Feb-23
Sep-23
Apr-24
Nov-24
Jun-25
Eurozone-Headline Eurozone-Core
China-Headline China-Core
อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนและจีน
หน่วย : %YOY
คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายยูโรโซน โดย SCB EIC
หน่วย : % ต่อปี
คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายจีน โดย SCB EIC
หน่วย : % ต่อปี
1.0
1.8 1.8
1.5 1.5 1.4 1.4 1.3 1.3 1.2 1.2 1.1
0
1
2
3
4
23H2
24H1
24H2
25Q1
25Q2
25Q3F
25Q4F
26Q1F
26Q2F
26Q3F
26Q4F
Jun-25
Jul-25
• PBOC มีแนวโน้มลดดอกเบี้ยเพียง 20 bps ในปีนี้ (เดิมคาด 30
bps) จากกาแพงภาษีสหรัฐฯ ต่อจีนที่รุนแรงน้อยลงและเศรษฐกิจ
ยังเติบโตแข็งแกร่ง
• PBOC ส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อเนื่องจากปัญหา
เชิงโครงสร้างภายในประเทศ โดยมีแนวโน้มลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมสู่
1.1% ภายในปี 2026
ช่วงคาดการณ์
4
3.75
3
2.5
2
1.75 1.75 1.75 1.75 1.75 1.75
0
1
2
3
4
23H2
24H1
24H2
25Q1
25Q2F
25Q3F
25Q4F
26Q1
26Q2
26Q3
26Q4
• วัฏจักรการลดดอกเบี้ยของ ECB ใกล้สิ้นสุด ECB ได้ทยอยปรับลด
ดอกเบี้ยลงรวม 225 bps แล้ว
• ECB มีแนวโน้มลดดอกเบี้ยอีก 25 bps ภายในปีนี้เหลือ 1.75%
เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจภายใต้แรงกดดันการค้าโลก ขณะที่
ความเสี่ยงเงินเฟ้อสูงมีจากัด
ช่วงคาดการณ์
• อัตราเงินเฟ้อยูโรโซนทยอยลดลงเข้าใกล้เป้าหมาย 2%
• อัตราเงินเฟ้อจีนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.1%YOY ในเดือน มิ.ย.
แต่เห็นสัญญาณเงินฝืด ผลจากอุปทานล้นตลาดและการตัดราคา
เพิ่มการแข่งขัน โดยภาครัฐพยายามออกนโยบายควบคุมราคาตาม
กลไกตลาด
ธนาคารกลางจีนมีทิศทางผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อเนื่อง แต่ในอัตราช้าลง ผลจากแรงกดดันกาแพงภาษี
ของสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงมาก ด้าน ECB มีแนวโน้มลดดอกเบี้ยต่ออีก 25 bps สิ้นสุดวัฏจักรการลดดอกเบี้ยรอบนี้
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ National Bureau Statistics of China, ECB, European Commission และ CEIC
12
เศรษฐกิจไทย
13 ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์, CEIC, Bloomberg, REIC, สถาบันเหล็ก และเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, กรมขนส่งทางบก และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
Key external indicators Unit 2024 Jul-24 Aug-24 Sep-24 Oct-24 Nov-24 Dec-24 Jan-25 Feb-25 Mar-25 Apr-25 May-25 Jun-25
Global Trade &
Manufacturing
Global Manufacturing PMI Index, > 50 improving 50.0 49.7 49.6 48.7 49.4 50.1 49.6 50.1 50.6 50.3 49.8 49.5 50.3
Global Manufacturing PMI: Export Orders Index, > 50 improving 49.0 49.4 48.4 47.5 48.3 48.6 48.2 49.4 49.6 50.1 47.3 48.0 49.3
South Korea exports: 20 Days %YOY 5.1% 17.9% 18.1% -1.7% -3.0% 5.7% 6.8% -5.1% 15.7% 4.2% -5.5% -2.5% 8.3%
Trade Balance USD million, BOP basis 19,274 861 2,442 2,470 1,446 2,023 1,882 404 4,366 3,405 -1,398 3,374
Current Account Balance USD million, BOP basis 11,336 -227 1,349 1,205 1,042 1,311 2,128 3,322 5,978 1,782 -1,545 -312
Thailand export
(key products)
Auto & parts export %YOY -1.9% -9.6% 0.7% -11.8% -19.8% -13.0% -13.9% -22.7% -10.9% -9.5% -13.5% -8.7%
Electronics export %YOY 10.0% 23.1% 10.4% 7.9% 24.5% 11.1% 14.2% 15.1% 18.3% 33.3% 24.9% 40.2%
Petrochemical export (Resins) %YOY -1.0% 6.9% -3.2% -5.3% 4.5% 1.9% 10.3% 3.9% 1.2% 7.4% -5.5% -4.1%
Plastic product export %YOY 8.4% 16.4% 13.8% 5.1% 14.2% 4.9% 8.9% 8.0% 4.5% 8.2% 10.0% 24.4%
China influx
HRC import from China (Quantity: Ton) %YOY -30.2% -41.6% 14.2% 81.8% 136.9% 23.5% -37.7% 11.9% 31.5% 50.0% 398.6% 52.8%
E&E import from China %YOY 26.7% 22.3% 33.7% 27.2% 32.5% 40.7% 46.7% 31.5% 26.2% 44.8% 62.4% 39.9%
Auto & parts import from China %YOY -18.8% 2.0% -4.0% -56.0% -11.9% -35.4% -23.5% 10.0% 3.7% 18.2% 0.8% 50.1%
Plastic product import from China %YOY 14.6% 29.6% 14.9% 7.8% 7.9% 2.1% 17.4% 20.5% -2.7% 22.7% 15.0% 17.7%
Logistics
China Containerized Freight Index (CCFI) Index 1,551 2,108 2,068 1,778 1,416 1,427 1,489 1,554 1,400 1,112 1,121 1,109
Baltic Air Freight Index (BAI) Index 2,131 2,112 2,094 2,180 2,185 2,346 2,536 2,247 2,113 2,090 2,136 2,015 2,011
Commodity prices
Brent price USD/Barrel 80 83 79 73 76 73 73 79 75 72 67 63 71
Rubber price (TSR 20 SICOM) %YOY 26.6% 25.4% 33.6% 34.8% 38.5% 30.4% 35.4% 26.9% 29.2% 20.7% 5.1% 1.4% -7.1%
Raw sugar price New York No.11 %YOY -13.8% -19.4% -23.9% -22.4% -16.9% -20.7% -8.3% -15.8% -13.5% -12.5% -12.0% -7.3% -15.4%
เครื่องชี้การค้าต่างประเทศสะท้อนการส่งออกไทยขยายตัวจาก Front-loading ก่อนสหรัฐฯ เก็บภาษีนาเข้าสูง
แต่ความเสี่ยงจาก China influx รุนแรงขึ้น
14
เครื่องชี้เศรษฐกิจภายในประเทศสะท้อนความเปราะบางจากภาคท่องเที่ยว การเปิดธุรกิจใหม่ยังหดตัว การลงทุน
และการผลิตมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ช้า ขณะที่เครื่องชี้ภาคการเงินสะท้อนการระดมทุนตึงตัวต่อเนื่อง
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์, Bloomberg, CEIC, BOT, DBD และ NESDC
Key indicators Unit 2024 Jul-24 Aug-24 Sep-24 Oct-24 Nov-24 Dec-24 Jan-25 Feb-25 Mar-25 Apr-25 May-25 Jun-25
Consumption
Private Consumption Index 2010=100, SA 151.5 151.7 152.0 151.7 148.2 153.5 152.6 152.6 152.8 152.7 154.1 152.9
Retail Sale Index 2019=100, SA 135.9 138.9 151.7 143.0 156.7 148.0 129.0 129.1 145.8 150.6 201.7
Unemployment Rate % labor force 1.0% 1.1% 1.1% 0.8% 1.0% 0.9% 0.8% 0.9% 0.8% 0.9% 1.0% 0.8%
Unemployment Compensation % insured person 1.9% 2.0% 1.9% 1.8% 1.8% 1.9% 1.8% 1.9% 1.9% 1.9% 2.0% 2.0%
Number of Job Vacancies Person 69,706 77,742 66,868 46,837 47,158 38,482 36,621 38,654 38,965 44,660 46,210 65,580 39,961
Investment Private Investment Index 2018=100, SA 110.0 107.1 107.1 108.8 111.7 112.6 115.6 115.0 114.7 115.3 117.4 116.6
Tourism
Foreign tourists million 35.6 3.1 3.0 2.5 2.7 3.2 3.6 3.7 3.1 2.7 2.6 2.3 2.3
Chinese tourists to Thailand million 6.7 0.7 0.7 0.5 0.5 0.5 0.5 0.7 0.4 0.3 0.3 0.3 0.3
European tourists to Thailand million 7.3 0.5 0.5 0.4 0.5 0.8 1.0 1.1 1.0 0.9 0.7 0.4 0.4
Average room rate (Nationwide) THB/Room 1,884 1,896 1,834 1,780 1,832 1,862 1,889 1,919 1,862 1,791 1,835 1,753
Occupancy rate (Nationwide) % 71.9% 69.8% 69.2% 66.8% 69.1% 72.5% 79.6% 78.2% 75.1% 71.5% 73.9% 69.4% 66.2%
Manufacturing
Business Open %YOY 3.6% 14.4% 2.4% 10.7% 9.3% 4.8% 9.2% -3.3% -7.1% -3.9% -3.1% -11.1% -4.5%
Business Close %YOY -3.7% 1.2% 2.8% 10.5% 12.3% 9.4% 9.8% 20.1% 11.5% -2.4% 0.5% -14.8% 3.7%
TISI: Expectation 100 = Stable 96.9 95.2 93.9 96.7 98.4 96.7 95.5 96.2 97.6 95.7 93.3 91.7
PMI : Manufacturing 50 = Stable 49.9 52.8 52.0 50.4 50.0 50.2 51.4 49.6 50.6 49.9 49.5 51.2 51.7
Manufacturing Production Index 2016=100, SA 96.3 96.6 96.6 96.5 95.5 94.7 95.2 95.7 96.1 97.0 98.1 98.4
Capacity Utilization Rate %, SA 58.8% 59.5% 60.0% 59.7% 58.4% 58.0% 58.5% 58.5% 58.8% 59.3% 59.3% 59.9%
Domestic housing
& auto market
Value of residential property transfers (Nationwide) %YOY -6.3% 8.4% -11.9% -9.3% -9.4% -6.0% 7.5% -17.0% -12.7% -10.8% -21.4%
Domestic car sales %YOY -26.2% -20.8% -25.0% -37.1% -36.2% -31.5% -21.3% -12.3% -6.7% -0.5% 1.0% 4.7%
Private Sector's Debt
(system total, excl.
financial sector)
Total Loans to Private Sector Outstanding %YOY 0.4% 1.4% 0.8% 0.1% 0.2% 0.3% 0.4% -0.2% -0.6% -0.3% -0.7% -0.7%
Loans to Businesses (non-finance) Outstanding %YOY 0.9% 1.6% 0.5% -0.8% -0.4% 0.4% 0.9% -0.8% -1.0% -0.3% -1.5% -1.4%
Loans to Households Outstanding %YOY 0.1% 1.2% 1.0% 0.7% 0.5% 0.3% 0.1% 0.2% -0.3% -0.3% -0.2% -0.2%
Private Debt securities Outstanding %YOY -1.1% 1.0% 2.2% 2.0% 0.9% -0.6% -1.1% -1.9% -1.6% -2.4% 0.1% -2.4%
Commercial Banks
Balance Sheet
Total CB Loans Outstanding %YOY -0.4% -0.3% 0.0% -1.6% 0.9% -0.9% -0.4% 0.2% 0.8% -0.3% 1.1% 0.5%
CB Loans to Businesses (non-finance) Outstanding %YOY -0.6% 0.2% -0.3% -0.8% -0.8% -0.6% -0.6% -1.6% -1.8% -1.5% -2.5% -1.8%
CB Loans to Households Outstanding %YOY -2.8% -1.4% -1.8% -2.1% -2.3% -2.6% -2.8% -3.0% -3.0% -3.0% -3.0% -2.8%
Total CB Deposits Outstanding %YOY 2.1% 2.6% 1.4% 1.3% 2.6% 2.1% 2.1% 2.3% 2.0% 1.4% 1.2% 1.0%
15
หมายเหตุ : *กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ที่มา : การวิเคราะห์โดย EIC จากข้อมูลของ
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 17.75 ล้านคน (ณ 13 ก.ค. 2025) หดตัว -5.6%YOY
หน่วย : ล้านคน, %YOY
ท่องเที่ยวไทยยังเผชิญปัจจัยเสี่ยงสูง แม้นักท่องเที่ยวจีนจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นเล็กน้อย แต่เศรษฐกิจโลกยังมีความ
ไม่แน่นอนจากภาษีนาเข้าของสหรัฐฯ อาจส่งผลต่อการใช้จ่ายท่องเที่ยวในระยะข้างหน้า
-60
-40
-20
0
20
40
%YoY
30%
ม.ค.
-45%
ก.พ.
-48%
มี.ค.
-47%
เม.ย.
-45%
พ.ค.
-42%
มิ.ย.
นักท่องเที่ยวจีนคาดผ่านจุดต่าสุดแล้ว
แต่ยังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
นักท่องเที่ยวสหรัฐฯ และแคนาดาลดลงตั้งแต่ เม.ย. อาจเป็นผลจากการ
ระมัดระวังการใช้จ่ายหลังประกาศมาตรการภาษีของสหรัฐฯ
นักท่องเที่ยวอินเดียชะลอและตะวันออกกลางลดลงในเดือน มิ.ย.
จากเหตุภายในประเทศและคาดว่าจะฟื้นตัวได้เร็วตั้งแต่ ก.ค.
-10
0
10
20
30
%YoY
22%
17%
ม.ค.
12%
8%
ก.พ.
9%
10%
มี.ค.
7%
-2%
เม.ย.
0%
-5%
พ.ค.
-2%
-8%
มิ.ย.
สหรัฐฯ แคนาดา
นักท่องเที่ยวยุโรปเริ่มเห็นสัญญาณชะลอตัว อาจเป็นผลจากเศรษฐกิจ
เติบโตต่าและมีความเสี่ยงจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ
0
5
10
15
20
25
30
%YoY
23%
ม.ค.
18%
ก.พ.
12%
มี.ค.
25%
เม.ย.
7%
พ.ค.
6%
มิ.ย.
-20
0
20
140
-15%
%YoY
14%
13%
ม.ค.
14%
-7%
ก.พ.
17%
121%
มี.ค.
21%
12%
เม.ย.
15%
10%
พ.ค.
4%
มิ.ย.
อินเดีย ตะวันออกกลาง
สหรัฐฯ ประกาศภาษีนาเข้า
ฉลองละศีลอด
สงครามตะวันออกกลาง
เหตุเครื่องบินตก
จีน
ยุโรป
• นักท่องเที่ยวกลุ่มเติบโตยังเดินทางต่อเนื่อง เช่น นักท่องเที่ยวออสเตรเลียขึ้นมาเป็น Top 5 ในช่วงเดือน ก.ค. (Winter holidays)
นักท่องเที่ยวยุโรปจะเร่งตัวขึ้นในช่วง Summer holidays (Jul-Aug), นักท่องเที่ยวอินเดียในช่วงวันหยุดเทศกาลดีวาลีเดือน ต.ค.
ซึ่งภาครัฐเตรียมจัดงานในไทยพร้อมประสาน Air India และ Indigo ในการโปรโมตและเพิ่มเที่ยวบิน
• การทยอยฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีน การเดินทางท่องเที่ยวช่วงวันหยุดปิดภาคเรียนและนักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์จากงบอุดหนุน
เที่ยวบินเช่าเหมาลาและเที่ยวบินพาณิชย์ของภาครัฐกว่า 1,000 เที่ยวบินจากเมืองรองในจีน
ม.ค.
0.4
0.8
0.4
0.2
1.0
0.2 0.1
ก.พ.
0.3
0.7
0.4
0.2
0.9
0.2 0.1
มี.ค.
0.3
0.8
0.3
0.2
0.7
0.1 0.1
เม.ย.
0.3
0.8
0.3
0.3
0.4
0.1 0.1
พ.ค.
0.3
0.9
0.3
0.2
0.3
0.1 0.1
มิ.ย.
0.7
3.7
3.1
2.7 2.5
2.3 2.3
1-13 ก.ค.
0.9
0.5
0.2
1.1
0.2 0.1
1.1
จีน
อาเซียน
North East Asia
เอเชียใต้
ยุโรป
อเมริกา
ตะวันออกกลาง
อื่น ๆ
22%
-7%
-9% -8%
-14% -15%
16
ข้อมูลไตรมาส 2 สะท้อนการส่งออกที่ยังขยายตัวสูงจากการเร่งนาเข้า โดยเฉพาะจากสหรัฐฯ ขณะที่กาแพงภาษี
สหรัฐฯ เริ่มส่งผลลบต่อการค้าโลก โดยเฉพาะคู่ค้าที่เน้นส่งออกสินค้าที่ถูกเก็บ Specific tariffs แล้ว
20000
22000
24000
26000
28000
30000
Jan-21
Sep-21
May-22
Jan-23
Sep-23
May-24
Jan-25
Export Value SA HP-Trend
การส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ ยัง front-load
ในช่วง 5m25
3000
3500
4000
4500
5000
5500
6000
Jan-21
Jul-21
Jan-22
Jul-22
Jan-23
Jul-23
Jan-24
Jul-24
Jan-25
Export to US, sa HP-Trend, US
มูลค่าการส่งออกสินค้าของไทย และ Trend
หน่วย : Mil USD, SA
มูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยไปยังสหรัฐฯ และ Trend
หน่วย : Mil USD, SA
Apr
May
Apr
May
มูลค่าการส่งออกไทย รายสินค้า และคู่ค้าหลัก
หน่วย : %YoY
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของสานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และกระทรวงพาณิชย์
เครื่องชี้การส่งออกของประเทศต่าง ๆ ไปสหรัฐฯ
หน่วย : %YoY
มูลค่าการส่งออกของจีนกับบางคู่ค้าหลัก
หน่วย : %YoY
%YoY Jan-25 Feb-25 Mar-25 Apr-25 May-25 Jun-25
China Total Export 5.5 -2.3 12.2 7.9 4.5 5.6
Export to US 12.1 -9.8 9.1 -21.0 -34.5 -16.1
Export to ASEAN 3.2 8.8 11.6 20.8 14.8 16.8
To Vietnam -0.5 36.2 18.9 22.5 22.0 23.8
To Thailand 14.6 8.7 27.8 27.9 21.6 27.9
To Indonesia 10.9 -0.4 24.6 36.8 11.0 8.8
Economies %YoY Jan-25 Feb-25 Mar-25 Apr-25 May-25 Jun-25
Japan
Total Export to US 8.1 10.5 3.1 -1.8 -11.0 -11.4
Vehicle Motors 21.8 13.9 4.1 -4.8 -24.7 -26.7
Parts of Motor Vehicles -13.4 0.9 -10.7 -5 -19.0 -15.5
Steels -12.8 3.9 -16.6 -29 -1.5 -28.5
Electrical Machinery 8.8 11.7 6.1 10.2 -5.4 -0.4
South
Korea
Total Export to US -9.5 0.8 2.2 -7 -8.1 -0.5
Passenger Cars -27.3 10.5 -8.4 -15.5 -23.5 -12.3
Steel Products -13.6 10.1 -7.7 13.7 -5.5 1.9
Semiconductors 14.2 8.5 34.3 8.8 22.1 13.9
Vietnam
Total Export to US 4.3 34.2 32.3 34 36.1 31.8
Electrical Products & Parts 22.4 47.3 74.5 84.3 74.6 78.6
Taiwan
Total Export to US 0.7 65.6 39.8 29.5 87.4 90.9
Electronic Products 2.2 79.1 46.7 32.6 115.3 118.3
ตลาดส่งออก 2024 2025Q1 Mar-25 Apr-25 May-25 YTD
Total 5.4% 15.2% 14.3% 10.2% 18.4% 14.9%
US (16.5%) 13.7% 25.4% 34.3% 23.8% 35.1% 27.2%
China (12%) 3.1% 19.5% 22.2% 3.2% 28.0% 17.9%
CLMV (10.8%) 12.7% 4.6% 10.1% 25.2% 20.8% 11.7%
Japan (8.6%) -5.3% 0.1% 1.5% 5.5% -0.8% 0.8%
EU 28 (9.3%) 9.1% 7.2% 4.5% 7.4% 17.1% 9.2%
17
SCB EIC ประเมินเศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโตใกล้มุมมองเดิมที่ 1.5% หากไทยเจรจาสหรัฐฯ ลดภาษีลงได้บ้าง
แม้เครื่องชี้ Q2 สูงกว่าคาด โดยเฉพาะ Front-loading ส่งออก แต่ H2 จะได้รับผลกระทบ Reciprocal tariffs
สูงในตลาดสหรัฐฯ กดดันให้เศรษฐกิจไทยปี 2026 มีแนวโน้มขยายตัวต่าลง
Medium-term outlook
(Baseline)
Unit 2024
2025F 2026F
As of Jun 2025
GDP %YOY 2.5 1.5 1.4
การบริโภคภาคเอกชน %YOY 4.4 2.0 2.1
การบริโภคภาครัฐ %YOY 2.5 1.8 1.0
การลงทุนภาคเอกชน %YOY -1.6 -2.2 -0.2
การลงทุนภาครัฐ %YOY 4.8 5.8 1.5
มูลค่าส่งออกสินค้า (USD BOP) %YOY 5.8 -0.1 -0.8
มูลค่านาเข้าสินค้า (USD BOP) %YOY 6.3 0.8 -0.2
จานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ Million 35.5 34.2 35.7
อัตราเงินเฟ้อทั่วไป %YOY 0.4 0.5 0.4
อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (สิ้นปี) % 2.25 1.25 1.00
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของสานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
คาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2025-2026 กรณีฐาน โดย SCB EIC
ฉากทัศน์ U.S. Tariffs และประมาณการเศรษฐกิจ (ประเมิน ณ 18 ก.ค.) โดย SCB EIC
กรณี สมมติฐานเจรจา US Tariffs ของไทยและคู่แข่ง
2025F
(%YoY)
2026F
(%YoY)
Baseline
ณ มิ.ย. 2025
เจรจาลดภาษีตอบโต้ได้ครึ่งหนึ่ง (23%, เริ่ม 9 ก.ค.)
Universal tariff, Reciprocal tariffs ครึ่งหนึ่งจากเดิม,
ลด Specific tariffs ได้เช่นเดียวกับคู่แข่งหลัก
1.5 1.4
กรณีเจรจา
ลดภาษี
ได้บ้าง
เจรจาลดภาษีตอบโต้ลงได้บ้าง แต่ยังสูงกว่าคู่แข่งหลัก
สหรัฐฯ เลื่อนเก็บภาษีตอบโต้ (25%, เริ่ม 1 ส.ค.)
Universal tariff, Reciprocal tariffs สูงกว่าคู่แข่งหลัก
(เช่น เวียดนาม 20%)
1.5 1.2
กรณีเจรจา
ลดภาษี
ไม่ได้เลย
เจรจาไม่สาเร็จ (36%, เริ่ม 1 ส.ค.)
สหรัฐฯ เก็บ Reciprocal tariffs ไทยตาม Liberation
Day สูงกว่าคู่แข่งหลัก
1.1 0.4
18
สินค้าส่งออกสาคัญของไทย
ที่พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ ในระดับสูง
สัดส่วนต่อมูลค่าส่งออก
ของไทย ไปสหรัฐฯ (50.7%)
สัดส่วนมูลค่าส่งออกของ
ไทยไปสหรัฐฯ ในแต่ละ
หมวดสินค้า
คู่ค้าหลักในการนาเข้าสินค้าของสหรัฐฯ เรียงตามลาดับสัดส่วนมูลค่าการนาเข้าของสหรัฐฯ
(% สัดส่วนมูลค่าการนาเข้าของสหรัฐฯ ณ ปี 2024)
1 2 3 4 5 6 7 8
Electronics
Semiconductor 4.6% 67%
Mexico China* Malaysia Thailand Germany Taiwan Singapore Philippines
16% 15% 8% 6% 6% 5% 5% 5%
ชิ้นส่วน/อุปกรณ์โทรศัพท์ 12.4% 59%
China Viet Nam Mexico India Thailand Taiwan Malaysia
45% 13% 9% 8% 8% 6% 4%
ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ 2.7% 52%
Taiwan South Korea China Viet Nam Malaysia Mexico Thailand Philippines
46% 13% 12% 12% 7% 3% 3% 2%
Computer & HDD 11.1% 41%
Mexico China Taiwan Viet Nam Thailand Philippines Malaysia
34% 26% 19% 11% 5% 1% 1%
อุปกรณ์ส่งสัญญาณ 2.05 39%
Viet Nam China Thailand Japan Taiwan Mexico Malaysia
22% 17% 12% 8% 8% 7% 5%
Machinery
&
Appliances
หม้อแปลงไฟฟ้า 3.8% 43%
Mexico China Thailand South Korea Viet Nam Canada Taiwan Japan
21% 13% 8% 6% 6% 5% 5% 5%
ตู้เย็น** 1.4% 34%
Mexico China South Korea Thailand Canada
43% 21% 14% 7% 4%
เครื่องพิมพ์ 1.9% 31%
Japan Malaysia China Thailand Viet Nam Mexico Philippines
22% 17% 13% 10% 9% 5% 4%
เครื่องปรับอากาศ 2.3% 19%
Mexico China Thailand Canada South Korea Japan Germany
49% 20% 9% 9% 3% 3% 1%
Auto
ยางล้อ** 6.5% 48%
Thailand Mexico Canada Japan Viet Nam Indonesia South Korea
20% 11% 9% 8% 8% 5% 5%
จักรยานยนต์ 0.7% 16%
China Japan EU Thailand Taiwan
24% 22% 22% 12% 6%
Others
Prepared /
Preserved Fish 1.3% 22%
Thailand Viet Nam Ecuador China Canada
32% 10% 6% 6% 5%
โครงสร้างคู่แข่งทางการค้าที่สาคัญของไทยในตลาดสหรัฐฯ และความแตกต่างของอัตรากาแพงภาษีนาเข้าสหรัฐฯ
ประเทศที่โดนอัตรากาแพงภาษีในอัตราสูงที่สุด
เมื่อเทียบกับคู่แข่งสาคัญอื่น ๆ
ประเทศที่โดนอัตรากาแพงภาษีในอัตราต่าที่สุด
หรือได้รับการยกเว้น เมื่อเทียบกับคู่แข่งสาคัญอื่น ๆ
หมายเหตุ :
(*) พิจารณาเฉพาะอัตราภาษีนาเข้าจาก
จีนไปสหรัฐฯ ที่กาหนดขึ้นในยุคทรัมป์
2.0 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 30% โดยไม่รวมอัตรา
ภาษีที่เคยถูกบังคับใช้ไว้ก่อนหน้านี้
(**) กลุ่มสินค้าที่ถูกตั้งกาแพงภาษีแบบ
เฉพาะเจาะจงตามอุตสาหกรรม ซึ่งเกือบ
ทุกประเทศจะถูกเรียกเก็บในอัตราเดียวกัน
เช่น ตู้เย็นบางประเภทถูกจัดเก็บภาษี
นาเข้าในอัตรา 50% ของมูลค่าเหล็กที่ใช้
ในการผลิต ขณะที่ยางล้อบางประเภทถูก
เก็บภาษีนาเข้าในอัตรา 25% ของมูลค่า
สินค้า
(***) อัตราภาษีนาเข้าสหรัฐฯ ของแต่ละ
ประเทศที่มีการประกาศออกมา ณ เดือน
ก.ค. 2025
อัตรากาแพงภาษีนาเข้าเฉลี่ยในแต่ละประเทศคู่ค้าสาคัญของสหรัฐฯ
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ Trade Map และ The White House
THA 36%
CAN 35%***
TWN
32%
CHN MEX*** EU***
30%
MYS JPN KOR 25%
IND 26%
PHL VNM 20%
IDN 19%***
SG ECU USMCA
Exempt - 10%
สินค้าอิเล็กทรอนิกส์และยางล้อของไทยกาลังเผชิญความเสี่ยงในการสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ ให้คู่แข่ง
อย่าง จีน เวียดนาม และมาเลเซีย ซึ่งกาแพงภาษีนาเข้าสหรัฐฯ ต่ากว่าไทย
19
ไทยส่งข้อเสนอใหม่ในการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี รัฐบาลยังคงลังเลในการเปิดตลาดเสรีตามข้อเรียกร้อง
ของสหรัฐฯ โดยเฉพาะภาคเกษตร เนื่องจากความกังวลด้านผลกระทบต่อเกษตรกรและผู้ประกอบการ
ข้อเสนอของไทยในการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ (ข้อมูล ณ 17 ก.ค.)
• ลดอัตราภาษีสินค้านาเข้าสหรัฐฯ เหลือ 0% คิดเป็นสัดส่วน 90% ของรายการสินค้า
ที่สหรัฐฯ ส่งมาไทย ยกเว้นบางสินค้า เพื่อปกป้องผู้ประกอบการไทยและรักษาสมดุล
การค้ากับประเทศอื่นที่ไทยมีข้อตกลง FTA ด้วย
• ยกเลิก Non-tariff barrier สาหรับสินค้าสหรัฐฯ หลายรายการ (ยังไม่ระบุชัด)
• เพิ่มการเข้าถึงตลาดไทยในสินค้าเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ
• ลดภาษีสาหรับกิจการสหรัฐฯ ที่ให้บริการดิจิทัลในไทย
ส่งเสริมการลงทุนของไทยในสหรัฐฯ มากขึ้น ในธุรกิจสินค้าเกษตรแปรรูป และพลังงาน
เข้มงวดต่อการสวมสิทธิสินค้า อาจเพิ่มเกณฑ์สัดส่วนการใช้วัตถุดิบในไทย (Local
content) จากปกติที่ใช้กันราว 40% เป็น 60-70% ขึ้นอยู่กับการต่อรองกับสหรัฐฯ
ลดการเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ลง 70% ภายใน 3 ปี (เร็วกว่าข้อเสนอรอบแรกและรอบที่
สองที่กาหนดภายใน 10 ปี และ 5 ปี ตามลาดับ) ตั้งเป้าสมดุลการค้ากับสหรัฐฯ ภายใน 5 ปี
เพิ่มการจัดซื้อพลังงาน (เช่น LNG) เครื่องบิน สินค้าเกษตร (เช่น ข้าวโพด, ถั่วเหลือง
และข้าวบาเลย์) จากสหรัฐฯ
สินค้า
มาตรการกีดกัน
สินค้าจาก
สหรัฐฯ
ระดับ
ความ
อ่อนไหว*
คาอธิบาย
ข้าวโพด ภาษีนาเข้า 73% สูง ต้นทุนการผลิตของไทยสูงกว่าสหรัฐฯ การเปิดตลาดโดยไม่มีเงื่อนไขนาเข้า
จะส่งผลลบต่อผู้ประกอบการและเกษตรกร 4.2 แสนครัวเรือน แต่จะส่งผล
ดีต่อผู้ผลิตอาหารสัตว์
เนื้อสุกร
และ
เครื่องใน
ภาษี 40%,
Import ban:
สารเร่งเนื้อแดง
สูง ต้นทุนการผลิตของไทยสูงกว่าสหรัฐฯ มาก ไทยพึ่งพาผลผลิตในประเทศ
ทั้งหมด การเปิดตลาดเสรีจะส่งผลลบต่อเกษตรกร 1.5 แสนครัวเรือนและ
ผู้ผลิตอาหารสุกร แต่จะส่งผลดีต่อผู้บริโภคจากราคาสินค้าที่ถูกลง
เนื้อไก่
และ
เครื่องใน
ภาษี 30%-40%,
Ban: โรคไข้หวัด
นก (HPAI)
สูง ต้นทุนการผลิตของไทยสูงกว่าสหรัฐฯ มาก ไทยพึ่งพาผลผลิตในประเทศ
ทั้งหมด การเปิดตลาดเสรีแบบไม่มีเงื่อนไขจะส่งผลลบต่อผู้ผลิตในประเทศ
แต่จะส่งผลดีต่อผู้บริโภคจากราคาสินค้าที่ถูกลง
เนื้อวัว
และ
เครื่องใน
ภาษี 30%-50%,
Ban: สารเร่ง
เนื้อแดง
ปานกลาง แม้ต้นทุนการผลิตในไทยจะสูงกว่าสหรัฐฯ มาก แต่ไทยมีการนาเข้าเนื้อวัวอยู่
แล้ว ซึ่งการเปิดตลาดเสรีจะทาให้กลุ่มผู้ผลิตเนื้อวัวเกรดพรีเมียม เผชิญกับ
การแข่งขันที่รุนแรงขึ้น แต่จะส่งผลดีต่อผู้บริโภคจากราคาสินค้าที่ถูกลง
ก๊าซ
ธรรมชาติ
ควบคุมปริมาณ
การนาเข้า
ต่า แม้ต้นทุนการผลิตของไทยสูงกว่าสหรัฐฯ แต่ไทยพึ่งพาการนาเข้าราว 53%
และภาครัฐให้ความสาคัญกับการใช้ก๊าซธรรมชาติจากแหล่งในประเทศ
เป็นหลัก ทาให้ไม่กระทบผู้ผลิต
ถั่ว
เหลือง
ไม่กีดกัน ต่า แม้ต้นทุนการผลิตในไทยจะสูงกว่าสหรัฐฯ มาก แต่ไทยพึ่งพาการนาเข้า
เกือบ 99% โดยส่วนใหญ่นาเข้าจากบราซิลซึ่งเป็นถั่วเหลืองราคาถูกและมี
โปรตีนดีกว่าสหรัฐฯ
ระดับความอ่อนไหวของอุตสาหกรรมในประเทศต่อการเปิดตลาดเสรีให้สหรัฐฯ หากไม่กาหนดเงื่อนไขการนาเข้า
หมายเหตุ : *ระดับความอ่อนไหว พิจารณาจาก 1) สัดส่วนต้นทุนการผลิตในไทยเทียบกับต้นทุนการผลิตในสหรัฐฯ รวมค่าขนส่งมาไทย 2) สัดส่วนการนาเข้าต่อปริมาณการบริโภคในประเทศ 3) จานวนผู้ผลิตในประเทศ และ 4) ปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ Bloomberg, ThaiBPS, การให้สัมภาษณ์ของคุณพิชัย ชุณหวชิรผ่านทางสื่อต่าง ๆ และการเสวนา The Art of (Re) deal. USDA, Trade Map, OAE และ CEIC
SCB EIC มองหากจะมีการเปิดเสรีสินค้าในภาคเกษตร โดยจะต้องพึ่งพาการนาเข้า ต้องพิจารณาประเด็นความมั่นคงทางอาหารของประเทศอย่างสมดุล อีกทั้ง ภาครัฐจะต้องเตรียมมาตรการเพื่อรองรับผลกระทบ
และช่วยผู้ประกอบการ และเกษตรกรในการปรับตัวอย่างเหมาะสม
20
มาตรการภาษีของสหรัฐฯ ก่อให้เกิดความเสี่ยงสูงต่ออุตสาหกรรมส่งออกสาคัญของไทย โดยเฉพาะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน
ยานยนต์ นอกจากนี้ หลายอุตสาหกรรมยังได้รับผลกระทบทางอ้อมจากอุปสงค์จีนที่ชะลอลง รวมถึงทิศทางเศรษฐกิจไทยที่มี
แนวโน้มชะลอลง
ประเมินความเสี่ยงจากมาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ ณ เดือน ก.ค. 2025 ผ่านช่องทางผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม
ประเภทอุตสาหกรรม
ประเด็นความเสี่ยงจากมาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ ภาพรวม
ความเสี่ยง
การเปลี่ยนแปลงของ
ระดับความเสี่ยงจากการประกาศ
นโยบายการค้าของสหรัฐฯ
เมื่อเดือน เม.ย. 2025
ประเด็นที่ต้องจับตามอง
การส่งออก/
กาลังซื้อ
ในตลาดสหรัฐฯ
การเสียส่วนแบ่งตลาด
สหรัฐฯ ให้คู่แข่งที่โดน
Tariffs ต่ากว่า
การส่งออก/
กาลังซื้อ
จากจีน
การตีตลาด
จากสินค้า
นาเข้า
กาลังซื้อในประเทศ/
เศรษฐกิจไทย
ชะลอตัว
แนวโน้ม
การลงทุน
ภายในประเทศ
Electronic Components -
• อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า จะต้อง
เผชิญกับความไม่แน่นอนมากขึ้น และต้อง
มีการพิจารณาโครงสร้างต้นทุนใหม่สาหรับ
สินค้าในรายการที่สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีตาม
ภาษีเหล็ก
• อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และชิ้นส่วน
อิเล็กทรอนิกส์ เผชิญความเสี่ยงที่รุนแรง
ขึ้นจากการเก็บภาษีในกลุ่มสินค้าไฮเทคและ
Reciprocal tariffs ในหมวดสินค้าอื่น ๆ
ที่ถูกเก็บในอัตราที่สูงกว่าคู่แข่ง
• อุตสาหกรรมยางล้อ เผชิญการแข่งขันที่
รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มยางรถบรรทุกและ
รถบัส ซึ่งแม้จะไม่ถูกเก็บภาษี Auto tariffs
ในอัตรา 25% แต่ต้องเผชิญกับ Reciprocal
tariffs ในอัตรา 36% ซึ่งสูงกว่าคู่แข่ง
สาคัญ โดยเฉพาะเวียดนาม
• อุตสาหกรรมกุ้ง มีแนวโน้มเผชิญการ
แข่งขันที่รุนแรงขึ้นและเสียส่วนแบ่งตลาด
ให้กับคู่แข่งสาคัญในสหรัฐฯ ที่โดนอัตราภาษี
ต่ากว่าไทย โดยเฉพาะเวียดนาม อินเดีย และ
เอกวาดอร์
Computer & HDD -
หม้อแปลง แบตเตอรี่ -
เครื่องใช้ไฟฟ้า -
ยางล้อและชิ้นส่วนยานยนต์ ●
เหล็ก -
สิ่งทอ -
ผลิตภัณฑ์พลาสติก -
กุ้ง -
เม็ดพลาสติก -
ถุงมือยาง -
อาหารทะเลแปรรูปอื่น ๆ -
ผักผลไม้สดและแปรรูป -
น้าตาล -
ขนส่งและโลจิสติกส์ -
ท่องเที่ยวและโรงแรม -
นิคมอุตสาหกรรม -
อสังหาฯ ที่อยู่อาศัย -
คลังสินค้า -
Negative risk ● Higher negative risk
- Unchanged
● Lower negative risk
Positive
risk
Not
relevance Low Moderate High
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC
21
%YOY Q1-25 Apr-25 May-25
Private Investment Index
and components (ธปท.)
2.1 12.3 8.0
• Machinery and Equipment
(48%)
7.1 19.2 14.0
Import of Machinery and Equipment 2.3 27.1 42.4
• Vehicle (32%) -7.2 8.0 1.8
• Construction (20%) -5.3 -2.1 -0.6
Manufacturing Production Index
(สศอ.)
-1.6 1.9 1.9
Private Investment ใน GDP
(สศช.)
-0.9 TBA
• Q2/2025 : แนวโน้มการลงทุนภาคเอกชนจะขยายตัวสูงขึ้น (เทียบมุมมองเดิม)
o ผลฐานต่าในปีก่อน เป็นปัจจัยชั่วคราวทาให้การลงทุนภาคเอกชนในปี
2024 หดตัว -6.8%YOY
การลงทุนภาคเอกชนสูงกว่าคาดใน Q2/25
ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม และดัชนีการลงทุนภาคเอกชน
หน่วย : %YOY ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ (BSI โดย ธปท.) ณ มิ.ย. 2025
หน่วย : Diffusion index (<50 ปรับตัวแย่ลง, >50 ปรับตัวดีขึ้น)
40
45
50
55
60
01/2023
04/2023
07/2023
10/2023
01/2024
04/2024
07/2024
10/2024
01/2025
04/2025
Business Sentiment Index: Whole Kingdom
BSI: Expectation: Next 3 Month
• H2/2025 : การลงทุนต่างชาติในไทยมีแนวโน้มชะลอลง รอความชัดเจนผลการเจรจาสหรัฐฯ ของไทยเทียบคู่แข่งสาคัญ
o เวียดนาม สามารถเจรจาลดอัตราภาษีตอบโต้สหรัฐฯ ลงมาได้มาก ตั้งแต่ต้น ก.ค.
o จีน บรรลุข้อตกลงชั่วคราวกับสหรัฐฯ ลดอัตราภาษีตอบโต้สหรัฐฯ จากอัตราเกิน 100% ลงได้มาก ตั้งแต่กลาง พ.ค.
กาลังซื้อในประเทศที่จะชะลอลงเป็นอีกปัจจัย กดดันการลงทุนภาคเอกชนในครึ่งปีหลัง
• ในระยะยาว : ความสามารถและระยะเวลาปิดจบดีลเจรจาการค้าของไทยกับสหรัฐฯ จะเป็นสิ่งที่แสดงออกถึงความสามารถในการแข่งขันของไทย
ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจไทยอยู่ในระดับต่าต่อเนื่อง นับตั้งแต่สหรัฐฯ ประกาศ Reciprocal tariffs
ส่วนหนึ่งสะท้อนบรรยากาศการลงทุนจะซบเซาลงในระยะข้างหน้า
ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม (TISI โดย สอท.)
หน่วย : Diffusion index (<100 ปรับตัวแย่ลง, >100 ปรับตัวดีขึ้น)
80
85
90
95
100
01/2024
03/2024
05/2024
07/2024
09/2024
11/2024
01/2025
03/2025
05/2025
TISI
Export to Total Sales > 50 %
Export to Total Sales < 50 %
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ ธปท. สศอ. สศช. และ สอท.
การลงทุนภาคเอกชนจะกลับมาหดตัวชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง จากการชะลอการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติที่มีแผน
จะลงทุนในไทย เพื่อรอความชัดเจนของผลเจรจาการค้าไทยเทียบคู่แข่งสาคัญ
22
ไทยพึ่งพาแรงงานกัมพูชาราว 1 ล้านคน
หรือ 2.5% ของกาลังแรงงานไทย (ณ พ.ค. 2025)
• เกือบครึ่งเป็นแรงงานที่ได้รับใบอนุญาตทางาน (12.5%
ของแรงงานต่างด้าวที่ได้รับใบอนุญาตทางานในไทย)
• หากความขัดแย้งไม่รุนแรง โอกาสที่แรงงานกัมพูชา
จะย้ายกลับประเทศมีน้อย เพราะค่าแรงต่ากว่าไทยมาก
• ตลาดแรงงานไทยพึ่งพาแรงงานเมียนมาราว 73%
อาจหาทดแทนแรงงานกัมพูชาได้
ส่งออก : 9,239 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปี 2024)
3.1% ของมูลค่าส่งออกไทยรวม
• สินค้าอุตสาหกรรม : 63.6%
สินค้าส่งออกชายแดน : เครื่องดื่ม น้าแร่ น้าอัดลม
ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์
• ไทยส่งออกน้ามันสาเร็จรูป 10% ของการผลิตน้ามัน
ทั้งหมด โดยส่งออกไปกัมพูชาราว 25%
นาเข้า : 302 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ปี 2024)
0.4% ของมูลค่านาเข้าไทยรวม
• นาเข้าสินแร่ เศษโลหะ อัญมณี ผักผลไม้ เสื้อผ้า
การลงทุนทางตรงของไทยในกัมพูชา (Flow ปี 2024)
1.7% ของการลงทุนไทยในต่างประเทศ
• แนวโน้มการลงทุนใหม่ถูกกดดันจากความเชื่อมั่น
ที่ลดลง เพิ่มเติมจากความไม่แน่นอนภาษีสหรัฐฯ
และปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่มีอยู่แล้ว
• ธุรกิจไทยที่มีฐานการลงทุนในกัมพูชาส่วนมากเป็น
ค้าปลีกและบริการ ซึ่งยังดาเนินการปกติ
เช่น OR และ SCG
• บางกิจการอาจมีความเสี่ยงจากประเด็นชาตินิยม
นักท่องเที่ยวกัมพูชาส่วนใหญ่เดินทางทางบก
ผ่านจังหวัดชายแดน
• ณ พ.ค. 2025 นักท่องเที่ยวกัมพูชาเดินทางมาไทย
36,430 คน (-21%YOY) ลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี
ความขัดแย้งไทยและกัมพูชาจะเป็นปัจจัยลบเพิ่มเติมกดดันเศรษฐกิจไทยผ่านหลายช่องทาง ผลกระทบขึ้นอยู่กับ
ความรุนแรงของมาตรการตอบโต้
การลงทุนใหม่ของธุรกิจไทยในกัมพูชา
มีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่องมากขึ้น
การท่องเที่ยวไทย-กัมพูชามีแนวโน้ม
ชะลอตัวต่อเนื่อง
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์, สานักบริหารแรงงานต่างด้าว, กรมการค้าต่างประเทศ, สภาธุรกิจไทย-กัมพูชา, Nikkei Asia, แถลงการณ์จากทาเนียบรัฐบาล และกรุงเทพธุรกิจ
การค้า การลงทุน แรงงาน การท่องเที่ยว
การปิดด่านศุลกากรจะกระทบการค้าชายแดน
สัดส่วน 44% ของมูลค่าการค้าไทย-กัมพูชา
ห้ามนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไปเล่นพนันที่กัมพูชา
เข้มงวดการตรวจสอบเครื่องบินไปเสียมราฐ
ยกระดับปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยีข้ามชาติ
ตรวจสอบบัญชีม้า ระงับอินเทอร์เน็ต คว่าบาตรอาชญากร
ระงับการส่งออกไฟฟ้า น้ามัน และสินค้าผ่านชายแดน
(เฉพาะสินค้าที่เกื้อหนุนกิจกรรมอาชญากรข้ามชาติ)
กองทัพสั่งปิดทุกด่านในชายแดน
7 จังหวัด งดเดินทาง ค้าขาย และ
ท่องเที่ยว ยกเว้นนักเรียน คนป่วย
กรณีจาเป็นอื่น
ช่วยเหลือเกษตรกรและ SMEs ที่ได้รับผลกระทบ
เพิ่มความเข้มงวดนาเข้ามันสาปะหลัง / สินค้าคุณภาพต่า
มาตรการตอบโต้ของรัฐบาลไทย (ณ 23 มิ.ย. 2025)
ผลกระทบต่อตลาดแรงงานไทยมีบ้าง
แต่อาจหาทดแทนได้
หากเหตุการณ์รุนแรง แรงงานสาขาก่อสร้าง
เกษตร และบริการอาจขาดแคลนในระยะสั้น
รัฐบาลกัมพูชาตอบโต้ไทย
หากเหตุการณ์รุนแรง ธุรกิจพร้อมเรียก
พนักงานกลับ ชะลอการลงทุนรอดูสถานการณ์
หากสถานการณ์ยืดเยื้อ ผู้ประกอบการต้อง
พึ่งพาการขนส่งทางเรือกระทบต้นทุนขนส่ง
จังหวัดใกล้ชายแดนจะได้รับ
ผลกระทบมากกว่า
•ห้ามนาเข้าน้ามันและก๊าซ
ธรรมชาติ ผัก-ผลไม้จากไทย
•งดเผยแพร่รายการโทรทัศน์
ของไทย
23
หนี้ครัวเรือนไทยต่อ GDP ปรับลดลงต่อเนื่อง (Deleveraging) หนี้ครัวเรือนหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่ม
เผยแพร่ข้อมูลนี้ ส่วนหนึ่งจากความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน
-0.5% -0.5%
-0.5%
-4%
-2%
0%
2%
Q1-21 Q3-21 Q1-22 Q3-22 Q1-23 Q3-23 Q1-24 Q3-24 Q1-25
Nominal GDP
Outstanding
Household Debt
Household Debt to
GDP
การเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP (เทียบจากไตรมาสก่อน)
หน่วย : %QoQ
ช่วงปี 2021 – 2023 : สินเชื่อครัวเรือน
เติบโต ขณะที่เศรษฐกิจเติบโตสูงกว่า
ตั้งแต่ปี 2024 :
สินเชื่อครัวเรือนหดตัว
แต่เศรษฐกิจเติบโตต่า
95.5
87.4
75
80
85
90
95
100
2013Q1
2013Q4
2014Q3
2015Q2
2016Q1
2016Q4
2017Q3
2018Q2
2019Q1
2019Q4
2020Q3
2021Q2
2022Q1
2022Q4
2023Q3
2024Q2
2025Q1
หนี้ครัวเรือนไทยต่อ GDP
หน่วย : % Nominal GDP
4.4%
3.8% 3.8%
3.3% 3.0%
2.4%
1.6%
0.8%
0.2% -0.1%
-1%
0%
1%
2%
3%
4%
5%
Avg. 19-
22
Q1/2023 Q2/2023 Q3/2023 Q4/2023 Q1/2024 Q2/2024 Q3/2024 Q4/2024 Q1/2025
ใน Q1/2025 ยอดคงค้างหนี้
ครัวเรือนหดตัวครั้งแรก นับตั้งแต่
เริ่มเผยแพร่ข้อมูลนี้
อัตราการขยายตัวของสินเชื่อครัวเรือนรวม
หน่วย : %YOY
0
1
2
3
4
5
2021Q1
2021Q2
2021Q3
2021Q4
2022Q1
2022Q2
2022Q3
2022Q4
2023Q1
2023Q2
2023Q3
2023Q4
2024Q1
2024Q2
2024Q3
2024Q4
2025Q1
สินเชื่ออุปโภคบริโภครวม ที่อยู่อาศัย ยานยนต์
บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลอื่น ๆ
3.4
4.1
4.2
2.8
2.2
สัดส่วน NPL ต่อยอดคงค้างสินเชื่อครัวเรือนในระบบธนาคารพาณิชย์
หน่วย : %ยอดคงค้างสินเชื่อทั้งหมด
ช่วง 2021 – 2023 :
ครัวเรือนเข้าสู่
วัฏจักรปรับลดหนี้
(Deleveraging)
ตั้งแต่ 2024 :
วัฏจักรปรับลดหนี้
รวดเร็วขึ้น ตามยอด
คงค้างหนี้ที่ไม่เติบโต
คุณภาพสินเชื่อยัง
ทยอยปรับด้อยลง
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ ธปท. และสานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
24
การบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มแผ่วลง ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับลดลง 5 เดือนติดต่อกัน จากความไม่แน่นอน
ของการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ และเสถียรภาพทางการเมือง
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย, มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และ CEIC
ดัชนีการบริโภคภาคเอกชน (Private Consumption Index) โดย ธปท.
หน่วย : ดัชนี (2019Q4 = 100), ปรับฤดูกาล
0
20
40
60
80
100
120
50
60
70
80
90
100
110
120
130
10/2019
01/2020
04/2020
07/2020
10/2020
01/2021
04/2021
07/2021
10/2021
01/2022
04/2022
07/2022
10/2022
01/2023
04/2023
07/2023
10/2023
01/2024
04/2024
07/2024
10/2024
01/2025
04/2025
PCI Non-Durables
Semi-Durables Durables
Services Non-Residents Exp (RHS)
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
หน่วย : ดัชนี
30
40
50
60
70
01/2023
03/2023
05/2023
07/2023
09/2023
11/2023
01/2024
03/2024
05/2024
07/2024
09/2024
11/2024
01/2025
03/2025
05/2025
CCI CCI: Present CCI: Expectations
Digital Wallet เฟส 1
(ปลาย ก.ย. 24)
เฟส 2
(ปลาย ม.ค. 25)
US Reciprocal
Tariff
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน มิ.ย. ปรับตัวลดลง
ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และเป็นระดับต่าสุดในรอบ 29 เดือน
• ดัชนีการบริโภคภาคเอกชน (PCI) เดือน พ.ค. ทรงตัว (แบบปรับฤดูกาล) แม้การใช้จ่ายหมวดสินค้าคงทนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
จากยอดจาหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล แต่การใช้จ่ายหมวดบริการปรับลดลงในหมวดโรงแรมและภัตตาคารเป็นสาคัญ
ตามจานวนนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติที่ลดลง และหมวดสินค้าไม่คงทนลดลงจากยอดจาหน่ายน้ามันเชื้อเพลิงเป็นสาคัญ
ขณะที่หมวดสินค้ากึ่งคงทนทรงตัว
• ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CCI) เดือน มิ.ย. ปรับลดลง 5 เดือนติดต่อกัน และเป็นระดับต่าสุดในรอบ 29 เดือน จากความกังวล
เกี่ยวกับความไม่แน่นอนของการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ และเสถียรภาพการเมือง รวมถึง ปัจจัยกดดันจากเศรษฐกิจฟื้นตัวช้าและ
ค่าครองชีพสูงไม่สอดคล้องกับรายได้
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับลดลง 5 เดือนต่อเนื่อง
25
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน มิ.ย. 2025 ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่สาม ผลจากราคาพลังงานและผักผลไม้สดที่ลดลง
ทั้งนี้ประเมินว่าเงินเฟ้อจะกลับมาเป็นบวกช่วงปลายไตรมาส 3
-2%
-1%
0%
1%
2%
3%
4%
Jul-23
Aug-23
Sep-23
Oct-23
Nov-23
Dec-23
Jan-24
Feb-24
Mar-24
Apr-24
May-24
Jun-24
Jul-24
Aug-24
Sep-24
Oct-24
Nov-24
Dec-24
Jan-25
Feb-25
Mar-25
Apr-25
May-25
Jun-25
Core contribution Energy contribution Raw food contribution Headline Core
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์
อัตราเงินเฟ้อทั่วไป รายหมวดสินค้า
หน่วย : %
แหล่งที่มาของอัตราเงินเฟ้อไทย
หน่วย : %YOY
กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ 1-3%
ดัชนีราคาผู้บริโภคไทย
หน่วย : Index, 2023=100
ราคาพลังงานที่ลดลงมากเป็น
ปัจจัยสาคัญฉุดเงินเฟ้อติดลบ
%YoY Share 2024 Jan-25 Feb-25 Mar-25 Apr-25 May-25 Jun-25 YTD
ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป 100% 0.4% 1.3% 1.1% 0.8% -0.2% -0.6% -0.2% 0.4%
อาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 39.5% 0.8% 1.8% 2.0% 2.4% 1.6% 0.9% 1.6% 1.7%
อาหารสด 17.4% 0.1% 1.0% 1.1% 1.9% 0.3% -1.8% -0.2% 0.4%
เนื้อสัตว์ 3.0% -6.9% -0.9% 0.5% 4.1% 8.4% 9.4% 8.5% 5.0%
ผัก ผลไม้สด 4.8% 2.3% 1.9% 1.5% 1.7% -6.7% -14.0% -7.0% -4.2%
เครื่องประกอบอาหาร 1.2% -0.6% 3.3% 5.2% 6.8% 6.2% 6.0% 4.6% 5.3%
เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 3.4% 2.3% 3.2% 3.3% 3.7% 4.2% 4.4% 4.3% 3.8%
อาหารสาเร็จรูป 16.7% 1.4% 2.5% 2.7% 2.4% 2.6% 3.4% 3.4% 2.8%
เครื่องนุ่งห่มและรองเท้า 2.1% -0.4% -0.2% -0.3% -0.4% -0.6% -0.9% -0.9% -0.5%
เคหสถาน 24.6% -0.2% 0.4% 0.5% 0.0% -0.7% -0.3% -0.4% -0.1%
ไฟฟ้า เชื้อเพลิง น้าประปาและแสง
สว่าง
5.8% -0.8% 1.5% 1.5% 0.1% -2.8% -1.4% -1.4% -0.4%
การตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล 6.4% 0.1% -0.5% -0.5% -0.6% -0.7% -1.1% -0.8% -0.7%
พาหนะ การขนส่ง และการสื่อสาร 22.2% 0.4% 2.1% 0.5% -0.4% -3.0% -3.4% -3.2% -1.3%
การบันเทิงการอ่าน การศึกษา และการ
ศาสนา
4.0% 0.5% 0.4% 0.4% 0.4% 0.7% 0.4% 0.5% 0.5%
ยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ 1.2% 1.2% 0.8% 0.3% 0.1% 0.1% 0.1% 0.0% 0.2%
ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน 70.4% 0.6% 0.8% 1.0% 0.9% 1.0% 1.1% 1.1% 1.0%
94
95
96
97
98
99
100
101
102
103
104
Jun-24
Jul-24
Aug-24
Sep-24
Oct-24
Nov-24
Dec-24
Jan-25
Feb-25
Mar-25
Apr-25
May-25
Jun-25
Raw Energy Core
เงินเฟ้อจะทยอยกลับเป็น
บวกในช่วงปลาย Q3 จาก
- ราคาสินค้าเกษตรบาง
ชนิดและเครื่องประกอบ
อาหารมีแนวโน้มเร่งตัว
เช่น เนื้อสุกร
- ปัจจัยฐานสูงของราคา
พลังงานค่อย ๆ หมดลง
ปัจจัยฐานสูงจะเริ่ม
ลดลงมากในช่วง
ท้ายปี
26
แนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะยังปรับลดลงอีก 2 ครั้งในปีนี้ จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่จะชะลอลงอย่างมีนัย
ในช่วงครึ่งปีหลัง และภาวะการเงินไทยยังคงตึงตัวต่อเนื่อง
101
102
103
104
Jan-24 Mar-24 May-24 Jul-24 Sep-24 Nov-24 Jan-25 Mar-25 May-25 Jul-25
หมายเหตุ : Inflation expectation จาก Bloomberg Median (ปี 2016-ปัจจุบัน) สาหรับก่อนปี 2016 ใช้ข้อมูลจริงอัตราเงินเฟ้อทั่วไป 1 ปีข้างหน้า
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ BIS Goldman Sachs ธปท. และ Bloomberg
กนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ ตามเศรษฐกิจที่จะชะลอลง
• SCB EIC ยังคงประเมินว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะปรับลดลงอีก 0.25% ในเดือน ส.ค. และ
อีก 1 ครั้งในไตรมาส 4 เหลือ 1.25% ภายในสิ้นปี จาก Momentum เศรษฐกิจไทยในช่วง H2
ที่จะปรับแย่ลงตามที่ กนง. ประเมินไว้ (เศรษฐกิจขยายตัวใกล้เคียง 0%QOQsa) โดยพัฒนาการ
ใหม่ของอัตราภาษีนาเข้าสหรัฐฯ นี้อาจทาให้ กนง. ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยในช่วง H2
ลงอีก เนื่องจาก กนง. มีข้อสมมติว่าไทยจะถูกเก็บภาษีนาเข้าเพียง 18% เท่านั้น
• เศรษฐกิจไทยจะเผชิญความเสี่ยงด้านต่าสูงขึ้น หากการเจรจาสหรัฐฯ ไม่สาเร็จ ไทยอาจถูก
สหรัฐฯ เก็บภาษีอัตราเดิม 36% ในกรณีนี้อาจเห็น กนง. ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงมากกว่า
2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้
-4
-2
0
2
4
6
01/2009
11/2009
09/2010
07/2011
05/2012
03/2013
01/2014
11/2014
09/2015
07/2016
05/2017
03/2018
01/2019
11/2019
09/2020
07/2021
05/2022
03/2023
01/2024
11/2024
Policy Interest Rate Inflation Expectation (1-Year ahead) Real Rate
คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย โดย SCB EIC
%,
Policy rate Current End-25F End-26F End-27F
Nominal 1.75 1.25 1.0 1.0
Real 1.0 0.75 0.6 0.1
10-year avg. = -0.1
20-year avg. = -0.1
101
102
103
104
Jan-24 Mar-24 May-24 Jul-24 Sep-24 Nov-24 Jan-25 Mar-25 May-25
ดัชนีค่าเงินบาท (Nominal Effective Exchange Rate) โดย BIS
หน่วย : Index 2020 = 100
ดัชนีเงินบาทแข็งค่าขึ้น
ดัชนีค่าเงินบาทยังอยู่ในระดับแข็งค่ากว่าปีก่อน
อาจเป็นอุปสรรคต่อการแข่งขันของการส่งออก
ไทยที่จะต้องเผชิญกาแพงภาษีสหรัฐฯ
ดัชนีภาวะการเงินไทย โดย Goldman Sachs
หน่วย : 100 = historical average
ภาวะการเงินตึงตัวขึ้น
ภาวะการเงินปรับตึงตัวขึ้นต่อเนื่อง
อาจไม่ช่วยสนับสนุนกิจกรรมทาง
เศรษฐกิจได้มากนัก
27
เงินบาทอ่อนค่าจากปัจจัยการเมืองในประเทศเป็นสาคัญ แต่กลับมาแข็งค่าได้จากปัจจัยต่างประเทศที่ทาให้ดอลลาร์อ่อน
ค่าลง ทั้งจากอิหร่าน-อิสราเอลตกลงหยุดยิง สหรัฐฯ-จีนทาข้อตกลงการค้า และตลาดมอง Fed ลดดอกเบี้ยมากขึ้น
-0.04%
5.7%
-10%
-5%
0%
5%
10%
15%
Europe
Taiwan
Korea
Malaysia
Thailand
Philippines
China
Japan
India
Indonesia
Vietnam
Dollar
index
Since Iran War YTD Since Tariffs
การเปลี่ยนแปลงของค่าเงินแต่ละสกุล เทียบดอลลาร์สหรัฐ
หน่วย : % (ข้อมูล ณ วันที่ 1 ก.ค. 2025)
บาทแข็งค่าหลังสงครามจบลง
แต่อ่อนค่าจากเรื่องการเมือง
US Dollar Position, Non-commercial traders (from CFTC)
Unit : Billion US Dollar
เงินทุนเคลื่อนย้ายสู่ตลาดการเงินไทย
หน่วย : พันล้านบาท
-110
-60
-10
40
90
Apr-23
Jun-23
Aug-23
Oct-23
Dec-23
Feb-24
Apr-24
Jun-24
Aug-24
Oct-24
Dec-24
Feb-25
Apr-25
Jun-25
Equity market Bond market
Bn THB YTD 2024 2023 2022
Equity -81.3 -148 -193 +196.9
Bond +42.6 -70 -144 +46.8
• เงินบาทเดือนที่ผ่านมาผันผวนขึ้น โดยมีช่วงที่อ่อนค่าขึ้นแรงจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ
แต่ก็กลับมาแข็งค่าเร็วหลังอิหร่าน-อิสราเอลตกลงหยุดยิง และสหรัฐฯ-จีนทาข้อตกลงทางการค้าสาเร็จ
นอกจากนี้ ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลง หลังตลาดมองว่า Fed มีโอกาสลดดอกเบี้ยมากขึ้นมากกว่า
2 ครั้งในปีนี้
• ช่วงที่การเมืองไทยร้อนแรง เงินบาทอ่อนค่าเร็วกว่าสกุลอื่นในภูมิภาค และความกังวลการเมืองทาให้เงิน
ไหลออกจากตลาดบอนด์ไทยมากกว่าปัจจัยต่างประเทศ เช่น สงคราม
• ระยะต่อไปมองว่า เงินบาทยังจะมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง จากเทรนด์การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ดี จะมีปัจจัยที่ทาให้บาทกลับมาอ่อนค่าเป็นบางช่วง ทั้งจากเรื่องการเมืองในประเทศ การขึ้นภาษี
นาเข้าของทรัมป์ และมุมมองนโยบายของ Fed
เงินไหลออกจากตลาดบอนด์
ในช่วงที่การเมืองไม่แน่นอน
เงินดอลลาร์อ่อนค่าแรง
หลังสงครามจบลง
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB FM จากข้อมูลของ Bloomberg
The information contained in this report has been obtained from sources
believed to be reliable. However, neither we nor any of our respective
affiliates, employees or representatives make any representation or
warranty, express or implied, as to the accuracy or completeness of any
of the information contained in this report, and we and our respective
affiliates, employees or representatives expressly disclaim any and all
liability relating to or resulting from the use of this report or such
information by the recipient or other persons in whatever manner.
Any opinions presented herein represent our subjective views and our
current estimates and judgments based on various assumptions that
may be subject to change without notice, and may not prove to be
correct.
This report is for the recipient’s information only. It does not represent
or constitute any advice, offer, recommendation, or solicitation by us and
should not be relied upon as such. We, or any of our associates, may
also have an interest in the companies mentioned herein.
Disclaimer
เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง-ปีหน้าเสี่ยงชะลอตัวแรง SCB EIC มองผลกระทบขึ้นอยู่กับผลเจรจาภาษีสหรัฐฯ ก่อนถึงกำหนด 1 ส.ค.
เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง-ปีหน้าเสี่ยงชะลอตัวแรง SCB EIC มองผลกระทบขึ้นอยู่กับผลเจรจาภาษีสหรัฐฯ ก่อนถึงกำหนด 1 ส.ค.
เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง-ปีหน้าเสี่ยงชะลอตัวแรง SCB EIC มองผลกระทบขึ้นอยู่กับผลเจรจาภาษีสหรัฐฯ ก่อนถึงกำหนด 1 ส.ค.

เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง-ปีหน้าเสี่ยงชะลอตัวแรง SCB EIC มองผลกระทบขึ้นอยู่กับผลเจรจาภาษีสหรัฐฯ ก่อนถึงกำหนด 1 ส.ค.

  • 1.
    SCB EIC Monthly เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง-ปีหน้าเสี่ยงชะลอตัวแรง SCB EICมองผลกระทบขึ้นอยู่กับผลเจรจาภาษีสหรัฐฯ ก่อนถึงกาหนด 1 ส.ค. Issue : July 2025
  • 2.
    2 Executive summary SCB EICประเมินเศรษฐกิจไทยปี 2025 จะขยายตัวใกล้เคียงมุมมองเดิมที่ 1.5% แม้ในกรณีที่ไทยจะสามารถเจรจาลดกาแพงภาษีสหรัฐฯ ลงมาได้บ้าง ภายใน 1 ส.ค. แต่ยังสูงกว่าคู่แข่งหลัก • เศรษฐกิจไทยยังมีปัจจัยบวกจากเครื่องชี้ไตรมาส 2 ที่สูงกว่าคาด โดยเฉพาะ Front-loading สินค้าส่งออกก่อนสหรัฐฯ จะเริ่มเก็บภาษีนาเข้าสูงไว้แล้ว สาหรับช่วง H2 เศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบรุนแรงขึ้น จาก Reciprocal tariffs ไทยที่อาจสูงกว่าคู่แข่งในสหรัฐฯ มุมมองเศรษฐกิจไทยในปี 2026 จะขยายตัวต่าลงมากเหลือเพียง 1.2% (เดิม 1.4%) จากการส่งออกและลงทุน ที่จะหดตัวแรงขึ้น o กรณีไทยเจรจาไม่สาเร็จ (Worse case) สหรัฐฯ ยังเก็บภาษีตอบโต้ไทยที่ 36% เศรษฐกิจไทยอาจเติบโตเพียง 1.1% ในปีนี้ และต่าลงมากเหลือ 0.4% ในปี 2026 • สินค้าส่งออกสาคัญของไทยกาลังเผชิญความเสี่ยงจากการสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ ให้คู่แข่งที่เผชิญภาษีตอบโต้อัตราต่ากว่า โดยเฉพาะกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า มีแนวโน้มสูญเสียส่วนแบ่งตลาดให้คู่แข่งในอาเซียน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ • ไทยยังอาจเผชิญความเสี่ยงจากการถูกเก็บภาษีสวมสิทธิ เช่นเดียวกับเวียดนาม จะยิ่งเพิ่มต้นทุนการค้า เผชิญมาตรการตรวจสอบแหล่งกาเนิดสินค้าที่เข้มงวดขึ้น และอาจกระทบการส่งออกสินค้าที่มี High import content เพิ่มเติม • อุตสาหกรรมเกษตรและปศุสัตว์ โดยเฉพาะสุกร ไก่เนื้อ และข้าวโพด จัดว่ามีความอ่อนไหวสูง หากไทยต้องเปิดตลาดเสรีให้สินค้าสหรัฐฯ เนื่องจาก (1) ต้นทุนการผลิตของไทยสูงกว่าสหรัฐฯ (รวมค่าขนส่งมาไทย) ค่อนข้างมาก (2) ปัจจุบันไทยพึ่งพาผลผลิตนี้ในประเทศเป็นหลัก หากจะต้องพึ่งพาการนาเข้า ต้องพิจารณาประเด็นความมั่นคงทางอาหารของประเทศอย่างสมดุล และ (3) ผู้ผลิตและผู้เล่นที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่ การผลิตในประเทศอาจได้รับผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อยที่มีต้นทุนผลิตสูงกว่า ดังนั้น หากจะมีการเปิดเสรีสินค้าในภาคเกษตร ภาครัฐจะต้องเตรียมมาตรการเพื่อรองรับผลกระทบและช่วยผู้ประกอบการ และ เกษตรกรในการปรับตัวอย่างเหมาะสม SCB EIC ประเมินการเลื่อนเก็บภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ เป็น 1 ส.ค. และการเจรจากับประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ ที่มีความคืบหน้า มีส่วนช่วยให้มุมมองเศรษฐกิจโลกในปี 2025 ปรับดีขึ้นบ้าง แต่ผลของกาแพงภาษีสหรัฐฯ จะชัดเจน มากขึ้นหลังเดือน ส.ค. และจะกดดันเศรษฐกิจโลกต่อเนื่องไปถึงปี 2026 • กิจกรรมเศรษฐกิจของโลกยังขยายตัวได้ดีจากการเร่งผลิตเพื่อส่งออกในช่วงครึ่งปีแรก เช่น เศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวได้ดีกว่าคาดในไตรมาส 2 ส่วนหนึ่งจากการส่งออกที่ขยายตัวดี โดยเฉพาะตลาดอาเซียนและยุโรป รวมถึงกาแพง ภาษีของสหรัฐฯ ต่อสินค้าจีนได้ลดลงบ้างตั้งแต่เดือน พ.ค. อย่างไรก็ดี การนาเข้าของสหรัฐฯ เริ่มปรับลดลงหลังเร่งนาเข้าล่วงหน้า (front-load) ไปมากตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 4 ปี 2024 ต่อเนื่องในไตรมาส 1 ปีนี้ • สหรัฐฯ เจรจาประเทศต่าง ๆ คืบหน้ามากขึ้น โดยเฉพาะหลังส่งจดหมายถึงคู่ค้าหลักกลุ่มแรก ๆ แจ้งอัตราภาษีตอบโต้ที่จะเริ่มเป็น 1 ส.ค. และเร่งให้คู่ค้ายื่นข้อเสนอที่ดีขึ้นอีก นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังขู่จะเริ่มเก็บภาษีรายสินค้าเพิ่มอีกหลายรายการในปีนี้ เช่น ทองแดง ยา เซมิคอนดักเตอร์ • นโยบายการเงินโลกยังมีแนวโน้มผ่อนคลายในปีนี้ แต่ความเสี่ยงจากสงครามการค้าจะมีผลต่อความไม่แน่นอนของนโยบายการเงินในระยะข้างหน้า เช่น Fed จะยังไม่เร่งปรับลดดอกเบี้ยใน Q3 จากตลาดแรงงานยังแข็งแกร่ง และผลกระทบกาแพงภาษีต่อเงินเฟ้อยังไม่ชัดเจน ขณะที่ญี่ปุ่นมีแนวโน้มคงดอกเบี้ยนโยบาย จากผลกาแพงภาษีที่กระทบค่าจ้างและชะลอวัฏจักรเชิงบวกของเงินเฟ้อ SCB EIC มองว่ามีโอกาสมากขึ้นที่จะเห็น กนง. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 2 ครั้งในปีนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะข้างหน้าที่จะแย่ลงกว่าที่ กนง. เคยประเมินไว้ แต่หากการเจรจากับสหรัฐฯ ไม่สาเร็จ เศรษฐกิจไทยจะยิ่งเผชิญความเสี่ยงด้านต่าสูงขึ้น อาจมีโอกาสเห็น กนง. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมากกว่า 2 ครั้งภายในปีนี้
  • 3.
    3 เศรษฐกิจโลก สหรัฐฯ เลื่อนเก็บภาษีตอบโต้เป็น 1ส.ค. ช่วยให้เศรษฐกิจโลกในปีนี้ไม่ชะลอตัวลงมาก แต่สหรัฐฯ เร่งให้คู่ค้าเจรจาข้อเสนอที่ดีขึ้นอีก จะเป็นความเสี่ยงต่อเนื่องไปถึงปี 2026
  • 4.
    4 มูลค่าการนาเข้าสินค้าของสหรัฐฯ กลับสู่แนวโน้มปกติ หน่วย :พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ, ปรับฤดูกาล เศรษฐกิจจีนเติบโตสูงกว่าคาดใน Q2/2025 หน่วย : %YOY, %QOQ_sa (RHS) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) โลกชะลอลงบ้าง หน่วย : ดัชนี, >50 สะท้อนการขยายตัว 5.3 4.7 4.6 5.4 5.4 5.2 1.4 1 1.3 1.6 1.2 1.1 0.0 0.5 1.0 1.5 2.0 0 1 2 3 4 5 6 Mar-24 Jun-24 Sep-24 Dec-24 Mar-25 Jun-25 %YOY %QOQ_sa • เศรษฐกิจจีนขยายตัว 5.2%YOY ใน Q2 สูงกว่าตลาดคาด (5.1%) แม้มีสัญญาณชะลอลงจากไตรมาสก่อน ส่วนหนึ่งจากการส่งออก ที่ยังขยายตัวดี โดยเฉพาะในตลาดอาเซียนและยุโรป รวมถึงกาแพง ภาษีของสหรัฐฯ ต่อสินค้าจีนได้ลดลงบ้างตั้งแต่เดือน พ.ค. • ในช่วง H2 จีนอาจเผชิญความท้าทายมากขึ้น จากการบังคับใช้ภาษี ตอบโต้อัตราสูงของสหรัฐฯ เงินฝืด และปัญหาภาคอสังหาฯ 50.3 49.3 51.9 51.5 51.7 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 Jan-24 Feb-24 Mar-24 Apr-24 May-24 Jun-24 Jul-24 Aug-24 Sep-24 Oct-24 Nov-24 Dec-24 Jan-25 Feb-25 Mar-25 Apr-25 May-25 Jun-25 Mnfg. Mnfg. Export Order Services Services: New Business Composite • PMI สะท้อนกิจกรรมเศรษฐกิจโลกใน Q2 ขยายตัวชะลอลง แต่ยังอยู่ในระดับที่ดี ส่วนหนึ่งผลจากการเร่งตัวก่อนได้รับ ผลกระทบจากกาแพงภาษีของสหรัฐฯ เต็มที่ • ข้อมูลเดือน มิ.ย. ยังสะท้อนการเร่งดาเนินกิจกรรมเศรษฐกิจ ในภาคการผลิต ภาคบริการชะลอตัวลงบ้าง 230 250 270 290 310 330 350 01/2023 03/2023 05/2023 07/2023 09/2023 11/2023 01/2024 03/2024 05/2024 07/2024 09/2024 11/2024 01/2025 03/2025 05/2025 มูลค่าการนาเข้า แนวโน้มเดิมปี 2023-2024 y = 1.2147x + 249.12 R^2 = 0.6831 • สหรัฐฯ นาเข้าสินค้าสูงกว่าแนวโน้มในอดีตมากถึง 1.69 แสนล้าน ดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง ธ.ค. 2024 – มี.ค. 2025 • แต่การนาเข้าสหรัฐฯ เดือน เม.ย. - พ.ค. เริ่มลดต่ากว่าแนวโน้ม ปกติ เฉลี่ยเดือนละ 7-9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ • ในระยะข้างหน้า ประเมินว่าสหรัฐฯ มีแนวโน้มนาเข้าลดลงต่อเนื่อง กิจกรรมเศรษฐกิจโลกขยายตัวชะลอลงบ้างใน Q2 แต่ยังสะท้อนการเร่งผลิตและส่งออกก่อนกาแพงภาษีสหรัฐฯ เริ่มบังคับใช้จริง ทั้งนี้การนาเข้าของสหรัฐฯ เริ่มชะลอลงกลับสู่แนวโน้มปกติ ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ National Bureau of Statistics of China, JP Morgan, S&P Global, US Commerce Department, US Census Bureau, และ HSBC
  • 5.
    5 กาแพงภาษีล่าสุดที่สหรัฐฯ ทยอยส่งหนังสือถึงคู่ค้าช่วง 7-15ก.ค. 2025 เทียบค่าเฉลี่ยโลก หน่วย : % (รวม Reciprocal tariffs, Universal tariffs, Country specific tariffs) 50 40 40 36 36 35 35 30 30 25 25 25 25 20 19 0 10 20 30 40 50 60 บราซิ ล ลาว เมี ย นมา กั ม พู ช า ไทย แคนาดา* เม็ ก ซิ โ ก* ศรี ล ั ง กา สหภาพยุ โ รป ญี ่ ป ุ ่ น มาเลเซี ย เกาหลี ใ ต้ บรู ไ น ฟิ ล ิ ป ปิ น ส์ อิ น โดนี เ ซี ย ภาษีที่ประกาศ ณ 2 เม.ย. 2025 ภาษีที่ประกาศหลังจาก 7 ก.ค. 2025 ค่าเฉลี่ยอาเซียน (ไม่รวมไทย) = 26% ค่าเฉลี่ยเอเชีย (ไม่รวมไทย) = 18% ค่าเฉลี่ยโลก (ไม่รวมไทย) = 16% กาแพงภาษีนาเข้ารายสินค้า (Product Specific Tariffs) ของสหรัฐฯ ตั้งแต่ต้นปี 2025 ยุโรป ชิลี สิงคโปร์ และอินเดียอยู่ในกลุ่มประเทศที่จะถูกกระทบจากภาษีทองแดงและยา (โดย HSBC) หน่วย : % การนาเข้าทองแดงและยาเทียบการนาเข้าทั้งหมดจากประเทศนั้น ๆ ของสหรัฐฯ (HS-Code 8 หลัก) สถานะปัจจุบัน ประเภทสินค้า เก็บภาษีแล้ว รถยนต์/ส่วนประกอบ (25%) เหล็ก อะลูมิเนียม เครื่องใช้ไฟฟ้าบางชนิด (50%) ขู่บังคับใช้ ทองแดง (50% เริ่ม 1 ส.ค.), ยา (อาจใช้บางส่วนตั้งแต่ 1 ส.ค. และเพิ่มเป็น 200% ใน 1 – 1.5 ปีข้างหน้า), เซมิคอนดักเตอร์ (25% ไม่ระบุวัน แต่อาจเริ่ม 1 ส.ค.) กาลังศึกษา ไม้ซุงและไม้แปรรูป, เซมิคอนดักเตอร์และอุปกรณ์สาหรับการผลิตชิป เวชภัณฑ์ และส่วนประกอบทางยา, รถบรรทุกขนาดใหญ่, อากาศยานพาณิชย์และ เครื่องยนต์เจ็ต, แร่สาคัญที่ผ่านกระบวนการแปรรูปและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง สหรัฐฯ เร่งให้คู่ค้าเจรจาและยื่นข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ มากขึ้น โดยได้ทยอยส่งหนังสือแจ้ง Reciprocal tariffs ล่าสุดให้คู่ค้ากลุ่มแรก ๆ และประกาศจะเก็บ Product specific tariffs เพิ่มเติม เช่น ทองแดง 50% และยา 200% หมายเหตุ : อาจไม่รวมสินค้าภายใต้ข้อตกลง USMCA ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ The White House, US Commerce Department, US Census Bureau และ HSBC นอกจากนี้ ในวันที่ 10 ก.ค. ทรัมป์ยังขู่ ขึ้นภาษีขั้นต่าสาหรับประเทศอื่นที่ไม่ได้ รับจดหมายหรือยังไม่ได้เจรจากับ สหรัฐฯ เป็น 15-20% จากเดิม 10%
  • 6.
    6 ข้อเสนอลดอัตราภาษีการบริโภค (Consumption TaxRate : CTR) ของหลายพรรคการเมืองในญี่ปุ่น ดุลการค้าญี่ปุ่นกับสหรัฐฯ ในปี 2024 รายสินค้า o หากรัฐบาลได้เสียงข้างมากในสภาบน : จะยังคงเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยในสภาล่าง การขาดดุลการคลัง จะเพิ่มขึ้นจากัด การเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ จะดาเนินต่อเนื่อง o หากรัฐบาลได้เสียงข้างน้อยในสภาบน : จะเสียอานาจทั้งสองสภา ผลตามมา 2 กรณี คือ 1) ไม่ยุบสภา เปลี่ยนนายก/ปรับ ครม. ฝ่ายค้านมีอานาจต่อรองมากขึ้น อาจเสนอลด CTR อัตราสูง ซ้าเติม ปัญหาขาดดุลการคลังและหนี้สาธารณะสูง (237% GDP ในปี 2024) การเจรจากับสหรัฐฯ ยังต่อเนื่องได้ 2) ยุบสภา เลือกตั้งทั่วไปใหม่ ส่งผลต่อเศรษฐกิจ และความต่อเนื่องในการเจรจากับสหรัฐฯ การเจรจาการค้าญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ยืดเยื้อ เนื่องจากญี่ปุ่นต้องเจรจาทุกประเด็นในข้อตกลงเดียว (No partial deal) และให้ความสาคัญบางเรื่องมาก เช่น • ลด Specific tariffs ยานยนต์ ญี่ปุ่นเกินดุลการค้าสหรัฐฯ สูงอันดับ 7 ของโลกในปี 2024 โดย 86.4% ของการเกินดุลการค้าเป็นสินค้ากลุ่มยานยนต์ (5.7 เท่าของ UK ซึ่งได้ดีลลดภาษียานยนต์จากสหรัฐฯ) • ไม่เปิดตลาดสินค้าเกษตรบางชนิด โดยเฉพาะข้าว ซึ่งเป็นสินค้าที่ญี่ปุ่นกีดกันสูงมาโดยตลอด พรรค / มาตรการลด CTR * CTR% CTR% Food ผลต่อรายได้ภาครัฐ (% GDP) โดย GS อัตราภาษีเดิม 10 8 31.4 ล้านล้านเยน (5.1%) พรรคร่วมรัฐบาล (เสียงข้างน้อย) LDP 10 8 0.0 (0%) Komei 10 5 () -1.9 ล้านล้านเยน (-0.3%) พรรคฝ่ายค้าน (เสียงข้างมาก แต่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ จากความเห็นที่ไม่ตรงกัน) CDP / Ishin 10 0 () -5.0 ล้านล้านเยน (-0.8%) DPP / Communist / Reiwa 5 () 5 () -14.3 ล้านล้านเยน (-2.4%) • รัฐบาลปัจจุบันเผชิญโจทย์ยากในการบริหาร หากพรรคฝ่ายค้านไม่โหวตให้ เพราะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ในรอบกว่า 20 ปี หลังเสียที่นั่งในสภาล่างจานวนมากจากการเลือกตั้ง ต.ค. 2024 • ในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (Upper house election) วันที่ 20 ก.ค. พรรคร่วมรัฐบาลต้องได้เสียงอย่างน้อย 50 จาก 125 ที่นั่ง (เฉพาะที่ต้องเลือกตั้งใหม่ จากทั้งหมด 248 ที่นั่ง) เพื่อให้คงเสียงข้างมากในสภาสูงได้อยู่ Products Value (USD Million) % of Total Trade Balance Total Trade Surplus (Rank 7th in the World) 56,609.6 100% Vehicles 48,895.1 86.4% Machinery and mechanical appliances 18,200.5 32.2% Electrical machinery and equipment 9,589.5 16.9% Commodities not elsewhere specified 7,848.6 13.9% Rubber and articles thereof 2,057.8 3.6% Articles of iron or steel 1,409.7 2.5% Cereals -5,247.3 -9.3% Pharmaceutical products -6,943.4 -12.3% Mineral fuels -13,230.4 -23.4% การเลือกตั้งญี่ปุ่นเพิ่มความเสี่ยงให้การเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ยืดเยื้อขึ้น หลายพรรคยังนาเสนอนโยบายกระตุ้น เศรษฐกิจ ซ้าเติมปัญหาภาคการคลังที่มีอยู่ ท่ามกลางแนวโน้มรายได้ภาษีศุลกากรจะลดลงจากการเปิดตลาดให้สหรัฐฯ หมายเหตุ : * พรรคการเมืองยังมีอีกหลายมาตรการเพื่อช่วยเหลือเศรษฐกิจ เช่น การแจกเงินสด มาตรการด้านราคาพลังงาน การเพิ่มเกณฑ์รายได้ขั้นต่าที่ต้องเสียภาษี เป็นต้น แต่มาตรการลดหย่อนภาษีการบริโภคได้รับความสนใจมากเนื่องจากเป็นรายได้หลักของรัฐบาล ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ Trademap, Goldman Sachs และสานักข่าวต่างประเทศ
  • 7.
    7 GDP Growth (%YOY) 2023 2024 2025F2026F Jun 25 Jul 25 Jun 25 Jul 25 Global 2.9% 2.8% 2.3% 2.4% 2.3% 2.3% US 2.9% 2.8% 1.5% 1.5% 1.5% 1.5% Eurozone 0.4% 0.9% 0.7% 0.8% 1.1% 1.0% Japan 1.5% 0.1% 0.9% 0.9% 0.9% 0.7% China 5.4% 5.0% 4.5% 4.7% 3.9% 4% India 8.8% 6.7% 6.2% 6.4% 6.4% 6.5% ASEAN-5* 4.3% 5.4% 4.6% 4.8% 4.7% 4.8% แนวโน้มเศรษฐกิจโลกปี 2025 - 2026 โดย SCB EIC (ณ ก.ค. 2025) ประเทศที่สหรัฐฯ ประกาศบรรลุข้อตกลงเจรจาการค้า สหรัฐฯ – อินโดนีเซีย บรรลุข้อตกลงด้านภาษี (15 ก.ค.) • สหรัฐฯ ลดภาษีตอบโต้เหลือ 19% (เดิม 32%) และกรณีสินค้าประเทศที่อัตราภาษีสูงกว่า ส่งออกผ่านอินโดนีเซียจะเก็บ 19% + อัตราภาษีประเทศเจ้าของสินค้าเดิม • อินโดนีเซียเปิดตลาดทั้งหมด (Full access) ให้สหรัฐฯ เก็บภาษี 0% และนาเข้าสินค้า พลังงาน (USD 15 Billion) สินค้าเกษตร (USD 4.5 Billion) เครื่องบิน Boeing 50 ลา สหรัฐฯ – เวียดนาม บรรลุข้อตกลงด้านภาษี (3 ก.ค.) • สหรัฐฯ ลดภาษีตอบโต้เหลือ 20% (เดิม 46%) และ 40% สาหรับสินค้าประเทศอื่น ที่ส่งออกผ่านเวียดนาม (ป้องกัน Transshipment โดยเฉพาะจากจีน) • เวียดนามเปิดตลาดให้สหรัฐฯ เก็บภาษี 0% และอาจลด Non-tariff barriers สหรัฐฯ - จีน บรรลุข้อตกลงจัดเก็บภาษีระหว่างกันชั่วคราว (12 พ.ค.) • สหรัฐฯ เก็บภาษีจีนลดเหลือ 30% (เดิม 145%) หากรวมภาษีในช่วงทรัมป์ 1.0 เดิม 25% รวมจีนถูกสหรัฐฯ เก็บภาษี 55% • จีนเก็บสหรัฐฯ 10% และลดการควบคุมส่งออกแม่เหล็กและแร่ธาตุหายาก สหรัฐฯ – UK ลงนามข้อตกลงการค้า (17 มิ.ย) ลด Product specific tariff เช่น รถยนต์ แสนคันแรก / ไม่ลด Universal tariff 10% / เปิดตลาดในประเทศ / เพิ่มนาเข้าสินค้าสหรัฐฯ ข้อตกลงการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ตั้งแต่ 2 เม.ย. ทรัมป์เลื่อนเก็บ Reciprocal tariff เป็น 1 ส.ค. และยังไม่มีความชัดเจนว่าจะ เลื่อนอีกครั้งหรือไม่หากการเจรจายังไม่คืบหน้า หรือหากศาลอุทธรณ์สั่งห้ามทรัมป์ ตั้งกาแพงภาษีนี้ • ศาลอุทธรณ์มีกาหนดการไต่สวนคดีการใช้อานาจ IEEPA ของปธน. ทรัมป์ วันที่ 31 ก.ค. • SCB EIC ประเมินว่าทรัมป์จะเดินหน้าตั้งกาแพงภาษีต่อไปผ่านทางเลือกอื่น (เช่น ขยาย Product Specific, สั่ง USTR สอบสวนเพิ่มเติม) แม้ศาลอุทธรณ์สั่งห้าม ทรัมป์ตั้งกาแพงภาษี แต่อาจทาให้การตั้ง กาแพงภาษี/เจรจาบางส่วนล่าช้าออกไป SCB EIC ปรับประมาณการเศรษฐกิจโลกปี 2025 เป็น 2.4% หลังสหรัฐฯ เลื่อนขึ้นกาแพงภาษีไปอีก 1 เดือน และการเจรจาคืบหน้ามากขึ้น ในปี 2026 เศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลง ผลจากกาแพงภาษีที่ชัดขึ้น หมายเหตุ : ASEAN-5 ประกอบด้วย Indonesia, Malaysia, Philippines, Singapore, และ Vietnam ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ The White House, US Congress, IMF, WTO, CEIC และ Bloomberg
  • 8.
  • 9.
    9 ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่ง เอกชนเริ่มชะลอการจ้างงานใหม่ หน่วย: พันคน (LHS), % (RHS) • ตลาดแรงงานในภาพรวมยังคงแข็งแกร่ง สะท้อนจากการจ้างงาน นอกภาคการเกษตรเดือน มิ.ย. เพิ่ม 147,000 ตาแหน่ง • อัตราการว่างงานลดลงเล็กน้อยเป็น 4.1% ต่าสุดในปีนี้ และต่ากว่า ค่าเฉลี่ยปี 2015 – 2019 ที่ 4.4% ส่วนหนึ่งจากนโยบายกีดกันผู้อพยพ • การจ้างงานภาคเอกชนชะลอลงครั้งแรกตั้งแต่ต้นปี เพิ่มขึ้นเพียง 74,000 ตาแหน่ง 147 74 4.1 3.5 3.7 3.9 4.1 4.3 4.5 0 50 100 150 200 250 300 350 01/24 02/24 03/24 04/24 05/24 06/24 07/24 08/24 09/24 10/24 11/24 12/24 01/25 02/25 03/25 04/25 05/25 06/25 Change in Non-Farm Total Employment (LHS) Change in Non-Farm Private Employment (LHS) Unemployment Rate (RHS) คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ โดย SCB EIC หน่วย : % 5.4 5.4 4.4 4.4 4.4 4.4 4.1 3.9 3.6 3.6 3.6 1 2 3 4 5 6 23H2 24H1 24H2 25Q1 25Q2F 25Q3F 25Q4F 26Q1 26Q2 26Q3 26Q4 ช่วงคาดการณ์ • ราคาสินค้าในสหรัฐฯ เริ่มสะท้อนผลกระทบจากกาแพงภาษีบางส่วน โดยเฉพาะของเล่น, เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องประดับ ซึ่งมีสัดส่วน นาเข้าสูง • ราคาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ยังคงหดตัว แม้สหรัฐฯ ตั้งกาแพง ภาษีรายสินค้าไว้ 25% เนื่องจากผู้ผลิตเน้นขายสินค้าคงคลังที่นาเข้าไว้ ก่อนและผู้ส่งออกหลัก (ในญี่ปุ่น, เยอรมนี และเกาหลีใต้) หรือผู้นาเข้า รับต้นทุนส่วนเพิ่มไว้เองในช่วงที่ยังรอผลเจรจากับสหรัฐฯ อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ทรงตัวในภาพรวม บางรายการเริ่มเร่งตัว หน่วย : %MOM_SA 1.0 1.8 -0.4 -2.7 1.9 -3 -2 -1 0 1 2 01/25 02/25 03/25 04/25 05/25 06/25 CPI Core CPI CPI: HH. Furnishing CPI: Toys CPI: Motor Vehicles PPI Core PPI PPI: Passengers Transport CPI: Appliances ในปี 2025 Fed มีแนวโน้มลดดอกเบี้ย นโยบายอีก 1 ครั้งในไตรมาส 4 กรรมการ FOMC สื่อสาร Hawkish ขึ้นหลังเงินเฟ้อ มิ.ย. ออก มุมมองลด ดอกเบี้ยปีนี้ ก่อนข้อมูลเงินเฟ้อ เดือน มิ.ย. ออก หลังข้อมูลเงินเฟ้อ เดือน มิ.ย. ออก Wait-and- See Hammack (14 ก.ค.) Musalem (10 ก.ค.) Powell (1 ก.ค.) Barkin (26 มิ.ย.) Williams (16 ก.ค.) Collins (15 ก.ค.) Logan (15 ก.ค.) ลด 0-1 ครั้ง Bostic (16 ก.ค.) อาจลด 2 ครั้งขึ้นไป Daly (10 ก.ค.) Bowman (23 มิ.ย.) Waller (17 ก.ค.) SCB EIC ประเมินธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยังไม่เร่งลดดอกเบี้ยในไตรมาส 3 เพราะผลกระทบกาแพงภาษี ต่อเงินเฟ้อสหรัฐฯ ยังไม่ชัดเจน และข้อมูลตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ Bloomberg, Fed, และ U.S. Bureau of Labor Statistics
  • 10.
    10 3.3 3.4 2.9 100.2 0 40 80 120 0 4 8 12 01/23 02/23 03/23 04/23 05/23 06/23 07/23 08/23 09/23 10/23 11/23 12/23 01/24 02/24 03/24 04/24 05/24 06/24 07/24 08/24 09/24 10/24 11/24 12/24 01/25 02/25 03/25 04/25 05/25 06/25 Core-CPI (Excl. Freshfood)Core-Core CPI (Excl. Freshfood & Energy) PPI Rice CPI (RHS) การเจรจาค่าจ้างช่วงฤดูใบไม้ผลิ (Shunto Wage Negotiation) หน่วย : % คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายญี่ปุ่น โดย SCB EIC หน่วย : % ต่อปี -0.1 0.1 0.25 0.5 0.5 0.5 0.5 0.75 0.75 1 1 -1 0 1 2 23H2 24H1 24H2 25Q1 25Q2F 25Q3F 25Q4F 26Q1 26Q2 26Q3 26Q4 ช่วงคาดการณ์ • BOJ มีแนวโน้มคงดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปี 2025 มุมมอง BOJ ปรับดอกเบี้ยขึ้นเพียง 25 BPS ตลอดทั้งปีนี้ สาเหตุหนึ่ง เพราะเศรษฐกิจมีความเสี่ยงด้านต่าจากผลการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ • กาแพงภาษีสหรัฐฯ อาจกระทบการปรับขึ้นค่าจ้างและชะลอวัฏจักร เชิงบวกระหว่างค่าจ้างและเงินเฟ้อ (ปัจจัยหลักที่ BOJ ให้ความสาคัญ ในการปรับขึ้นดอกเบี้ย) เนื่องจากกระทบกาไรบริษัทญี่ปุ่น โดยเฉพาะ อุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีการจ้างงานสูง (8% ของการจ้างงานรวม) • BOJ มีแนวโน้มกลับมาขึ้นดอกเบี้ยในช่วงต้นปี 2026 หลังผลเจรจา ค่าจ้างของสหภาพแรงงานชัดเจนขึ้นในช่วงเดือน ม.ค. - มี.ค. อัตราเงินเฟ้อญี่ปุ่น หน่วย : %YOY 1.7 1.7 1.7 1.7 2.1 2.2 2.0 2.0 2.1 2.1 1.9 1.8 2.1 3.6 5.1 5.3 0 1 2 3 4 5 6 2010 2011 2012 2013 2014 2015 2016 2017 2018 2019 2020 2021 2022 2023 2024 2025 • อัตราการเจรจาค่าจ้างใน 2025 เพิ่มสูงสุดในรอบ 34 ปี • ประเมินอัตราการเจรจาค่าจ้างในปี 2026 จะชะลอลงบ้าง จากปัญหาขาดแคลนแรงงานสูง และ บริษัทเริ่มส่งผ่านราคาในประเทศได้มากขึ้น ขณะที่กาไรบริษัทเสี่ยงลดลงจากผลกาแพงภาษีสหรัฐฯ • เงินเฟ้อญี่ปุ่นขยายตัวเนื่อง ส่วนหนึ่งจากปัญหาขาดแคลนข้าวตั้งแต่ H2/2024 • BOJ อาจปรับคาดการณ์เงินเฟ้อขึ้นเล็กน้อยในการประชุมเดือน ก.ค. จากความกังวลราคาข้าวที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง แม้เงินเยนแข็งค่าขึ้นและกาแพงภาษี สหรัฐฯ เป็นปัจจัยความเสี่ยงด้านต่าต่อเงินเฟ้อด้านอุปสงค์ BOJ จะคงดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือปี 2025 และกลับมาขึ้นดอกเบี้ยช่วงต้นปี 2026 BOJ มีแนวโน้มคงดอกเบี้ยต่อเนื่องในปีนี้ ส่วนหนึ่งเพราะกาแพงภาษีสหรัฐฯ อาจกระทบการขึ้นค่าจ้างและชะลอ วัฏจักรเชิงบวกของค่าจ้างและเงินเฟ้อ แต่ BOJ จะขึ้นดอกเบี้ยในช่วงต้นปี 2026 หลังผลเจรจาค่าจ้างชัดเจนขึ้น ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ CEIC, Japanese Trade Union Confederation and Statistical Bureau
  • 11.
    11 2 2.3 0.1 0.7 -2 0 2 4 6 8 10 12 Aug-19 Mar-20 Oct-20 May-21 Dec-21 Jul-22 Feb-23 Sep-23 Apr-24 Nov-24 Jun-25 Eurozone-Headline Eurozone-Core China-Headline China-Core อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนและจีน หน่วย: %YOY คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายยูโรโซน โดย SCB EIC หน่วย : % ต่อปี คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายจีน โดย SCB EIC หน่วย : % ต่อปี 1.0 1.8 1.8 1.5 1.5 1.4 1.4 1.3 1.3 1.2 1.2 1.1 0 1 2 3 4 23H2 24H1 24H2 25Q1 25Q2 25Q3F 25Q4F 26Q1F 26Q2F 26Q3F 26Q4F Jun-25 Jul-25 • PBOC มีแนวโน้มลดดอกเบี้ยเพียง 20 bps ในปีนี้ (เดิมคาด 30 bps) จากกาแพงภาษีสหรัฐฯ ต่อจีนที่รุนแรงน้อยลงและเศรษฐกิจ ยังเติบโตแข็งแกร่ง • PBOC ส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อเนื่องจากปัญหา เชิงโครงสร้างภายในประเทศ โดยมีแนวโน้มลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมสู่ 1.1% ภายในปี 2026 ช่วงคาดการณ์ 4 3.75 3 2.5 2 1.75 1.75 1.75 1.75 1.75 1.75 0 1 2 3 4 23H2 24H1 24H2 25Q1 25Q2F 25Q3F 25Q4F 26Q1 26Q2 26Q3 26Q4 • วัฏจักรการลดดอกเบี้ยของ ECB ใกล้สิ้นสุด ECB ได้ทยอยปรับลด ดอกเบี้ยลงรวม 225 bps แล้ว • ECB มีแนวโน้มลดดอกเบี้ยอีก 25 bps ภายในปีนี้เหลือ 1.75% เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจภายใต้แรงกดดันการค้าโลก ขณะที่ ความเสี่ยงเงินเฟ้อสูงมีจากัด ช่วงคาดการณ์ • อัตราเงินเฟ้อยูโรโซนทยอยลดลงเข้าใกล้เป้าหมาย 2% • อัตราเงินเฟ้อจีนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.1%YOY ในเดือน มิ.ย. แต่เห็นสัญญาณเงินฝืด ผลจากอุปทานล้นตลาดและการตัดราคา เพิ่มการแข่งขัน โดยภาครัฐพยายามออกนโยบายควบคุมราคาตาม กลไกตลาด ธนาคารกลางจีนมีทิศทางผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อเนื่อง แต่ในอัตราช้าลง ผลจากแรงกดดันกาแพงภาษี ของสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงมาก ด้าน ECB มีแนวโน้มลดดอกเบี้ยต่ออีก 25 bps สิ้นสุดวัฏจักรการลดดอกเบี้ยรอบนี้ ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ National Bureau Statistics of China, ECB, European Commission และ CEIC
  • 12.
  • 13.
    13 ที่มา :การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์, CEIC, Bloomberg, REIC, สถาบันเหล็ก และเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, กรมขนส่งทางบก และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย Key external indicators Unit 2024 Jul-24 Aug-24 Sep-24 Oct-24 Nov-24 Dec-24 Jan-25 Feb-25 Mar-25 Apr-25 May-25 Jun-25 Global Trade & Manufacturing Global Manufacturing PMI Index, > 50 improving 50.0 49.7 49.6 48.7 49.4 50.1 49.6 50.1 50.6 50.3 49.8 49.5 50.3 Global Manufacturing PMI: Export Orders Index, > 50 improving 49.0 49.4 48.4 47.5 48.3 48.6 48.2 49.4 49.6 50.1 47.3 48.0 49.3 South Korea exports: 20 Days %YOY 5.1% 17.9% 18.1% -1.7% -3.0% 5.7% 6.8% -5.1% 15.7% 4.2% -5.5% -2.5% 8.3% Trade Balance USD million, BOP basis 19,274 861 2,442 2,470 1,446 2,023 1,882 404 4,366 3,405 -1,398 3,374 Current Account Balance USD million, BOP basis 11,336 -227 1,349 1,205 1,042 1,311 2,128 3,322 5,978 1,782 -1,545 -312 Thailand export (key products) Auto & parts export %YOY -1.9% -9.6% 0.7% -11.8% -19.8% -13.0% -13.9% -22.7% -10.9% -9.5% -13.5% -8.7% Electronics export %YOY 10.0% 23.1% 10.4% 7.9% 24.5% 11.1% 14.2% 15.1% 18.3% 33.3% 24.9% 40.2% Petrochemical export (Resins) %YOY -1.0% 6.9% -3.2% -5.3% 4.5% 1.9% 10.3% 3.9% 1.2% 7.4% -5.5% -4.1% Plastic product export %YOY 8.4% 16.4% 13.8% 5.1% 14.2% 4.9% 8.9% 8.0% 4.5% 8.2% 10.0% 24.4% China influx HRC import from China (Quantity: Ton) %YOY -30.2% -41.6% 14.2% 81.8% 136.9% 23.5% -37.7% 11.9% 31.5% 50.0% 398.6% 52.8% E&E import from China %YOY 26.7% 22.3% 33.7% 27.2% 32.5% 40.7% 46.7% 31.5% 26.2% 44.8% 62.4% 39.9% Auto & parts import from China %YOY -18.8% 2.0% -4.0% -56.0% -11.9% -35.4% -23.5% 10.0% 3.7% 18.2% 0.8% 50.1% Plastic product import from China %YOY 14.6% 29.6% 14.9% 7.8% 7.9% 2.1% 17.4% 20.5% -2.7% 22.7% 15.0% 17.7% Logistics China Containerized Freight Index (CCFI) Index 1,551 2,108 2,068 1,778 1,416 1,427 1,489 1,554 1,400 1,112 1,121 1,109 Baltic Air Freight Index (BAI) Index 2,131 2,112 2,094 2,180 2,185 2,346 2,536 2,247 2,113 2,090 2,136 2,015 2,011 Commodity prices Brent price USD/Barrel 80 83 79 73 76 73 73 79 75 72 67 63 71 Rubber price (TSR 20 SICOM) %YOY 26.6% 25.4% 33.6% 34.8% 38.5% 30.4% 35.4% 26.9% 29.2% 20.7% 5.1% 1.4% -7.1% Raw sugar price New York No.11 %YOY -13.8% -19.4% -23.9% -22.4% -16.9% -20.7% -8.3% -15.8% -13.5% -12.5% -12.0% -7.3% -15.4% เครื่องชี้การค้าต่างประเทศสะท้อนการส่งออกไทยขยายตัวจาก Front-loading ก่อนสหรัฐฯ เก็บภาษีนาเข้าสูง แต่ความเสี่ยงจาก China influx รุนแรงขึ้น
  • 14.
    14 เครื่องชี้เศรษฐกิจภายในประเทศสะท้อนความเปราะบางจากภาคท่องเที่ยว การเปิดธุรกิจใหม่ยังหดตัว การลงทุน และการผลิตมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ช้าขณะที่เครื่องชี้ภาคการเงินสะท้อนการระดมทุนตึงตัวต่อเนื่อง ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์, Bloomberg, CEIC, BOT, DBD และ NESDC Key indicators Unit 2024 Jul-24 Aug-24 Sep-24 Oct-24 Nov-24 Dec-24 Jan-25 Feb-25 Mar-25 Apr-25 May-25 Jun-25 Consumption Private Consumption Index 2010=100, SA 151.5 151.7 152.0 151.7 148.2 153.5 152.6 152.6 152.8 152.7 154.1 152.9 Retail Sale Index 2019=100, SA 135.9 138.9 151.7 143.0 156.7 148.0 129.0 129.1 145.8 150.6 201.7 Unemployment Rate % labor force 1.0% 1.1% 1.1% 0.8% 1.0% 0.9% 0.8% 0.9% 0.8% 0.9% 1.0% 0.8% Unemployment Compensation % insured person 1.9% 2.0% 1.9% 1.8% 1.8% 1.9% 1.8% 1.9% 1.9% 1.9% 2.0% 2.0% Number of Job Vacancies Person 69,706 77,742 66,868 46,837 47,158 38,482 36,621 38,654 38,965 44,660 46,210 65,580 39,961 Investment Private Investment Index 2018=100, SA 110.0 107.1 107.1 108.8 111.7 112.6 115.6 115.0 114.7 115.3 117.4 116.6 Tourism Foreign tourists million 35.6 3.1 3.0 2.5 2.7 3.2 3.6 3.7 3.1 2.7 2.6 2.3 2.3 Chinese tourists to Thailand million 6.7 0.7 0.7 0.5 0.5 0.5 0.5 0.7 0.4 0.3 0.3 0.3 0.3 European tourists to Thailand million 7.3 0.5 0.5 0.4 0.5 0.8 1.0 1.1 1.0 0.9 0.7 0.4 0.4 Average room rate (Nationwide) THB/Room 1,884 1,896 1,834 1,780 1,832 1,862 1,889 1,919 1,862 1,791 1,835 1,753 Occupancy rate (Nationwide) % 71.9% 69.8% 69.2% 66.8% 69.1% 72.5% 79.6% 78.2% 75.1% 71.5% 73.9% 69.4% 66.2% Manufacturing Business Open %YOY 3.6% 14.4% 2.4% 10.7% 9.3% 4.8% 9.2% -3.3% -7.1% -3.9% -3.1% -11.1% -4.5% Business Close %YOY -3.7% 1.2% 2.8% 10.5% 12.3% 9.4% 9.8% 20.1% 11.5% -2.4% 0.5% -14.8% 3.7% TISI: Expectation 100 = Stable 96.9 95.2 93.9 96.7 98.4 96.7 95.5 96.2 97.6 95.7 93.3 91.7 PMI : Manufacturing 50 = Stable 49.9 52.8 52.0 50.4 50.0 50.2 51.4 49.6 50.6 49.9 49.5 51.2 51.7 Manufacturing Production Index 2016=100, SA 96.3 96.6 96.6 96.5 95.5 94.7 95.2 95.7 96.1 97.0 98.1 98.4 Capacity Utilization Rate %, SA 58.8% 59.5% 60.0% 59.7% 58.4% 58.0% 58.5% 58.5% 58.8% 59.3% 59.3% 59.9% Domestic housing & auto market Value of residential property transfers (Nationwide) %YOY -6.3% 8.4% -11.9% -9.3% -9.4% -6.0% 7.5% -17.0% -12.7% -10.8% -21.4% Domestic car sales %YOY -26.2% -20.8% -25.0% -37.1% -36.2% -31.5% -21.3% -12.3% -6.7% -0.5% 1.0% 4.7% Private Sector's Debt (system total, excl. financial sector) Total Loans to Private Sector Outstanding %YOY 0.4% 1.4% 0.8% 0.1% 0.2% 0.3% 0.4% -0.2% -0.6% -0.3% -0.7% -0.7% Loans to Businesses (non-finance) Outstanding %YOY 0.9% 1.6% 0.5% -0.8% -0.4% 0.4% 0.9% -0.8% -1.0% -0.3% -1.5% -1.4% Loans to Households Outstanding %YOY 0.1% 1.2% 1.0% 0.7% 0.5% 0.3% 0.1% 0.2% -0.3% -0.3% -0.2% -0.2% Private Debt securities Outstanding %YOY -1.1% 1.0% 2.2% 2.0% 0.9% -0.6% -1.1% -1.9% -1.6% -2.4% 0.1% -2.4% Commercial Banks Balance Sheet Total CB Loans Outstanding %YOY -0.4% -0.3% 0.0% -1.6% 0.9% -0.9% -0.4% 0.2% 0.8% -0.3% 1.1% 0.5% CB Loans to Businesses (non-finance) Outstanding %YOY -0.6% 0.2% -0.3% -0.8% -0.8% -0.6% -0.6% -1.6% -1.8% -1.5% -2.5% -1.8% CB Loans to Households Outstanding %YOY -2.8% -1.4% -1.8% -2.1% -2.3% -2.6% -2.8% -3.0% -3.0% -3.0% -3.0% -2.8% Total CB Deposits Outstanding %YOY 2.1% 2.6% 1.4% 1.3% 2.6% 2.1% 2.1% 2.3% 2.0% 1.4% 1.2% 1.0%
  • 15.
    15 หมายเหตุ : *กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ที่มา: การวิเคราะห์โดย EIC จากข้อมูลของ ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 17.75 ล้านคน (ณ 13 ก.ค. 2025) หดตัว -5.6%YOY หน่วย : ล้านคน, %YOY ท่องเที่ยวไทยยังเผชิญปัจจัยเสี่ยงสูง แม้นักท่องเที่ยวจีนจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นเล็กน้อย แต่เศรษฐกิจโลกยังมีความ ไม่แน่นอนจากภาษีนาเข้าของสหรัฐฯ อาจส่งผลต่อการใช้จ่ายท่องเที่ยวในระยะข้างหน้า -60 -40 -20 0 20 40 %YoY 30% ม.ค. -45% ก.พ. -48% มี.ค. -47% เม.ย. -45% พ.ค. -42% มิ.ย. นักท่องเที่ยวจีนคาดผ่านจุดต่าสุดแล้ว แต่ยังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป นักท่องเที่ยวสหรัฐฯ และแคนาดาลดลงตั้งแต่ เม.ย. อาจเป็นผลจากการ ระมัดระวังการใช้จ่ายหลังประกาศมาตรการภาษีของสหรัฐฯ นักท่องเที่ยวอินเดียชะลอและตะวันออกกลางลดลงในเดือน มิ.ย. จากเหตุภายในประเทศและคาดว่าจะฟื้นตัวได้เร็วตั้งแต่ ก.ค. -10 0 10 20 30 %YoY 22% 17% ม.ค. 12% 8% ก.พ. 9% 10% มี.ค. 7% -2% เม.ย. 0% -5% พ.ค. -2% -8% มิ.ย. สหรัฐฯ แคนาดา นักท่องเที่ยวยุโรปเริ่มเห็นสัญญาณชะลอตัว อาจเป็นผลจากเศรษฐกิจ เติบโตต่าและมีความเสี่ยงจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ 0 5 10 15 20 25 30 %YoY 23% ม.ค. 18% ก.พ. 12% มี.ค. 25% เม.ย. 7% พ.ค. 6% มิ.ย. -20 0 20 140 -15% %YoY 14% 13% ม.ค. 14% -7% ก.พ. 17% 121% มี.ค. 21% 12% เม.ย. 15% 10% พ.ค. 4% มิ.ย. อินเดีย ตะวันออกกลาง สหรัฐฯ ประกาศภาษีนาเข้า ฉลองละศีลอด สงครามตะวันออกกลาง เหตุเครื่องบินตก จีน ยุโรป • นักท่องเที่ยวกลุ่มเติบโตยังเดินทางต่อเนื่อง เช่น นักท่องเที่ยวออสเตรเลียขึ้นมาเป็น Top 5 ในช่วงเดือน ก.ค. (Winter holidays) นักท่องเที่ยวยุโรปจะเร่งตัวขึ้นในช่วง Summer holidays (Jul-Aug), นักท่องเที่ยวอินเดียในช่วงวันหยุดเทศกาลดีวาลีเดือน ต.ค. ซึ่งภาครัฐเตรียมจัดงานในไทยพร้อมประสาน Air India และ Indigo ในการโปรโมตและเพิ่มเที่ยวบิน • การทยอยฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีน การเดินทางท่องเที่ยวช่วงวันหยุดปิดภาคเรียนและนักท่องเที่ยวกรุ๊ปทัวร์จากงบอุดหนุน เที่ยวบินเช่าเหมาลาและเที่ยวบินพาณิชย์ของภาครัฐกว่า 1,000 เที่ยวบินจากเมืองรองในจีน ม.ค. 0.4 0.8 0.4 0.2 1.0 0.2 0.1 ก.พ. 0.3 0.7 0.4 0.2 0.9 0.2 0.1 มี.ค. 0.3 0.8 0.3 0.2 0.7 0.1 0.1 เม.ย. 0.3 0.8 0.3 0.3 0.4 0.1 0.1 พ.ค. 0.3 0.9 0.3 0.2 0.3 0.1 0.1 มิ.ย. 0.7 3.7 3.1 2.7 2.5 2.3 2.3 1-13 ก.ค. 0.9 0.5 0.2 1.1 0.2 0.1 1.1 จีน อาเซียน North East Asia เอเชียใต้ ยุโรป อเมริกา ตะวันออกกลาง อื่น ๆ 22% -7% -9% -8% -14% -15%
  • 16.
    16 ข้อมูลไตรมาส 2 สะท้อนการส่งออกที่ยังขยายตัวสูงจากการเร่งนาเข้าโดยเฉพาะจากสหรัฐฯ ขณะที่กาแพงภาษี สหรัฐฯ เริ่มส่งผลลบต่อการค้าโลก โดยเฉพาะคู่ค้าที่เน้นส่งออกสินค้าที่ถูกเก็บ Specific tariffs แล้ว 20000 22000 24000 26000 28000 30000 Jan-21 Sep-21 May-22 Jan-23 Sep-23 May-24 Jan-25 Export Value SA HP-Trend การส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ ยัง front-load ในช่วง 5m25 3000 3500 4000 4500 5000 5500 6000 Jan-21 Jul-21 Jan-22 Jul-22 Jan-23 Jul-23 Jan-24 Jul-24 Jan-25 Export to US, sa HP-Trend, US มูลค่าการส่งออกสินค้าของไทย และ Trend หน่วย : Mil USD, SA มูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยไปยังสหรัฐฯ และ Trend หน่วย : Mil USD, SA Apr May Apr May มูลค่าการส่งออกไทย รายสินค้า และคู่ค้าหลัก หน่วย : %YoY ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของสานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และกระทรวงพาณิชย์ เครื่องชี้การส่งออกของประเทศต่าง ๆ ไปสหรัฐฯ หน่วย : %YoY มูลค่าการส่งออกของจีนกับบางคู่ค้าหลัก หน่วย : %YoY %YoY Jan-25 Feb-25 Mar-25 Apr-25 May-25 Jun-25 China Total Export 5.5 -2.3 12.2 7.9 4.5 5.6 Export to US 12.1 -9.8 9.1 -21.0 -34.5 -16.1 Export to ASEAN 3.2 8.8 11.6 20.8 14.8 16.8 To Vietnam -0.5 36.2 18.9 22.5 22.0 23.8 To Thailand 14.6 8.7 27.8 27.9 21.6 27.9 To Indonesia 10.9 -0.4 24.6 36.8 11.0 8.8 Economies %YoY Jan-25 Feb-25 Mar-25 Apr-25 May-25 Jun-25 Japan Total Export to US 8.1 10.5 3.1 -1.8 -11.0 -11.4 Vehicle Motors 21.8 13.9 4.1 -4.8 -24.7 -26.7 Parts of Motor Vehicles -13.4 0.9 -10.7 -5 -19.0 -15.5 Steels -12.8 3.9 -16.6 -29 -1.5 -28.5 Electrical Machinery 8.8 11.7 6.1 10.2 -5.4 -0.4 South Korea Total Export to US -9.5 0.8 2.2 -7 -8.1 -0.5 Passenger Cars -27.3 10.5 -8.4 -15.5 -23.5 -12.3 Steel Products -13.6 10.1 -7.7 13.7 -5.5 1.9 Semiconductors 14.2 8.5 34.3 8.8 22.1 13.9 Vietnam Total Export to US 4.3 34.2 32.3 34 36.1 31.8 Electrical Products & Parts 22.4 47.3 74.5 84.3 74.6 78.6 Taiwan Total Export to US 0.7 65.6 39.8 29.5 87.4 90.9 Electronic Products 2.2 79.1 46.7 32.6 115.3 118.3 ตลาดส่งออก 2024 2025Q1 Mar-25 Apr-25 May-25 YTD Total 5.4% 15.2% 14.3% 10.2% 18.4% 14.9% US (16.5%) 13.7% 25.4% 34.3% 23.8% 35.1% 27.2% China (12%) 3.1% 19.5% 22.2% 3.2% 28.0% 17.9% CLMV (10.8%) 12.7% 4.6% 10.1% 25.2% 20.8% 11.7% Japan (8.6%) -5.3% 0.1% 1.5% 5.5% -0.8% 0.8% EU 28 (9.3%) 9.1% 7.2% 4.5% 7.4% 17.1% 9.2%
  • 17.
    17 SCB EIC ประเมินเศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโตใกล้มุมมองเดิมที่1.5% หากไทยเจรจาสหรัฐฯ ลดภาษีลงได้บ้าง แม้เครื่องชี้ Q2 สูงกว่าคาด โดยเฉพาะ Front-loading ส่งออก แต่ H2 จะได้รับผลกระทบ Reciprocal tariffs สูงในตลาดสหรัฐฯ กดดันให้เศรษฐกิจไทยปี 2026 มีแนวโน้มขยายตัวต่าลง Medium-term outlook (Baseline) Unit 2024 2025F 2026F As of Jun 2025 GDP %YOY 2.5 1.5 1.4 การบริโภคภาคเอกชน %YOY 4.4 2.0 2.1 การบริโภคภาครัฐ %YOY 2.5 1.8 1.0 การลงทุนภาคเอกชน %YOY -1.6 -2.2 -0.2 การลงทุนภาครัฐ %YOY 4.8 5.8 1.5 มูลค่าส่งออกสินค้า (USD BOP) %YOY 5.8 -0.1 -0.8 มูลค่านาเข้าสินค้า (USD BOP) %YOY 6.3 0.8 -0.2 จานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ Million 35.5 34.2 35.7 อัตราเงินเฟ้อทั่วไป %YOY 0.4 0.5 0.4 อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (สิ้นปี) % 2.25 1.25 1.00 ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของสานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2025-2026 กรณีฐาน โดย SCB EIC ฉากทัศน์ U.S. Tariffs และประมาณการเศรษฐกิจ (ประเมิน ณ 18 ก.ค.) โดย SCB EIC กรณี สมมติฐานเจรจา US Tariffs ของไทยและคู่แข่ง 2025F (%YoY) 2026F (%YoY) Baseline ณ มิ.ย. 2025 เจรจาลดภาษีตอบโต้ได้ครึ่งหนึ่ง (23%, เริ่ม 9 ก.ค.) Universal tariff, Reciprocal tariffs ครึ่งหนึ่งจากเดิม, ลด Specific tariffs ได้เช่นเดียวกับคู่แข่งหลัก 1.5 1.4 กรณีเจรจา ลดภาษี ได้บ้าง เจรจาลดภาษีตอบโต้ลงได้บ้าง แต่ยังสูงกว่าคู่แข่งหลัก สหรัฐฯ เลื่อนเก็บภาษีตอบโต้ (25%, เริ่ม 1 ส.ค.) Universal tariff, Reciprocal tariffs สูงกว่าคู่แข่งหลัก (เช่น เวียดนาม 20%) 1.5 1.2 กรณีเจรจา ลดภาษี ไม่ได้เลย เจรจาไม่สาเร็จ (36%, เริ่ม 1 ส.ค.) สหรัฐฯ เก็บ Reciprocal tariffs ไทยตาม Liberation Day สูงกว่าคู่แข่งหลัก 1.1 0.4
  • 18.
    18 สินค้าส่งออกสาคัญของไทย ที่พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ ในระดับสูง สัดส่วนต่อมูลค่าส่งออก ของไทย ไปสหรัฐฯ(50.7%) สัดส่วนมูลค่าส่งออกของ ไทยไปสหรัฐฯ ในแต่ละ หมวดสินค้า คู่ค้าหลักในการนาเข้าสินค้าของสหรัฐฯ เรียงตามลาดับสัดส่วนมูลค่าการนาเข้าของสหรัฐฯ (% สัดส่วนมูลค่าการนาเข้าของสหรัฐฯ ณ ปี 2024) 1 2 3 4 5 6 7 8 Electronics Semiconductor 4.6% 67% Mexico China* Malaysia Thailand Germany Taiwan Singapore Philippines 16% 15% 8% 6% 6% 5% 5% 5% ชิ้นส่วน/อุปกรณ์โทรศัพท์ 12.4% 59% China Viet Nam Mexico India Thailand Taiwan Malaysia 45% 13% 9% 8% 8% 6% 4% ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ 2.7% 52% Taiwan South Korea China Viet Nam Malaysia Mexico Thailand Philippines 46% 13% 12% 12% 7% 3% 3% 2% Computer & HDD 11.1% 41% Mexico China Taiwan Viet Nam Thailand Philippines Malaysia 34% 26% 19% 11% 5% 1% 1% อุปกรณ์ส่งสัญญาณ 2.05 39% Viet Nam China Thailand Japan Taiwan Mexico Malaysia 22% 17% 12% 8% 8% 7% 5% Machinery & Appliances หม้อแปลงไฟฟ้า 3.8% 43% Mexico China Thailand South Korea Viet Nam Canada Taiwan Japan 21% 13% 8% 6% 6% 5% 5% 5% ตู้เย็น** 1.4% 34% Mexico China South Korea Thailand Canada 43% 21% 14% 7% 4% เครื่องพิมพ์ 1.9% 31% Japan Malaysia China Thailand Viet Nam Mexico Philippines 22% 17% 13% 10% 9% 5% 4% เครื่องปรับอากาศ 2.3% 19% Mexico China Thailand Canada South Korea Japan Germany 49% 20% 9% 9% 3% 3% 1% Auto ยางล้อ** 6.5% 48% Thailand Mexico Canada Japan Viet Nam Indonesia South Korea 20% 11% 9% 8% 8% 5% 5% จักรยานยนต์ 0.7% 16% China Japan EU Thailand Taiwan 24% 22% 22% 12% 6% Others Prepared / Preserved Fish 1.3% 22% Thailand Viet Nam Ecuador China Canada 32% 10% 6% 6% 5% โครงสร้างคู่แข่งทางการค้าที่สาคัญของไทยในตลาดสหรัฐฯ และความแตกต่างของอัตรากาแพงภาษีนาเข้าสหรัฐฯ ประเทศที่โดนอัตรากาแพงภาษีในอัตราสูงที่สุด เมื่อเทียบกับคู่แข่งสาคัญอื่น ๆ ประเทศที่โดนอัตรากาแพงภาษีในอัตราต่าที่สุด หรือได้รับการยกเว้น เมื่อเทียบกับคู่แข่งสาคัญอื่น ๆ หมายเหตุ : (*) พิจารณาเฉพาะอัตราภาษีนาเข้าจาก จีนไปสหรัฐฯ ที่กาหนดขึ้นในยุคทรัมป์ 2.0 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 30% โดยไม่รวมอัตรา ภาษีที่เคยถูกบังคับใช้ไว้ก่อนหน้านี้ (**) กลุ่มสินค้าที่ถูกตั้งกาแพงภาษีแบบ เฉพาะเจาะจงตามอุตสาหกรรม ซึ่งเกือบ ทุกประเทศจะถูกเรียกเก็บในอัตราเดียวกัน เช่น ตู้เย็นบางประเภทถูกจัดเก็บภาษี นาเข้าในอัตรา 50% ของมูลค่าเหล็กที่ใช้ ในการผลิต ขณะที่ยางล้อบางประเภทถูก เก็บภาษีนาเข้าในอัตรา 25% ของมูลค่า สินค้า (***) อัตราภาษีนาเข้าสหรัฐฯ ของแต่ละ ประเทศที่มีการประกาศออกมา ณ เดือน ก.ค. 2025 อัตรากาแพงภาษีนาเข้าเฉลี่ยในแต่ละประเทศคู่ค้าสาคัญของสหรัฐฯ ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ Trade Map และ The White House THA 36% CAN 35%*** TWN 32% CHN MEX*** EU*** 30% MYS JPN KOR 25% IND 26% PHL VNM 20% IDN 19%*** SG ECU USMCA Exempt - 10% สินค้าอิเล็กทรอนิกส์และยางล้อของไทยกาลังเผชิญความเสี่ยงในการสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ ให้คู่แข่ง อย่าง จีน เวียดนาม และมาเลเซีย ซึ่งกาแพงภาษีนาเข้าสหรัฐฯ ต่ากว่าไทย
  • 19.
    19 ไทยส่งข้อเสนอใหม่ในการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี รัฐบาลยังคงลังเลในการเปิดตลาดเสรีตามข้อเรียกร้อง ของสหรัฐฯโดยเฉพาะภาคเกษตร เนื่องจากความกังวลด้านผลกระทบต่อเกษตรกรและผู้ประกอบการ ข้อเสนอของไทยในการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ (ข้อมูล ณ 17 ก.ค.) • ลดอัตราภาษีสินค้านาเข้าสหรัฐฯ เหลือ 0% คิดเป็นสัดส่วน 90% ของรายการสินค้า ที่สหรัฐฯ ส่งมาไทย ยกเว้นบางสินค้า เพื่อปกป้องผู้ประกอบการไทยและรักษาสมดุล การค้ากับประเทศอื่นที่ไทยมีข้อตกลง FTA ด้วย • ยกเลิก Non-tariff barrier สาหรับสินค้าสหรัฐฯ หลายรายการ (ยังไม่ระบุชัด) • เพิ่มการเข้าถึงตลาดไทยในสินค้าเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ • ลดภาษีสาหรับกิจการสหรัฐฯ ที่ให้บริการดิจิทัลในไทย ส่งเสริมการลงทุนของไทยในสหรัฐฯ มากขึ้น ในธุรกิจสินค้าเกษตรแปรรูป และพลังงาน เข้มงวดต่อการสวมสิทธิสินค้า อาจเพิ่มเกณฑ์สัดส่วนการใช้วัตถุดิบในไทย (Local content) จากปกติที่ใช้กันราว 40% เป็น 60-70% ขึ้นอยู่กับการต่อรองกับสหรัฐฯ ลดการเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ลง 70% ภายใน 3 ปี (เร็วกว่าข้อเสนอรอบแรกและรอบที่ สองที่กาหนดภายใน 10 ปี และ 5 ปี ตามลาดับ) ตั้งเป้าสมดุลการค้ากับสหรัฐฯ ภายใน 5 ปี เพิ่มการจัดซื้อพลังงาน (เช่น LNG) เครื่องบิน สินค้าเกษตร (เช่น ข้าวโพด, ถั่วเหลือง และข้าวบาเลย์) จากสหรัฐฯ สินค้า มาตรการกีดกัน สินค้าจาก สหรัฐฯ ระดับ ความ อ่อนไหว* คาอธิบาย ข้าวโพด ภาษีนาเข้า 73% สูง ต้นทุนการผลิตของไทยสูงกว่าสหรัฐฯ การเปิดตลาดโดยไม่มีเงื่อนไขนาเข้า จะส่งผลลบต่อผู้ประกอบการและเกษตรกร 4.2 แสนครัวเรือน แต่จะส่งผล ดีต่อผู้ผลิตอาหารสัตว์ เนื้อสุกร และ เครื่องใน ภาษี 40%, Import ban: สารเร่งเนื้อแดง สูง ต้นทุนการผลิตของไทยสูงกว่าสหรัฐฯ มาก ไทยพึ่งพาผลผลิตในประเทศ ทั้งหมด การเปิดตลาดเสรีจะส่งผลลบต่อเกษตรกร 1.5 แสนครัวเรือนและ ผู้ผลิตอาหารสุกร แต่จะส่งผลดีต่อผู้บริโภคจากราคาสินค้าที่ถูกลง เนื้อไก่ และ เครื่องใน ภาษี 30%-40%, Ban: โรคไข้หวัด นก (HPAI) สูง ต้นทุนการผลิตของไทยสูงกว่าสหรัฐฯ มาก ไทยพึ่งพาผลผลิตในประเทศ ทั้งหมด การเปิดตลาดเสรีแบบไม่มีเงื่อนไขจะส่งผลลบต่อผู้ผลิตในประเทศ แต่จะส่งผลดีต่อผู้บริโภคจากราคาสินค้าที่ถูกลง เนื้อวัว และ เครื่องใน ภาษี 30%-50%, Ban: สารเร่ง เนื้อแดง ปานกลาง แม้ต้นทุนการผลิตในไทยจะสูงกว่าสหรัฐฯ มาก แต่ไทยมีการนาเข้าเนื้อวัวอยู่ แล้ว ซึ่งการเปิดตลาดเสรีจะทาให้กลุ่มผู้ผลิตเนื้อวัวเกรดพรีเมียม เผชิญกับ การแข่งขันที่รุนแรงขึ้น แต่จะส่งผลดีต่อผู้บริโภคจากราคาสินค้าที่ถูกลง ก๊าซ ธรรมชาติ ควบคุมปริมาณ การนาเข้า ต่า แม้ต้นทุนการผลิตของไทยสูงกว่าสหรัฐฯ แต่ไทยพึ่งพาการนาเข้าราว 53% และภาครัฐให้ความสาคัญกับการใช้ก๊าซธรรมชาติจากแหล่งในประเทศ เป็นหลัก ทาให้ไม่กระทบผู้ผลิต ถั่ว เหลือง ไม่กีดกัน ต่า แม้ต้นทุนการผลิตในไทยจะสูงกว่าสหรัฐฯ มาก แต่ไทยพึ่งพาการนาเข้า เกือบ 99% โดยส่วนใหญ่นาเข้าจากบราซิลซึ่งเป็นถั่วเหลืองราคาถูกและมี โปรตีนดีกว่าสหรัฐฯ ระดับความอ่อนไหวของอุตสาหกรรมในประเทศต่อการเปิดตลาดเสรีให้สหรัฐฯ หากไม่กาหนดเงื่อนไขการนาเข้า หมายเหตุ : *ระดับความอ่อนไหว พิจารณาจาก 1) สัดส่วนต้นทุนการผลิตในไทยเทียบกับต้นทุนการผลิตในสหรัฐฯ รวมค่าขนส่งมาไทย 2) สัดส่วนการนาเข้าต่อปริมาณการบริโภคในประเทศ 3) จานวนผู้ผลิตในประเทศ และ 4) ปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ Bloomberg, ThaiBPS, การให้สัมภาษณ์ของคุณพิชัย ชุณหวชิรผ่านทางสื่อต่าง ๆ และการเสวนา The Art of (Re) deal. USDA, Trade Map, OAE และ CEIC SCB EIC มองหากจะมีการเปิดเสรีสินค้าในภาคเกษตร โดยจะต้องพึ่งพาการนาเข้า ต้องพิจารณาประเด็นความมั่นคงทางอาหารของประเทศอย่างสมดุล อีกทั้ง ภาครัฐจะต้องเตรียมมาตรการเพื่อรองรับผลกระทบ และช่วยผู้ประกอบการ และเกษตรกรในการปรับตัวอย่างเหมาะสม
  • 20.
    20 มาตรการภาษีของสหรัฐฯ ก่อให้เกิดความเสี่ยงสูงต่ออุตสาหกรรมส่งออกสาคัญของไทย โดยเฉพาะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน ยานยนต์นอกจากนี้ หลายอุตสาหกรรมยังได้รับผลกระทบทางอ้อมจากอุปสงค์จีนที่ชะลอลง รวมถึงทิศทางเศรษฐกิจไทยที่มี แนวโน้มชะลอลง ประเมินความเสี่ยงจากมาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ ณ เดือน ก.ค. 2025 ผ่านช่องทางผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม ประเภทอุตสาหกรรม ประเด็นความเสี่ยงจากมาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ ภาพรวม ความเสี่ยง การเปลี่ยนแปลงของ ระดับความเสี่ยงจากการประกาศ นโยบายการค้าของสหรัฐฯ เมื่อเดือน เม.ย. 2025 ประเด็นที่ต้องจับตามอง การส่งออก/ กาลังซื้อ ในตลาดสหรัฐฯ การเสียส่วนแบ่งตลาด สหรัฐฯ ให้คู่แข่งที่โดน Tariffs ต่ากว่า การส่งออก/ กาลังซื้อ จากจีน การตีตลาด จากสินค้า นาเข้า กาลังซื้อในประเทศ/ เศรษฐกิจไทย ชะลอตัว แนวโน้ม การลงทุน ภายในประเทศ Electronic Components - • อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า จะต้อง เผชิญกับความไม่แน่นอนมากขึ้น และต้อง มีการพิจารณาโครงสร้างต้นทุนใหม่สาหรับ สินค้าในรายการที่สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีตาม ภาษีเหล็ก • อุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์ เผชิญความเสี่ยงที่รุนแรง ขึ้นจากการเก็บภาษีในกลุ่มสินค้าไฮเทคและ Reciprocal tariffs ในหมวดสินค้าอื่น ๆ ที่ถูกเก็บในอัตราที่สูงกว่าคู่แข่ง • อุตสาหกรรมยางล้อ เผชิญการแข่งขันที่ รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มยางรถบรรทุกและ รถบัส ซึ่งแม้จะไม่ถูกเก็บภาษี Auto tariffs ในอัตรา 25% แต่ต้องเผชิญกับ Reciprocal tariffs ในอัตรา 36% ซึ่งสูงกว่าคู่แข่ง สาคัญ โดยเฉพาะเวียดนาม • อุตสาหกรรมกุ้ง มีแนวโน้มเผชิญการ แข่งขันที่รุนแรงขึ้นและเสียส่วนแบ่งตลาด ให้กับคู่แข่งสาคัญในสหรัฐฯ ที่โดนอัตราภาษี ต่ากว่าไทย โดยเฉพาะเวียดนาม อินเดีย และ เอกวาดอร์ Computer & HDD - หม้อแปลง แบตเตอรี่ - เครื่องใช้ไฟฟ้า - ยางล้อและชิ้นส่วนยานยนต์ ● เหล็ก - สิ่งทอ - ผลิตภัณฑ์พลาสติก - กุ้ง - เม็ดพลาสติก - ถุงมือยาง - อาหารทะเลแปรรูปอื่น ๆ - ผักผลไม้สดและแปรรูป - น้าตาล - ขนส่งและโลจิสติกส์ - ท่องเที่ยวและโรงแรม - นิคมอุตสาหกรรม - อสังหาฯ ที่อยู่อาศัย - คลังสินค้า - Negative risk ● Higher negative risk - Unchanged ● Lower negative risk Positive risk Not relevance Low Moderate High ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC
  • 21.
    21 %YOY Q1-25 Apr-25May-25 Private Investment Index and components (ธปท.) 2.1 12.3 8.0 • Machinery and Equipment (48%) 7.1 19.2 14.0 Import of Machinery and Equipment 2.3 27.1 42.4 • Vehicle (32%) -7.2 8.0 1.8 • Construction (20%) -5.3 -2.1 -0.6 Manufacturing Production Index (สศอ.) -1.6 1.9 1.9 Private Investment ใน GDP (สศช.) -0.9 TBA • Q2/2025 : แนวโน้มการลงทุนภาคเอกชนจะขยายตัวสูงขึ้น (เทียบมุมมองเดิม) o ผลฐานต่าในปีก่อน เป็นปัจจัยชั่วคราวทาให้การลงทุนภาคเอกชนในปี 2024 หดตัว -6.8%YOY การลงทุนภาคเอกชนสูงกว่าคาดใน Q2/25 ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม และดัชนีการลงทุนภาคเอกชน หน่วย : %YOY ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ (BSI โดย ธปท.) ณ มิ.ย. 2025 หน่วย : Diffusion index (<50 ปรับตัวแย่ลง, >50 ปรับตัวดีขึ้น) 40 45 50 55 60 01/2023 04/2023 07/2023 10/2023 01/2024 04/2024 07/2024 10/2024 01/2025 04/2025 Business Sentiment Index: Whole Kingdom BSI: Expectation: Next 3 Month • H2/2025 : การลงทุนต่างชาติในไทยมีแนวโน้มชะลอลง รอความชัดเจนผลการเจรจาสหรัฐฯ ของไทยเทียบคู่แข่งสาคัญ o เวียดนาม สามารถเจรจาลดอัตราภาษีตอบโต้สหรัฐฯ ลงมาได้มาก ตั้งแต่ต้น ก.ค. o จีน บรรลุข้อตกลงชั่วคราวกับสหรัฐฯ ลดอัตราภาษีตอบโต้สหรัฐฯ จากอัตราเกิน 100% ลงได้มาก ตั้งแต่กลาง พ.ค. กาลังซื้อในประเทศที่จะชะลอลงเป็นอีกปัจจัย กดดันการลงทุนภาคเอกชนในครึ่งปีหลัง • ในระยะยาว : ความสามารถและระยะเวลาปิดจบดีลเจรจาการค้าของไทยกับสหรัฐฯ จะเป็นสิ่งที่แสดงออกถึงความสามารถในการแข่งขันของไทย ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจไทยอยู่ในระดับต่าต่อเนื่อง นับตั้งแต่สหรัฐฯ ประกาศ Reciprocal tariffs ส่วนหนึ่งสะท้อนบรรยากาศการลงทุนจะซบเซาลงในระยะข้างหน้า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม (TISI โดย สอท.) หน่วย : Diffusion index (<100 ปรับตัวแย่ลง, >100 ปรับตัวดีขึ้น) 80 85 90 95 100 01/2024 03/2024 05/2024 07/2024 09/2024 11/2024 01/2025 03/2025 05/2025 TISI Export to Total Sales > 50 % Export to Total Sales < 50 % ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ ธปท. สศอ. สศช. และ สอท. การลงทุนภาคเอกชนจะกลับมาหดตัวชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลัง จากการชะลอการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติที่มีแผน จะลงทุนในไทย เพื่อรอความชัดเจนของผลเจรจาการค้าไทยเทียบคู่แข่งสาคัญ
  • 22.
    22 ไทยพึ่งพาแรงงานกัมพูชาราว 1 ล้านคน หรือ2.5% ของกาลังแรงงานไทย (ณ พ.ค. 2025) • เกือบครึ่งเป็นแรงงานที่ได้รับใบอนุญาตทางาน (12.5% ของแรงงานต่างด้าวที่ได้รับใบอนุญาตทางานในไทย) • หากความขัดแย้งไม่รุนแรง โอกาสที่แรงงานกัมพูชา จะย้ายกลับประเทศมีน้อย เพราะค่าแรงต่ากว่าไทยมาก • ตลาดแรงงานไทยพึ่งพาแรงงานเมียนมาราว 73% อาจหาทดแทนแรงงานกัมพูชาได้ ส่งออก : 9,239 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปี 2024) 3.1% ของมูลค่าส่งออกไทยรวม • สินค้าอุตสาหกรรม : 63.6% สินค้าส่งออกชายแดน : เครื่องดื่ม น้าแร่ น้าอัดลม ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ • ไทยส่งออกน้ามันสาเร็จรูป 10% ของการผลิตน้ามัน ทั้งหมด โดยส่งออกไปกัมพูชาราว 25% นาเข้า : 302 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ปี 2024) 0.4% ของมูลค่านาเข้าไทยรวม • นาเข้าสินแร่ เศษโลหะ อัญมณี ผักผลไม้ เสื้อผ้า การลงทุนทางตรงของไทยในกัมพูชา (Flow ปี 2024) 1.7% ของการลงทุนไทยในต่างประเทศ • แนวโน้มการลงทุนใหม่ถูกกดดันจากความเชื่อมั่น ที่ลดลง เพิ่มเติมจากความไม่แน่นอนภาษีสหรัฐฯ และปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่มีอยู่แล้ว • ธุรกิจไทยที่มีฐานการลงทุนในกัมพูชาส่วนมากเป็น ค้าปลีกและบริการ ซึ่งยังดาเนินการปกติ เช่น OR และ SCG • บางกิจการอาจมีความเสี่ยงจากประเด็นชาตินิยม นักท่องเที่ยวกัมพูชาส่วนใหญ่เดินทางทางบก ผ่านจังหวัดชายแดน • ณ พ.ค. 2025 นักท่องเที่ยวกัมพูชาเดินทางมาไทย 36,430 คน (-21%YOY) ลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ความขัดแย้งไทยและกัมพูชาจะเป็นปัจจัยลบเพิ่มเติมกดดันเศรษฐกิจไทยผ่านหลายช่องทาง ผลกระทบขึ้นอยู่กับ ความรุนแรงของมาตรการตอบโต้ การลงทุนใหม่ของธุรกิจไทยในกัมพูชา มีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่องมากขึ้น การท่องเที่ยวไทย-กัมพูชามีแนวโน้ม ชะลอตัวต่อเนื่อง ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์, สานักบริหารแรงงานต่างด้าว, กรมการค้าต่างประเทศ, สภาธุรกิจไทย-กัมพูชา, Nikkei Asia, แถลงการณ์จากทาเนียบรัฐบาล และกรุงเทพธุรกิจ การค้า การลงทุน แรงงาน การท่องเที่ยว การปิดด่านศุลกากรจะกระทบการค้าชายแดน สัดส่วน 44% ของมูลค่าการค้าไทย-กัมพูชา ห้ามนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไปเล่นพนันที่กัมพูชา เข้มงวดการตรวจสอบเครื่องบินไปเสียมราฐ ยกระดับปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยีข้ามชาติ ตรวจสอบบัญชีม้า ระงับอินเทอร์เน็ต คว่าบาตรอาชญากร ระงับการส่งออกไฟฟ้า น้ามัน และสินค้าผ่านชายแดน (เฉพาะสินค้าที่เกื้อหนุนกิจกรรมอาชญากรข้ามชาติ) กองทัพสั่งปิดทุกด่านในชายแดน 7 จังหวัด งดเดินทาง ค้าขาย และ ท่องเที่ยว ยกเว้นนักเรียน คนป่วย กรณีจาเป็นอื่น ช่วยเหลือเกษตรกรและ SMEs ที่ได้รับผลกระทบ เพิ่มความเข้มงวดนาเข้ามันสาปะหลัง / สินค้าคุณภาพต่า มาตรการตอบโต้ของรัฐบาลไทย (ณ 23 มิ.ย. 2025) ผลกระทบต่อตลาดแรงงานไทยมีบ้าง แต่อาจหาทดแทนได้ หากเหตุการณ์รุนแรง แรงงานสาขาก่อสร้าง เกษตร และบริการอาจขาดแคลนในระยะสั้น รัฐบาลกัมพูชาตอบโต้ไทย หากเหตุการณ์รุนแรง ธุรกิจพร้อมเรียก พนักงานกลับ ชะลอการลงทุนรอดูสถานการณ์ หากสถานการณ์ยืดเยื้อ ผู้ประกอบการต้อง พึ่งพาการขนส่งทางเรือกระทบต้นทุนขนส่ง จังหวัดใกล้ชายแดนจะได้รับ ผลกระทบมากกว่า •ห้ามนาเข้าน้ามันและก๊าซ ธรรมชาติ ผัก-ผลไม้จากไทย •งดเผยแพร่รายการโทรทัศน์ ของไทย
  • 23.
    23 หนี้ครัวเรือนไทยต่อ GDP ปรับลดลงต่อเนื่อง(Deleveraging) หนี้ครัวเรือนหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่ม เผยแพร่ข้อมูลนี้ ส่วนหนึ่งจากความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน -0.5% -0.5% -0.5% -4% -2% 0% 2% Q1-21 Q3-21 Q1-22 Q3-22 Q1-23 Q3-23 Q1-24 Q3-24 Q1-25 Nominal GDP Outstanding Household Debt Household Debt to GDP การเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP (เทียบจากไตรมาสก่อน) หน่วย : %QoQ ช่วงปี 2021 – 2023 : สินเชื่อครัวเรือน เติบโต ขณะที่เศรษฐกิจเติบโตสูงกว่า ตั้งแต่ปี 2024 : สินเชื่อครัวเรือนหดตัว แต่เศรษฐกิจเติบโตต่า 95.5 87.4 75 80 85 90 95 100 2013Q1 2013Q4 2014Q3 2015Q2 2016Q1 2016Q4 2017Q3 2018Q2 2019Q1 2019Q4 2020Q3 2021Q2 2022Q1 2022Q4 2023Q3 2024Q2 2025Q1 หนี้ครัวเรือนไทยต่อ GDP หน่วย : % Nominal GDP 4.4% 3.8% 3.8% 3.3% 3.0% 2.4% 1.6% 0.8% 0.2% -0.1% -1% 0% 1% 2% 3% 4% 5% Avg. 19- 22 Q1/2023 Q2/2023 Q3/2023 Q4/2023 Q1/2024 Q2/2024 Q3/2024 Q4/2024 Q1/2025 ใน Q1/2025 ยอดคงค้างหนี้ ครัวเรือนหดตัวครั้งแรก นับตั้งแต่ เริ่มเผยแพร่ข้อมูลนี้ อัตราการขยายตัวของสินเชื่อครัวเรือนรวม หน่วย : %YOY 0 1 2 3 4 5 2021Q1 2021Q2 2021Q3 2021Q4 2022Q1 2022Q2 2022Q3 2022Q4 2023Q1 2023Q2 2023Q3 2023Q4 2024Q1 2024Q2 2024Q3 2024Q4 2025Q1 สินเชื่ออุปโภคบริโภครวม ที่อยู่อาศัย ยานยนต์ บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลอื่น ๆ 3.4 4.1 4.2 2.8 2.2 สัดส่วน NPL ต่อยอดคงค้างสินเชื่อครัวเรือนในระบบธนาคารพาณิชย์ หน่วย : %ยอดคงค้างสินเชื่อทั้งหมด ช่วง 2021 – 2023 : ครัวเรือนเข้าสู่ วัฏจักรปรับลดหนี้ (Deleveraging) ตั้งแต่ 2024 : วัฏจักรปรับลดหนี้ รวดเร็วขึ้น ตามยอด คงค้างหนี้ที่ไม่เติบโต คุณภาพสินเชื่อยัง ทยอยปรับด้อยลง ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ ธปท. และสานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
  • 24.
    24 การบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มแผ่วลง ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับลดลง 5เดือนติดต่อกัน จากความไม่แน่นอน ของการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ และเสถียรภาพทางการเมือง ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย, มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และ CEIC ดัชนีการบริโภคภาคเอกชน (Private Consumption Index) โดย ธปท. หน่วย : ดัชนี (2019Q4 = 100), ปรับฤดูกาล 0 20 40 60 80 100 120 50 60 70 80 90 100 110 120 130 10/2019 01/2020 04/2020 07/2020 10/2020 01/2021 04/2021 07/2021 10/2021 01/2022 04/2022 07/2022 10/2022 01/2023 04/2023 07/2023 10/2023 01/2024 04/2024 07/2024 10/2024 01/2025 04/2025 PCI Non-Durables Semi-Durables Durables Services Non-Residents Exp (RHS) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย หน่วย : ดัชนี 30 40 50 60 70 01/2023 03/2023 05/2023 07/2023 09/2023 11/2023 01/2024 03/2024 05/2024 07/2024 09/2024 11/2024 01/2025 03/2025 05/2025 CCI CCI: Present CCI: Expectations Digital Wallet เฟส 1 (ปลาย ก.ย. 24) เฟส 2 (ปลาย ม.ค. 25) US Reciprocal Tariff ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน มิ.ย. ปรับตัวลดลง ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และเป็นระดับต่าสุดในรอบ 29 เดือน • ดัชนีการบริโภคภาคเอกชน (PCI) เดือน พ.ค. ทรงตัว (แบบปรับฤดูกาล) แม้การใช้จ่ายหมวดสินค้าคงทนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากยอดจาหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล แต่การใช้จ่ายหมวดบริการปรับลดลงในหมวดโรงแรมและภัตตาคารเป็นสาคัญ ตามจานวนนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติที่ลดลง และหมวดสินค้าไม่คงทนลดลงจากยอดจาหน่ายน้ามันเชื้อเพลิงเป็นสาคัญ ขณะที่หมวดสินค้ากึ่งคงทนทรงตัว • ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CCI) เดือน มิ.ย. ปรับลดลง 5 เดือนติดต่อกัน และเป็นระดับต่าสุดในรอบ 29 เดือน จากความกังวล เกี่ยวกับความไม่แน่นอนของการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ และเสถียรภาพการเมือง รวมถึง ปัจจัยกดดันจากเศรษฐกิจฟื้นตัวช้าและ ค่าครองชีพสูงไม่สอดคล้องกับรายได้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับลดลง 5 เดือนต่อเนื่อง
  • 25.
    25 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน มิ.ย. 2025ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่สาม ผลจากราคาพลังงานและผักผลไม้สดที่ลดลง ทั้งนี้ประเมินว่าเงินเฟ้อจะกลับมาเป็นบวกช่วงปลายไตรมาส 3 -2% -1% 0% 1% 2% 3% 4% Jul-23 Aug-23 Sep-23 Oct-23 Nov-23 Dec-23 Jan-24 Feb-24 Mar-24 Apr-24 May-24 Jun-24 Jul-24 Aug-24 Sep-24 Oct-24 Nov-24 Dec-24 Jan-25 Feb-25 Mar-25 Apr-25 May-25 Jun-25 Core contribution Energy contribution Raw food contribution Headline Core ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ อัตราเงินเฟ้อทั่วไป รายหมวดสินค้า หน่วย : % แหล่งที่มาของอัตราเงินเฟ้อไทย หน่วย : %YOY กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ 1-3% ดัชนีราคาผู้บริโภคไทย หน่วย : Index, 2023=100 ราคาพลังงานที่ลดลงมากเป็น ปัจจัยสาคัญฉุดเงินเฟ้อติดลบ %YoY Share 2024 Jan-25 Feb-25 Mar-25 Apr-25 May-25 Jun-25 YTD ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป 100% 0.4% 1.3% 1.1% 0.8% -0.2% -0.6% -0.2% 0.4% อาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 39.5% 0.8% 1.8% 2.0% 2.4% 1.6% 0.9% 1.6% 1.7% อาหารสด 17.4% 0.1% 1.0% 1.1% 1.9% 0.3% -1.8% -0.2% 0.4% เนื้อสัตว์ 3.0% -6.9% -0.9% 0.5% 4.1% 8.4% 9.4% 8.5% 5.0% ผัก ผลไม้สด 4.8% 2.3% 1.9% 1.5% 1.7% -6.7% -14.0% -7.0% -4.2% เครื่องประกอบอาหาร 1.2% -0.6% 3.3% 5.2% 6.8% 6.2% 6.0% 4.6% 5.3% เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 3.4% 2.3% 3.2% 3.3% 3.7% 4.2% 4.4% 4.3% 3.8% อาหารสาเร็จรูป 16.7% 1.4% 2.5% 2.7% 2.4% 2.6% 3.4% 3.4% 2.8% เครื่องนุ่งห่มและรองเท้า 2.1% -0.4% -0.2% -0.3% -0.4% -0.6% -0.9% -0.9% -0.5% เคหสถาน 24.6% -0.2% 0.4% 0.5% 0.0% -0.7% -0.3% -0.4% -0.1% ไฟฟ้า เชื้อเพลิง น้าประปาและแสง สว่าง 5.8% -0.8% 1.5% 1.5% 0.1% -2.8% -1.4% -1.4% -0.4% การตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล 6.4% 0.1% -0.5% -0.5% -0.6% -0.7% -1.1% -0.8% -0.7% พาหนะ การขนส่ง และการสื่อสาร 22.2% 0.4% 2.1% 0.5% -0.4% -3.0% -3.4% -3.2% -1.3% การบันเทิงการอ่าน การศึกษา และการ ศาสนา 4.0% 0.5% 0.4% 0.4% 0.4% 0.7% 0.4% 0.5% 0.5% ยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ 1.2% 1.2% 0.8% 0.3% 0.1% 0.1% 0.1% 0.0% 0.2% ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน 70.4% 0.6% 0.8% 1.0% 0.9% 1.0% 1.1% 1.1% 1.0% 94 95 96 97 98 99 100 101 102 103 104 Jun-24 Jul-24 Aug-24 Sep-24 Oct-24 Nov-24 Dec-24 Jan-25 Feb-25 Mar-25 Apr-25 May-25 Jun-25 Raw Energy Core เงินเฟ้อจะทยอยกลับเป็น บวกในช่วงปลาย Q3 จาก - ราคาสินค้าเกษตรบาง ชนิดและเครื่องประกอบ อาหารมีแนวโน้มเร่งตัว เช่น เนื้อสุกร - ปัจจัยฐานสูงของราคา พลังงานค่อย ๆ หมดลง ปัจจัยฐานสูงจะเริ่ม ลดลงมากในช่วง ท้ายปี
  • 26.
    26 แนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะยังปรับลดลงอีก 2 ครั้งในปีนี้จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่จะชะลอลงอย่างมีนัย ในช่วงครึ่งปีหลัง และภาวะการเงินไทยยังคงตึงตัวต่อเนื่อง 101 102 103 104 Jan-24 Mar-24 May-24 Jul-24 Sep-24 Nov-24 Jan-25 Mar-25 May-25 Jul-25 หมายเหตุ : Inflation expectation จาก Bloomberg Median (ปี 2016-ปัจจุบัน) สาหรับก่อนปี 2016 ใช้ข้อมูลจริงอัตราเงินเฟ้อทั่วไป 1 ปีข้างหน้า ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ BIS Goldman Sachs ธปท. และ Bloomberg กนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ ตามเศรษฐกิจที่จะชะลอลง • SCB EIC ยังคงประเมินว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะปรับลดลงอีก 0.25% ในเดือน ส.ค. และ อีก 1 ครั้งในไตรมาส 4 เหลือ 1.25% ภายในสิ้นปี จาก Momentum เศรษฐกิจไทยในช่วง H2 ที่จะปรับแย่ลงตามที่ กนง. ประเมินไว้ (เศรษฐกิจขยายตัวใกล้เคียง 0%QOQsa) โดยพัฒนาการ ใหม่ของอัตราภาษีนาเข้าสหรัฐฯ นี้อาจทาให้ กนง. ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยในช่วง H2 ลงอีก เนื่องจาก กนง. มีข้อสมมติว่าไทยจะถูกเก็บภาษีนาเข้าเพียง 18% เท่านั้น • เศรษฐกิจไทยจะเผชิญความเสี่ยงด้านต่าสูงขึ้น หากการเจรจาสหรัฐฯ ไม่สาเร็จ ไทยอาจถูก สหรัฐฯ เก็บภาษีอัตราเดิม 36% ในกรณีนี้อาจเห็น กนง. ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงมากกว่า 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ -4 -2 0 2 4 6 01/2009 11/2009 09/2010 07/2011 05/2012 03/2013 01/2014 11/2014 09/2015 07/2016 05/2017 03/2018 01/2019 11/2019 09/2020 07/2021 05/2022 03/2023 01/2024 11/2024 Policy Interest Rate Inflation Expectation (1-Year ahead) Real Rate คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย โดย SCB EIC %, Policy rate Current End-25F End-26F End-27F Nominal 1.75 1.25 1.0 1.0 Real 1.0 0.75 0.6 0.1 10-year avg. = -0.1 20-year avg. = -0.1 101 102 103 104 Jan-24 Mar-24 May-24 Jul-24 Sep-24 Nov-24 Jan-25 Mar-25 May-25 ดัชนีค่าเงินบาท (Nominal Effective Exchange Rate) โดย BIS หน่วย : Index 2020 = 100 ดัชนีเงินบาทแข็งค่าขึ้น ดัชนีค่าเงินบาทยังอยู่ในระดับแข็งค่ากว่าปีก่อน อาจเป็นอุปสรรคต่อการแข่งขันของการส่งออก ไทยที่จะต้องเผชิญกาแพงภาษีสหรัฐฯ ดัชนีภาวะการเงินไทย โดย Goldman Sachs หน่วย : 100 = historical average ภาวะการเงินตึงตัวขึ้น ภาวะการเงินปรับตึงตัวขึ้นต่อเนื่อง อาจไม่ช่วยสนับสนุนกิจกรรมทาง เศรษฐกิจได้มากนัก
  • 27.
    27 เงินบาทอ่อนค่าจากปัจจัยการเมืองในประเทศเป็นสาคัญ แต่กลับมาแข็งค่าได้จากปัจจัยต่างประเทศที่ทาให้ดอลลาร์อ่อน ค่าลง ทั้งจากอิหร่าน-อิสราเอลตกลงหยุดยิงสหรัฐฯ-จีนทาข้อตกลงการค้า และตลาดมอง Fed ลดดอกเบี้ยมากขึ้น -0.04% 5.7% -10% -5% 0% 5% 10% 15% Europe Taiwan Korea Malaysia Thailand Philippines China Japan India Indonesia Vietnam Dollar index Since Iran War YTD Since Tariffs การเปลี่ยนแปลงของค่าเงินแต่ละสกุล เทียบดอลลาร์สหรัฐ หน่วย : % (ข้อมูล ณ วันที่ 1 ก.ค. 2025) บาทแข็งค่าหลังสงครามจบลง แต่อ่อนค่าจากเรื่องการเมือง US Dollar Position, Non-commercial traders (from CFTC) Unit : Billion US Dollar เงินทุนเคลื่อนย้ายสู่ตลาดการเงินไทย หน่วย : พันล้านบาท -110 -60 -10 40 90 Apr-23 Jun-23 Aug-23 Oct-23 Dec-23 Feb-24 Apr-24 Jun-24 Aug-24 Oct-24 Dec-24 Feb-25 Apr-25 Jun-25 Equity market Bond market Bn THB YTD 2024 2023 2022 Equity -81.3 -148 -193 +196.9 Bond +42.6 -70 -144 +46.8 • เงินบาทเดือนที่ผ่านมาผันผวนขึ้น โดยมีช่วงที่อ่อนค่าขึ้นแรงจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ แต่ก็กลับมาแข็งค่าเร็วหลังอิหร่าน-อิสราเอลตกลงหยุดยิง และสหรัฐฯ-จีนทาข้อตกลงทางการค้าสาเร็จ นอกจากนี้ ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลง หลังตลาดมองว่า Fed มีโอกาสลดดอกเบี้ยมากขึ้นมากกว่า 2 ครั้งในปีนี้ • ช่วงที่การเมืองไทยร้อนแรง เงินบาทอ่อนค่าเร็วกว่าสกุลอื่นในภูมิภาค และความกังวลการเมืองทาให้เงิน ไหลออกจากตลาดบอนด์ไทยมากกว่าปัจจัยต่างประเทศ เช่น สงคราม • ระยะต่อไปมองว่า เงินบาทยังจะมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง จากเทรนด์การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ดี จะมีปัจจัยที่ทาให้บาทกลับมาอ่อนค่าเป็นบางช่วง ทั้งจากเรื่องการเมืองในประเทศ การขึ้นภาษี นาเข้าของทรัมป์ และมุมมองนโยบายของ Fed เงินไหลออกจากตลาดบอนด์ ในช่วงที่การเมืองไม่แน่นอน เงินดอลลาร์อ่อนค่าแรง หลังสงครามจบลง ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB FM จากข้อมูลของ Bloomberg
  • 28.
    The information containedin this report has been obtained from sources believed to be reliable. However, neither we nor any of our respective affiliates, employees or representatives make any representation or warranty, express or implied, as to the accuracy or completeness of any of the information contained in this report, and we and our respective affiliates, employees or representatives expressly disclaim any and all liability relating to or resulting from the use of this report or such information by the recipient or other persons in whatever manner. Any opinions presented herein represent our subjective views and our current estimates and judgments based on various assumptions that may be subject to change without notice, and may not prove to be correct. This report is for the recipient’s information only. It does not represent or constitute any advice, offer, recommendation, or solicitation by us and should not be relied upon as such. We, or any of our associates, may also have an interest in the companies mentioned herein. Disclaimer