SCB EIC
Monthly
SCB EIC มองเศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรกยังมีแรงส่งและปัจจัยบวกจาก
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ครึ่งปีหลังจะถูกกดดันจากผลกระทบ
ของนโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐฯ ที่จะทยอยออกมา
Issue : January 2025
2
Executive summary
SCB EIC ประเมินโมเมนตัมเศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งแรกปีนี้จะดีต่อเนื่องจากช่วงปลายปี 2024 และยังพอมีปัจจัยบวก จากการทยอยออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
• ภาคท่องเที่ยวและบริการยังเป็นแรงส่งสาคัญ จากจานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เติบโตต่อเนื่อง แม้จะมีกระแสข่าวด้านความปลอดภัยแต่การเดินทางมาไทยของนักท่องเที่ยวจีนในช่วงเทศกาล
ตรุษจีนยังเติบโตได้ดี
• การส่งออกไทยในช่วงต้นปีจะขยายตัวได้ดี โดยการออกคาสั่งบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์ในช่วงนี้ประเมินว่าจะยังไม่ส่งผลลบต่อไทยมากนัก ส่วนหนึ่งจากหลายประเทศเร่งนาเข้าก่อนมาตรการ
กีดกันการค้าจะมีทีท่ารุนแรงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2025
• การใช้จ่ายภาครัฐจะขยายตัวสูงตามการเบิกจ่ายงบประมาณที่ทาได้ต่อเนื่องจะเป็นอีกแรงส่งสาคัญ นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกจะยังมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐ
อย่างไรก็ดี SCB EIC มองเศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งหลังของปีจะขยายตัวชะลอลง สาเหตุสาคัญมาจากผลมาตรการกีดกันการค้าของสหรัฐฯ ที่จะกระทบการค้าโลกรุนแรงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง กดดันการ
ส่งออกไทย อีกทั้ง ช่วงนี้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะทยอยหมดไป ประกอบกับภาวะการเงินที่ยังมีแนวโน้มตึงตัว โดยเฉพาะการเข้าถึงสินเชื่อของลูกหนี้รายย่อยซึ่งยังคงมีความท้าทายอยู่ ส่งผลให้การ
บริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มแผ่วลงในช่วงครึ่งหลังของปี
สาหรับเงินเฟ้อในภาพรวมปี 2025 มีความเสี่ยงด้านต่าเพิ่มขึ้นจากราคาพลังงาน ทั้งจากราคาน้ามันในตลาดโลก ราคาค่าไฟฟ้าที่มีแนวโน้มลดลง รวมทั้งมาตรการช่วยค่าครองชีพด้านพลังงานที่คาดว่า
จะยังมีอย่างต่อเนื่อง
พัฒนาการเศรษฐกิจโลกไตรมาส 4 ปี 2024 ได้รับผลบวกจากแรงกดดันเงินเฟ้อที่ลดลงและการเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง นาโดยสหรัฐฯ ที่ขยายตัวแข็งแกร่งกว่าคาด SCB EIC ยังคงมุมมองว่าเศรษฐกิจ
โลกในปีนี้จะเติบโตชะลอลงจากปีก่อนจากนโยบาย Trump 2.0 สาหรับภาพรวมการดาเนินนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ยังสอดคล้องกับที่ SCB EIC ประเมินไว้ โดยเริ่มออกคาสั่งบริหารจานวนมากเพื่อเร่ง
แก้ปัญหาในประเทศ โดยเฉพาะการจัดการผู้อพยพผิดกฎหมาย และการปรับเปลี่ยนนโยบายด้านพลังงาน แต่ยังไม่มีคาสั่งขึ้นภาษีนาเข้าที่ชัดเจนเพื่อใช้เปเนเครื่องมือต่อรองกับประเทศคู่ค้า
เงินเฟ้อในประเทศเศรษฐกิจหลักจะทรงตัวสูงกว่าเป้าในช่วงต้นปี 2025 จากต้นทุนการผลิตและค่าจ้างที่ขยายตัว โดยเฉพาะเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่มีความเสี่ยงเร่งขึ้นจากนโยบาย Trump 2.0 SCB EIC จึงยังคง
มุมมองนโยบายการเงินธนาคารกลางหลักปีนี้ว่าจะเห็นความแตกต่างกันมากขึ้นและมีความไม่แน่นอนสูง โดย Fed มีแนวโน้มลดดอกเบี้ยรวมเพียง 50 BPS ในปีนี้จากความกังวลกับความเสี่ยงเงินเฟ้อ
แต่ ECB กลับจะมีแนวโน้มเร่งลดดอกเบี้ยรวม 125 BPS จากเศรษฐกิจที่อ่อนแอกว่าและเงินเฟ้อที่ต่ากว่า ขณะที่ BOJ มีแนวโน้มปรับดอกเบี้ยขึ้นรวม 50 BPS จากมุมมองเงินเฟ้อสูงขึ้นและเงินเยนอ่อนค่า
SCB EIC ปรับมุมมอง กนง. จะลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง แต่จะเลื่อนออกไปเป็นช่วงกลางปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังจากที่ กนง. มีข้อมูลประเมินผลกระทบนโยบาย Trump 2.0 ต่อเศรษฐกิจไทยชัดขึ้น
ซึ่งคาดว่าจะเห็นทิศทางเศรษฐกิจไทยปีนี้เติบโตชะลอลงต่ากว่าศักยภาพ
• การสื่อสารของ กนง. เมื่อต้นเดือน ม.ค. สะท้อนโอกาสลดดอกเบี้ยช่วงต้นปีลดลง โดยย้าว่าการลดดอกเบี้ยในภาวะความไม่แน่นอนสูง จะมีประสิทธิผลจากัด
• ความเปราะบางของอุปสงค์ในประเทศ ภาวะสินเชื่อตึงตัว และความเสี่ยงด้านลบของเศรษฐกิจไทยที่จะชัดเจนขึ้น เปเนปัจจัยที่ กนง. จะพิจารณาลดดอกเบี้ยเพื่อผ่อนคลายนโยบายการเงินลงอีก
และเตรียมความพร้อมเศรษฐกิจไทยที่อาจเผชิญผลลบจากนโยบายการค้าสหรัฐฯ ชัดเจนขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี
3 ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ S&P Global, J.P. Morgan, U.S. Energy Information Administration และ CEIC
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) โลกในช่วง 4Q24
หน่วย : ดัชนี, >50 สะท้อนการขยายตัว
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของ Selected Advanced Economies
หน่วย : %YOY
เงินเฟ้อทรงตัวสูงจากต้นทุนเพิ่มขึ้น ค่าจ้างโต ราคาน้ามันหดตัวน้อยลง
หน่วย : แกนซ้าย (%YOY), แกนขวา (>50 ขยายตัว)
49.4
50.0
49.6
53.1 53.1
53.8
52.3 52.4 52.6
40
45
50
55
Manufacturing Service All-industry
Oct-24 Nov-24 Dec-24
2.7
2.2
2.5
0
2
4
6
8
10
12
03/2022
06/2022
09/2022
12/2022
03/2023
06/2023
09/2023
12/2023
03/2024
06/2024
09/2024
12/2024
US Eurozone UK
-21.0
-5.0
4.6
56
50
52
54
56
58
-25
-20
-15
-10
-5
0
5
10
15
01/2024
02/2024
03/2024
04/2024
05/2024
06/2024
07/2024
08/2024
09/2024
10/2024
11/2024
12/2024
Brent (LHS)
US Wage (LHS)
All-industry PMI: Input prices (RHS)
เศรษฐกิจโลกปรับดีขึ้นในไตรมาส 4 ปี 2024 นาโดยสหรัฐฯ หลังแรงกดดันเงินเฟ้อลดลงและธนาคารกลางหลักเริ่มเข้าสู่
วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง อย่างไรก็ดี เงินเฟ้อโลกเริ่มทรงตัวสูงกว่าเป้าหมาย จากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น โดยเฉพาะสหรัฐฯ
4
Trump ออกคาสั่งบริหารจานวนมากหลังเข้ารับตาแหน่ง เน้นยกเลิกคาสั่ง Biden ปฏิรูปรัฐบาลกลาง จัดการ
ผู้อพยพ และสนับสนุนพลังงานฟอสซิล อย่างไรก็ดี แนวนโยบายกีดกันการค้ายังไม่ชัดเจน เน้นการขู่เพื่อต่อรอง
หมายเหตุ : *ตัวเลขดุลการค้าจาก US Census 11 เดือนแรกของปี 2024
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ National Law Review โดย Sheppard, Mullin, Richter & Hampton LLP, Bloomberg และ Reuters
คาสั่งบริหารสาคัญที่เกี่ยวกับนโยบายในประเทศ นโยบาย Tariff เน้นข่มขู่บางประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ สูง
Trump ออกคาสั่งบริหารจานวนมาก เน้นยกเลิกคาสั่ง Biden
Trump’s Executive Order (ณ 23 ม.ค. 2025)
2
4
4
5
10
16
19
55
Trade
US Economy
Science & Technology
Foreign Affairs
Health & Covid-19
Energy & Climate
Immigration & National Security
US Government & Politics
คาสั่งใหม่ ยกเลิกคาสั่งเก่า
หมายเหตุ : รวบรวมโดย Sheppard, Mullin, Richter & Hampton LLP เผยแพร่ทาง
National Law Review และจัดหมวดหมู่เพิ่มโดย SCB EIC สาหรับ US Government &
Politics เปเนหมวดรวมนโยบายด้านสังคมและการเมือง ครอบคลุมการปรับนโยบาย
ลูกจ้างภาครัฐ ประเด็นสังคม การเมือง กระบวนการยุติธรรม สัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม
ความหลากหลายในที่ทางาน
การปฏิรูปรัฐบาลกลาง
• งดรับลูกจ้างภาครัฐเพิ่ม ยกเว้นหน่วยงานความมั่นคง
• ตั้ง Department of Government Efficiency (DOGE)
• งดการออก Regulation ใหม่จนกว่าจะมีการทบทวน
ชายแดนและผู้อพยพ
• ประกาศภาวะฉุกเฉินชายแดนเม็กซิโก และส่งหน่วยงานความ
มั่นคงเข้าประจาการ
• งดรับผู้ลี้ภัยเพิ่มเติม
นโยบายพลังงาน และ Climate
• ถอนตัวจาก Paris Agreement อีกครั้ง
• ยกเลิกคาสั่ง Biden บางส่วนที่สนับสนุน Green economy เช่น
เป้าหมายสัดส่วนการจาหน่ายรถ EV ในประเทศ
• ยกเลิกคาสั่ง Biden บางส่วนที่ควบคุมการใช้และผลิต Fossil
fuel เช่น ห้ามขุดเจาะนอกชายฝั่ง
นโยบายการค้า
• ทบทวน Unfair and unbalanced trade ภายใน 1 เม.ย. เน้น :
• การขาดดุลทางการค้าของสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง
• การแทรกแซงค่าเงินของประเทศคู่ค้า
• ประเทศต้นตอผู้อพยพผิดกฎหมายและยาเสพติด
• การปกป้องอุตสาหกรรมที่เปเนความมั่นคงของชาติ
เม็กซิโก (สัดส่วนการนาเข้าของสหรัฐฯ อันดับ 1*)
US ขู่ขึ้น Tariff : 25% เริ่ม 1 ก.พ.
ข้อกล่าวหา : เปเนทางผ่านการลักลอบนาเข้าผู้
อพยพผิดกฎหมายและยาเสพติด
แคนาดา (เกินดุลสหรัฐฯ อันดับ 2)
US ขู่ขึ้น Tariff : 25% เริ่ม 1 ก.พ.
ข้อกล่าวหา : เปเนทางผ่านของการลักลอบนาเข้า
ผู้อพยพผิดกฎหมายและยาเสพติด
เป็นข้อกล่าวหา
แคนาดา
โดยไม่มีมูล
อาจนาไปสู่
การทบทวน
ข้อตกลง
USMCA
จีน (เกินดุลสหรัฐฯ อันดับ 3)
US ขู่ขึ้น Tariff : 10% เริ่ม 1 ก.พ.
ข้อกล่าวหา : เปเนต้นทางผลิตยาเสพติดและ
ส่งไปสหรัฐฯ ผ่านเม็กซิโกและแคนาดา
เป็นประเด็น
ต่อเนื่องจาก
เม็กซิโกและ
แคนาดา คาดว่า
จะมีการขู่เพิ่ม
ยุโรป (เยอรมนี เกินดุลสหรัฐฯ อันดับ 4 ขณะที่
UK เนเธอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ อิตาลี และฝรั่งเศส
อยู่ใน 15 อันดับแรก)
US ขู่ขึ้น Tariff : ไม่ชัดเจน
ข้อกล่าวหา : การเอาเปรียบทางการค้า
อาจเกี่ยวพัน
ค่าใช้จ่าย
ทางการทหาร
ของ NATO
ในระยะต่อไป
5
Chief Economists Survey จาก World Economic Forum Jan25 ส่วนใหญ่มองนโยบาย Trump 2.0 จะส่ง
ผลลบต่อเศรษฐกิจโลกทั้งระยะสั้นและยาว แต่จะกระทบเศรษฐกิจสหรัฐฯ ระยะกลางและยาว และเร่งเงินเฟ้อสหรัฐฯ
หมายเหตุ : *ผู้ตอบแบบสอบถามอาจไม่ได้รวมผลนโยบายตอบโต้กลับของคู่ค้าอย่างเต็มที่ เนื่องจากคาถามระบุถึงผลจากนโยบายฝั่งสหรัฐฯ เท่านั้น “What will be the impact of the next US administration’s policy agenda on growth”
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ World Economic Forum 2025 (Chief Economists Survey : Nov 2024)
ผลกระทบของนโยบาย Trump 2.0 ต่อเงินเฟ้อสหรัฐฯ
หน่วย : % ผู้ตอบแบบสอบถาม
ผลกระทบของนโยบาย Trump 2.0 ต่อเศรษฐกิจโลก ในระยะสั้น กลาง และยาว
หน่วย : % ผู้ตอบแบบสอบถาม
9
9
12
59
71
53
26
18
32
6
3
3
0% 10% 20% 30% 40% 50% 60% 70% 80% 90% 100%
ระยะสั้น
ระยะกลาง
ระยะยาว
เปเนลบ ค่อนข้างเปเนลบ เปเนกลาง ค่อนข้างเปเนบวก เปเนบวก
ผลกระทบของนโยบาย Trump 2.0 ต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะสั้น กลาง และยาว*
หน่วย : % ผู้ตอบแบบสอบถาม
12
9
12
21
38
41
21
26
29
38
21
12
9
6
6
0% 10% 20% 30% 40% 50% 60% 70% 80% 90% 100%
ระยะสั้น
ระยะกลาง
ระยะยาว
เปเนลบ ค่อนข้างเปเนลบ เปเนกลาง ค่อนข้างเปเนบวก เปเนบวก
3 3
91
3
0%
20%
40%
60%
80%
100%
ลดลงมาก
ลดลง
ไม่ส่งผลกระทบ
เพิ่มขึ้น
เพิ่มขึ้นมาก
มุมมองผู้ร่วมประชุม World Economic Forum Jan 2025 :
• โลกจะกีดกันการค้า การลงทุน ปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ
มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม AI, Clean tech, และ Space tech
• Trump จะยังมีแนวโน้มกีดกันจีน เริ่มจากการขึ้นภาษีนาเข้า
แต่ภาษีเก็บจริงจะไม่ถึง 60% ตามที่หาเสียงไว้
• นโยบายกีดกันผู้อพยพจะส่งผลลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทันที
และทาให้เกิดการว่างงานรุนแรงในเม็กซิโก
• สหรัฐฯ และจีนอาจร่วมมือกันหยุดสงครามในยูเครน
แต่สงครามตะวันออกกลางอาจปะทุขึ้นใหม่ได้
6
เศรษฐกิจสหรัฐฯ ลดความร้อนแรงลงบ้างในเดือน ม.ค. แต่ยังคงแข็งแกร่ง ผู้ประกอบการและผู้บริโภคมีความ
เชื่อมั่นทางเศรษฐกิจมากขึ้น ส่วนหนึ่งจากความคาดหวังว่า Trump จะผ่อนคลายกฎระเบียบและลดภาษีในประเทศ
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) สหรัฐฯ
หน่วย : ดัชนี, >50 สะท้อนการขยายตัว
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ S&P Global, U.S. Census Bureau, University of Michigan, National Federation of Independent Business และ CEIC
ดัชนีภาคค้าปลีกสหรัฐฯ
หน่วย : %YOY
ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในสหรัฐ
หน่วย : ดัชนี (1966=100 สาหรับผู้บริโภค, 1986=100 สาหรับธุรกิจ)
52.8
52.4
50.1
45
50
55
60
10/2023
11/2023
12/2023
01/2024
02/2024
03/2024
04/2024
05/2024
06/2024
07/2024
08/2024
09/2024
10/2024
11/2024
12/2024
Flash
Jan25
Composite Service Manufacturing
4.2
-1
0
1
2
3
4
5
10/2023
11/2023
12/2023
01/2024
02/2024
03/2024
04/2024
05/2024
06/2024
07/2024
08/2024
09/2024
10/2024
11/2024
12/2024
50
60
70
80
90
100
110
01/2022
05/2022
09/2022
01/2023
05/2023
09/2023
01/2024
05/2024
09/2024
01/2025
Consumer Sentiment Index (As of Jan25)
Small Business Optimism Index (As of Dec24)
7
เศรษฐกิจยูโรโซนฟื้นตัวขึ้นบ้างในเดือน ม.ค. แต่ยังขยายตัวต่าจากแรงกดดันรอบด้าน มุมมองภาคเอกชนต่อ
เศรษฐกิจปรับดีขึ้นบ้าง ส่วนหนึ่งมองเศรษฐกิจยูโรโซนกาลังผ่านจุดต่าสุด แต่ยังมีความเสี่ยงจาก Trump 2.0
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ยูโรโซน
หน่วย : ดัชนี, >50 สะท้อนการขยายตัว
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ S&P Global, HCOB, ZEW, ifo, European Commission และ CEIC
ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในยูโรโซนปรับดีขึ้นบ้างในเดือน ม.ค.
หน่วย : ดัชนี > 0 สะท้อนมุมมองที่ดี, SA
50.2
46.1
51.4
40
45
50
55
10/2023
11/2023
12/2023
01/2024
02/2024
03/2024
04/2024
05/2024
06/2024
07/2024
08/2024
09/2024
10/2024
11/2024
12/2024
01/2025
Composite Manufacturing Services
-14.2
-13.9
18
0
10
20
30
40
50
60
-20
-18
-16
-14
-12
-10
-8
-6
-4
-2
0
10/2023
11/2023
12/2023
01/2024
02/2024
03/2024
04/2024
05/2024
06/2024
07/2024
08/2024
09/2024
10/2024
11/2024
12/2024
01/2025
Consumer Confidence Indicator ifo Germany Business Climate
ZEW Economic Sentiment (RHS)
8
เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องตามที่ BOJ คาดการณ์ไว้ สะท้อนจากภาวะเศรษฐกิจรายภูมิภาคและค่าจ้างที่ดีขึ้น
เริ่มกระจายในหลายมิติ อย่างไรก็ตาม เงินเฟ้อมีความเสี่ยงด้านสูงจากเยนอ่อนและแนวโน้มค่าจ้าง อาจกระทบการบริโภค
ค่าจ้างลูกจ้างของญี่ปุ่น (ไม่รวมโบนัสกับค่าล่วงเวลา)
หน่วย : %YoY
การประเมินภาวะเศรษฐกิจและการจ้างงานรายภูมิภาค (ม.ค. 2025) โดย BOJ อัตราเงินเฟ้อญี่ปุ่น
หน่วย : %YoY
ภูมิภาค ภาวะเศรษฐกิจ การบริโภค
Hokkaido ปรับดีขึ้นบ้าง แต่ยังอ่อนแอบางส่วน
ยังคงแข็งแกร่ง แต่มีผลกระทบ
บางส่วนจากราคาที่สูงขึ้น
Tohoku ปรับดีขึ้น ปรับดีขึ้นบ้าง
Hokuriku
ปรับดีขึ้น แม้มีผลกระทบบางส่วนจาก
แผ่นดินไหว
ปรับดีขึ้นบ้างแม้มีผลกระทบบางส่วน
จากแผ่นดินไหว
Kanto-
Koshinetsu ปรับดีขึ้นบ้าง แต่ยังอ่อนแอบางส่วน
ปรับดีขึ้นบ้างแต่มีผลกระทบบางส่วน
จากราคาที่สูงขึ้น
Tokai ปรับดีขึ้นบ้าง ปรับดีขึ้นบ้าง แต่ยังอ่อนแอบางส่วน
Kinki ปรับดีขึ้นบ้าง แต่ยังอ่อนแอบางส่วน
ปรับดีขึ้นบ้างแต่มีผลกระทบบางส่วน
จากราคาที่สูงขึ้น
Chugoku ปรับดีขึ้นบ้าง ปรับดีขึ้นบ้าง
Shikoku ปรับดีขึ้นบ้าง
ยังคงแข็งแกร่งแต่มีผลกระทบ
บางส่วนจากราคาที่สูงขึ้น
Kyushu-
Okinawa ปรับดีขึ้นบ้าง แต่ยังอ่อนแอบางส่วน
ยังคงแข็งแกร่งแต่มีผลกระทบ
บางส่วนจากราคาที่สูงขึ้น
-6
-4
-2
0
2
4
6
Jan-22
Mar-22
May-22
Jul-22
Sep-22
Nov-22
Jan-23
Mar-23
May-23
Jul-23
Sep-23
Nov-23
Jan-24
Mar-24
May-24
Jul-24
Sep-24
Nov-24
Basic Wage Full-Time Basic Wage
Part-Time Hourly Wage Real Wage
-2
-1
0
1
2
3
4
5
6
Jan-22
Mar-22
May-22
Jul-22
Sep-22
Nov-22
Jan-23
Mar-23
May-23
Jul-23
Sep-23
Nov-23
Jan-24
Mar-24
May-24
Jul-24
Sep-24
Nov-24
Core-CPI (Excl. Fresh Food)
New Core-CPI (Excl. Fresh Food & Energy)
CPI (Excl. Imputed Rent)
วัฏจักรเชิงบวกระหว่างค่าจ้างและเงินเฟ้อแข็งแกร่งมากขึ้น
ค่าจ้างมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และเริ่มกระจายไปธุรกิจขนาดเล็ก
และกลาง (จ้างงานราว 70% ของตลาดแรงงาน) และหลายภาค
การผลิต ช่วยสนับสนุนให้การบริโภคมีแนวโน้มฟื้นตัว
อย่างไรก็ตาม ในระยะข้างหน้า เงินเฟ้อญี่ปุ่นมีความเสี่ยงด้านสูง
จากเงินเยนอ่อนค่าและค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น โดย BOJ (ม.ค. 2025)
ปรับประมาณการเงินเฟ้อญี่ปุ่น (Core CPI) FY24 ขึ้นเปเน 2.7%
(จาก 2.5%) และ FY25 เปเน 2.4% (จาก 1.9%) ซึ่งอาจเพิ่มแรง
กดดันต่อการฟื้นตัวของการบริโภคที่ยังคงเปราะบาง
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ CEIC, Ministry of Health, Labour, and Welfare, BOJ, The Japan Chamber of Commerce and Industry, Statistics Bureau of Japan และสานักข่าวต่างประเทศ
9
แรงส่งเศรษฐกิจจีนแผ่วลงบ้างในเดือน ม.ค. แต่ในระยะสั้นยังมีแนวโน้มขยายตัวดีจากมาตรการสนับสนุนภาครัฐ
และการเร่งผลิตเพื่อส่งออก อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจจีนมีความเสี่ยงสูงจากผลกระทบ Trump 2.0 ช่วงครึ่งปีหลัง
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ National Bureau of Statistics, The Central People's Government, General Administration of Customs, S&P Global และ CEIC
เศรษฐกิจจีนปี 2024 เติบโตได้ 5% ตามเป้าหมายรัฐบาลกลาง
หน่วย : %YOY
มูลค่าค้าปลีกสินค้าเพื่อการบริโภคและมูลค่าส่งออกสินค้าของจีน
หน่วย : %YOY, SA
5
0
1
2
3
4
5
6
7
8
9
2015
2016
2017
2018
2019
2020
2021
2022
2023
2024
GDP growth Target
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) จีน
หน่วย : ดัชนี > 50 สะท้อนการขยายตัว
50.1
46
48
50
52
54
56
58
01/2023
03/2023
05/2023
07/2023
09/2023
11/2023
01/2024
03/2024
05/2024
07/2024
09/2024
11/2024
01/2025
Official S&P Global
3.9
9.1
-15
-10
-5
0
5
10
15
01/2024
02/2024
03/2024
04/2024
05/2024
06/2024
07/2024
08/2024
09/2024
10/2024
11/2024
12/2024
Retail Sales of Consumer Goods (RMB)
Export (USD)
10
นโยบายการเงินของธนาคารกลางหลักจะแตกต่างกันมากขึ้นและไม่แน่นอนสูง Fed จะลดดอกเบี้ยอย่างระมัดระวังความ
เสี่ยงเงินเฟ้อ ด้าน ECB จะเร่งลดดอกเบี้ยเพื่อพยุงเศรษฐกิจ ขณะที่ BOJ มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของธนาคารกลางสหรัฐฯ, ธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางญี่ปุ่น
คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ปี 2025 โดย SCB EIC
หน่วย : % ต่อปี
คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายยูโรโซนปี 2025 โดย SCB EIC
หน่วย : % ต่อปี, Deposit rate
คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายญี่ปุ่นปี 2025 โดย SCB EIC
หน่วย : % ต่อปี
5.38
5.38
4.38
4.38
4.13
3.88
3.88
2
3
4
5
6
23H2
24H1
24H2
25Q1F
25Q2F
25Q3F
25Q4F
SCB EIC Bloomberg Median
4
3.75
3
2.5
2
1.75
1.75
0
1
2
3
4
5
6
23H2
24H1
24H2
25Q1F
25Q2F
25Q3F
25Q4F
SCB EIC Bloomberg Median
0.1
0.25
0.5
0.5
0.75
0.75
0
1
2
3
4
5
6
23H2
24H1
24H2
25Q1F
25Q2F
25Q3F
25Q4F
SCB EIC Bloomberg Median
ช่วงคาดการณ์ ช่วงคาดการณ์ ช่วงคาดการณ์
Fed มีแนวโน้มลดดอกเบี้ยรวม 50 BPS ในปี 2025 โดยจะลดครั้งแรก
ในไตรมาส 2 ช้ากว่าที่ประเมินไว้เดิม เพื่อรับมือความเสี่ยงเงินเฟ้อที่จะ
เพิ่มขึ้นจากปัจจัยเศรษฐกิจในประเทศและนโยบาย Trump 2.0
ECB มีแนวโน้มเร่งลดอัตราดอกเบี้ยรวม 125 BPS ในปี 2025
(ลดครั้งละ 25BPS ทุกรอบประชุมจนกว่าดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 1.75%
จากปัจจัยเศรษฐกิจที่อ่อนแอกว่ามาก และแรงกดดันเงินเฟ้อต่ากว่า
BOJ มีแนวโน้มขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 50 BPS ในปี 2025 จากปัจจัย
แนวโน้มเศรษฐกิจปรับดีขึ้น มุมมองเงินเฟ้อสูงขึ้นเกิดวัฏจักรเชิงบวก
ระหว่างค่าจ้างกับเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงยังติดลบ และเงินเยน
อ่อนค่า ทั้งนี้มีความเปเนไปได้ที่อัตราดอกเบี้ยจะขึ้นไปถึง 1% ในปีนี้
11
SCB EIC ประเมินเศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งปีแรกยังมีแรงส่งจากภาคการท่องเที่ยว การส่งออก และการใช้จ่ายภาครัฐ
โดยคาสั่งบริหารของ Trump หลังเข้ารับตาแหน่งจะยังไม่ส่งผลลบต่อไทยมากนักในช่วงครึ่งแรกของปี
คาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2024 – 2025 โดย SCB EIC
หมายเหตุ : *ตัวเลขจริง
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของสานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
Base Case Unit
2024F 2025F
As of Sep
2024
As of Dec
2024
As of Sep
2024
As of Dec
2024
GDP %YOY 2.5 2.7 2.6 2.4
Private Consumption %YOY 3.7 5.0 2.4 2.1
Government Consumption %YOY 1.4 1.8 3.7 3.7
Private Investment %YOY -0.4 -1.2 3.8 3.4
Government Investment %YOY -0.5 1.5 4.2 5.0
Export Value of Goods (USD, BOP) %YOY 2.6 3.9 2.8 2.0
Import Value of Goods (USD, BOP) %YOY 3.1 5.4 3.6 3.4
Number of International Tourists Million people 36.2 35.5* 39.4 38.8
Headline Inflation Rate %YOY 0.6 0.4* 1.0 1.0
Core Inflation Rate %YOY 0.5 0.6* 0.9 0.9
Policy Interest Rate (End of Year) % 2.25 2.25* 2.0 2.0
H1
H2
แรงส่งเศรษฐกิจมีต่อเนื่องจากปีก่อน รวมถึงมี Upside จากมาตรการ
กระตุ้นเศรษฐกิจ
• การส่งออกโตดีต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเพราะหลายประเทศอาจเร่งนาเข้า
ก่อนมาตรการกีดกันการค้าเพิ่มเติมจะเริ่มมีผล ประเมินไทยยังไม่ถูก
มาตรการกีดกันการค้าเพิ่มเติมจากสหรัฐฯ ในช่วงครึ่งปีแรก
• การเบิกจ่ายงบประมาณต่อเนื่องและปัจจัยฐานจากปีก่อน
• Upside ของเศรษฐกิจเพิ่มเติม จากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย
เช่น โครงการแจกเงิน 10,000 บาทเฟส 2-3 รวมถึงมาตรการ
Easy E-receipt
เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่า
• เริ่มถูกกดดันจากสงครามการค้ารอบใหม่ Trump 2.0 เริ่มมีผล
ต่อไทยในช่วงครึ่งปีหลัง
• การส่งออกเริ่มชะลอตัว ประกอบกับมีปัจจัยฐานสูง
• การผลิตยังไม่ฟื้น ส่วนหนึ่งจากสินค้าจีนที่มีแนวโน้มตีตลาดไทย
มากขึ้น ผลจากสงครามการค้า
• การบริโภคภาคเอกชนแผ่วลง จากการเข้าถึงสินเชื่อได้ยากขึ้น และ
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอาจมีไม่มากจากข้อจากัดงบประมาณปี 2026
12
เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยที่ผ่านมา สะท้อนแรงส่งจากภาคท่องเที่ยวและบริการตามการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยว
และภาคการส่งออกที่ปรับดีขึ้นมากในช่วงครึ่งหลังของปี 2024
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย, กระทรวงพาณิชย์, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, ศุลกากรจีนและเกาหลีใต้, สานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน, S&P Global และ CEIC
Lagging indicator Unit 2022 2023 Oct-23 Nov-23 Dec-23 Jan-24 Feb-24 Mar-24 Apr-24 May-24 Jun-24 Jul-24 Aug-24 Sep-24 Oct-24 Nov-24 Dec-24
Coincident economic index (CEI) 2019=100, SA 97.8 99.6 100.4 100.6 99.6 101.0 102.0 100.1 103.0 101.2 100.7 103.3 102.3 101.5 102.9 102.6
Consumption
Private consumption index 2010=100, SA 142.1 151.7 153.1 152.1 150.8 151.9 151.7 151.4 154.1 154.3 152.9 152.9 153.0 151.4 152.6 151.9
Unemployment compensation % insured person 2.1% 1.9% 1.9% 1.9% 1.7% 1.8% 1.7% 1.8% 1.9% 1.9% 1.9% 1.9% 1.9% 1.8% 1.8% 1.9%
Unemployment rate % labor force 1.3% 1.0% 0.81% 1.00% 1.07% 1.02%
Investment Private investment index 2010=100, SA 142.1 140.1 137.8 140.8 133.1 140.7 144.2 141.2 144.0 141.5 138.9 148.5 143.7 142.1 147.0 144.3
Export
(Custom basis)
Exports ex. Gold %YoY 4.6% -0.4% 7.6% 5.5% 2.9% 6.6% 1.3% -6.6% 9.4% 5.6% -1.7% 11.0% 6.2% 1.7% 9.0% 6.4% 8.7%
%MoM, SA 4.6% -0.4% -1.0% -0.7% 0.1% -1.5% 0.1% 0.8% 3.5% -1.1% -0.1% 2.5% 2.9% -2.3% 1.4% 1.5% 0.6%
Agriculture Agriculture production index 2005=100, SA 144.2 147.4 150.2 144.9 143.6 144.5 143.3 140.1 147.9 146.5 142.2 144.7 146.8 144.7 146.5 147.5 148.0
Manufacturing
PMI : Manufacturing 50 = Stable 52.3 51.8 47.5 47.6 45.1 46.7 45.3 49.1 48.6 50.3 51.7 52.8 52.0 50.4 50.0 50.2 51.4
Manufacturing production index 2016=100, SA 101.4 97.6 95.5 96.1 94.4 96.2 97.4 94.9 97.6 96.9 96.5 98.8 95.9 94.6 95.4 93.5
Capacity utilization rate %, SA 63.6 59.6 57.8 58.5 57.2 57.8 58.5 57.3 59.9 58.8 58.5 60.1 59.0 58.0 58.6 57.3
Service
Service production index 2016=100, SA 111.2 120.6 121.8 121.1 121.7 123.1 124.8 123.7 125.6 125.9 125.5 128.6 128.2 128.2 129.6 130.3
Foreign tourist arrivals thousands 11093.3 28099.3 2197.0 2637.1 3261.3 3035.3 3352.3 2982.7 2757.1 2633.5 2740.4 3103.4 2963.1 2521.0 2679.2 3150.2
Hotel occupancy rate % 47.2 69.2 66.1 71.7 82.8 77.4 76.7 71.7 73.5 68.8 67.5 69.8 69.2 66.8 69.1 72.5
13
มองไปข้างหน้า เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยโดยรวมปรับดีขึ้น โดยเฉพาะการส่งออกและการลงทุนระยะยาวผ่าน BOI
แต่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังต่ากว่าช่วงครึ่งปีก่อน และภาคการผลิตอุตสาหกรรมและก่อสร้างจะยังฟื้นตัวช้า
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย, กระทรวงพาณิชย์, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, ศุลกากรจีนและเกาหลีใต้, สานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน, S&P Global และ CEIC
Leading indicator Unit 2022 2023 Oct-23 Nov-23 Dec-23 Jan-24 Feb-24 Mar-24 Apr-24 May-24 Jun-24 Jul-24 Aug-24 Sep-24 Oct-24 Nov-24 Dec-24
Leading economic index (LEI) 2000=100, SA 171.5 173.0 173.0 172.5 172.9 173.4 172.9 173.3 173.0 172.7 172.7 172.4 172.4 173.4 175.0 174.4
Consumption CCI : Future 100 = Stable 51.1 64.2 68.0 68.7 69.9 70.9 71.9 71.2 70.2 68.4 66.7 65.4 64.3 63.1 64.0 64.9
Export
Global PMI : Manu export orders 50 = Stable 47.8 47.6 47.5 48.1 48.1 48.8 49.3 49.5 50.4 50.4 49.3 49.3 48.4 47.5 48.3 48.6 48.2
Korea exports : First 25 days 2021=100, SA 106.8 92.9 100.6 104.6 107.9 95.7 87.8 95.7 103.9 94.7 99.1 102.8 91.0 100.7 98.9 101.5 111.2
Korea exports 2021=100, SA 106.2 92.4 103.3 103.9 102.0 100.5 99.4 95.4 101.4 98.4 98.1 97.9 99.8 100.8 99.8 101.4 106.1
China exports 2021=100, SA 105.7 95.5 97.2 100.2 99.8 102.2 105.3 102.9 101.6 99.4 100.2 96.4 99.2 97.4 101.7 103.3 105.5
China imports from Thailand 2021=100, SA 92.1 90.3 86.9 78.1 82.2 74.0 73.3 73.2 76.8 92.4 75.8 81.4 81.5 84.1 84.6 87.4 95.8
Investment
- Near term
BSI : Expectation 50 = Stable 53.4 54.6 53.3 52.6 53.9 53.9 53.5 51.9 52.4 52.9 51.9 50.1 49.8 51.6 52.4 51.3 51.2
Construction area permitted 2000=0.1, SA 6.3 6.6 7.2 6.8 6.8 6.9 6.8 6.8 6.8 6.5 6.2 6.2 6.1 5.9 6.0 5.9
Net business open Value THB billions 302.8 402.4 18.3 7.9 -36.7 22.2 17.2 16.6 22.2 -32.9 23.1 14.9 3.8 5.4 20.2 14.0
Investment
- Longer term
BOI : Cert. issued Value %YoY 15.4% 5.5% 18.4% 107.2% 64.1% 132.9%
BOI : Approved Value %YoY 19.6% 22.5% 98.8% 5.9% 64.7% 71.4%
BOI : Application Value %YoY 25.3% 43.2% 100.8% 30.9% 39.2% 55.6%
Manufacturing TISI : Expectation 100 = Stable 98.2 100.6 94.5 97.3 96.2 98.4 100.0 100.8 98.3 95.7 93.4 95.2 93.9 96.7 98.4 96.7
14
จานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังเติบโตต่อเนื่อง โดยกระแสข่าวด้านความปลอดภัย ส่งผลให้การเดินทางมาไทย
ของนักท่องเที่ยวจีนในช่วงเริ่มต้นเทศกาลตรุษจีนเร่งตัวไม่สูงมาก แต่ยังเติบโตได้ดี
นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยแล้วราว 2.14 ล้านคน (ข้อมูล ณ 19 ม.ค. 2025)
หน่วย : ล้านคน, % เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปี 2019, %YOY
จานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยรายสัปดาห์
หน่วย : คนต่อสัปดาห์
หมายเหตุ : ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือน ม.ค. ประเมินจากตัวเลขเบื้องต้นของกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
0.69
2.42
ก.ค. 24
0.66
2.31
ส.ค. 24
0.47
2.05
ก.ย. 24
0.46
2.22
ต.ค. 24
0.48
2.67
พ.ย. 24
0.54
3.09
ธ.ค. 24 ม.ค. 25 e
3.10 2.96
2.52 2.68
3.15
3.63 ~3.60
นักท่องเที่ยวจีน นักท่องเที่ยวชาติอื่น
93%
25%
85%
20%
87%
18%
87%
22%
93%
19%
92%
11%
96%
17%
การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวโดยรวม %YOY
จีนยังครองอันดับ 1 นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยสูงสุดกว่า 3.5 แสนคนในช่วงวันที่ 1-19 มกราคม 2025
ตามด้วยมาเลเซีย (216,860 คน), รัสเซีย (165,501 คน), เกาหลีใต้ (124,823 คน) และอินเดีย (117,896 คน)
0
600,000
800,000
1,000,000
715,579
820,896
872,235
(ตรุษจีน : 10 Feb)
+15%
2024 2025
3rd week 10th week
0
200,000
148,570
(2 สัปดาห์ก่อนตรุษจีน)
137,897
194,275
(ตรุษจีน : 10 Feb)
+8%
2024 2025
10th week
นักท่องเที่ยวต่างชาติโดยรวม
นักท่องเที่ยวจีน
3rd week
ไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวจีนสนใจเดินทางมาในช่วงตรุษจีน
จากข้อมูลของแพลตฟอร์มท่องเที่ยว Fliggy พบว่าเส้นทางญี่ปุ่น ไทย มาเลเซีย
เกาหลีใต้ และสิงคโปร์เปเน 5 เส้นทางที่มียอดการจองสูงสุดในช่วงตรุษจีน
15
จานวนผู้เยี่ยมเยือนไทย
หน่วย : ล้านคน, %YoY
หมายเหตุ : *กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ที่มา : การวิเคราะห์โดย EIC จากข้อมูลของ
หมายเหตุ : ตัวเลขผู้เยี่ยมเยือนไทยเดือน ธ.ค. และ ม.ค. ประเมินจากตัวเลขเบื้องต้นของกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, สานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย
41%
12%
ก.ค.
47%
41%
13%
ส.ค.
48%
39%
13%
ก.ย.
48%
41%
11%
ต.ค.
47%
40%
10%
พ.ย. ธ.ค. ม.ค. e
22.0 21.0 20.3
21.8 22.7
26.1 ~25.1
12%
40%
49%
50%
กรุงเทพฯ เมืองน่าเที่ยว เมืองหลัก
11%
4% 4%
5%
7% 7%
5%
อัตราการเติบโต (%YoY)
105,000
180,000
195,000
210,000
225,000
196,874
23 ม.ค 25
1 พ.ย 24
จานวนผู้โดยสารเส้นทางบินภายในประเทศ
หน่วย : คนต่อวัน
1 ธ.ค 24 1 ม.ค 25
Nov 24 Dec 24 1-23 Jan 25
Total 5,514,168 5,926,302 4,516,212
Average/day 183,805 191,171 196,357
จานวนรถยนต์ 4 ล้อส่วนบุคคลที่เดินทางระหว่างจังหวัดผ่านทางด่วน
หน่วย : ล้านคันต่อวัน
0.0
1.5
2.0
2.5
1.64
21 ม.ค 25
1 พ.ย 24 1 ธ.ค 24 1 ม.ค 25
Nov 24 Dec 24 1-21 Jan 25
Total 46.96 48.61 30.79
Average/day 1.57 1.57 1.47
การท่องเที่ยวในประเทศยังเติบโตดีต่อเนื่องในช่วงต้นปี โดยจานวนผู้โดยสารเส้นทางบินภายในประเทศ
และการเดินทางระหว่างจังหวัดยังอยู่ในระดับสูง
16
การเบิกจ่ายงบลงทุนจะเป็นไปอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ 2025 รวมถึงการเปิดประมูล
และเริ่มก่อสร้างโครงการเมกะโปรเจกต์ด้านคมนาคมใหม่ ๆ จะเป็นปัจจัยหนุนการลงทุนก่อสร้างภาครัฐ
อัตราเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมของหน่วยงานกลางโดยรวม
หน่วย : %
วงเงินงบประมาณของ 4 หน่วยงานหลักของรัฐบาลที่มีการลงทุนก่อสร้างสูง
หน่วย : พันล้านบาท
0%
20
40
60
80
Oct
Nov
Dec
Jan
Feb
Mar
Apr
May
Jun
Jul
Aug
75%
77%
66%
Sep
FY2022
FY2023
FY2024
FY2025
หน่วยงาน
ที่ใช้งบลงทุนในระดับสูง
สิ้น ก.ย. สิ้น ธ.ค.
2022 2023 2024 2023 2024
กรมทางหลวง 90% 96% 80% 10% 6%
กรมทางหลวงชนบท 91% 90% 67% 3% 7%
กรมชลประทาน 83% 89% 74% 6% 16%
กรมโยธาธิการและผังเมือง 47% 42% 44% 8% 6%
กรมทางหลวง
126113
119
122 128
+5%
FY2021 FY2022 FY2023 FY2024 FY2025
กรมชลประทาน
74 77 77 81 83
+2%
กรมทางหลวงชนบท
49 46 47 48 51
+6%
กรมโยธาธิการและผังเมือง
29 31 35 38 42
+10%
ตัวอย่างโครงการเมกะโปรเจกต์ ที่คาดว่าจะเปิดประมูลในปี 2025
มูลค่าโครงการ
(พันล้านบาท)
รถไฟทางคู่ เฟส 2 จานวน 6 ช่วง 298
มอเตอร์เวย์สาย 9 วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก
ช่วงบางขุนเทียน-บางบัวทอง
56.0
ทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 ช่วงถนนประเสริฐมนูกิจ-
ถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ
17.0
รถไฟชานเมืองส่วนต่อขยายสายสีแดง ช่วงศิริราช-ตลิ่งชัน-ศาลายา 15.2
ทางพิเศษ จ.ภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงกะทู้-ป่าตอง 14.7
อาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออก 10.0
รถไฟชานเมืองส่วนต่อขยายสายสีแดง ช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 6.5
ประเด็นที่ต้องจับตา : การดาเนินการ
แก้ไขสัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูง
เชื่อม 3 สนามบิน (มูลค่าโครงการ
2.25 แสนล้านบาท)
การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และ
บริษัทเอเชีย เอรา วัน จากัด เอกชน
คู่สัญญา จะเจรจาร่างสัญญาแก้ไข และ
นาเสนอตามขั้นตอน โดยกาหนดการออก
หนังสือเริ่มงานก่อสร้างภายใน เม.ย. 2025
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของสานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, กรมบัญชีกลาง และสานักงบประมาณ
17
การใช้จ่ายภาครัฐจะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจสาคัญในปีนี้ แต่จะแผ่วลงในปีงบประมาณ 2026 ผลจากกรอบ
วงเงินงบประมาณที่เริ่มสะท้อนข้อจากัดการคลังในระยะปานกลาง
เปรียบเทียบกรอบงบประมาณรายจ่ายประจาปี 2024-2026
หน่วย : ล้านล้านบาท
คาดการณ์หนี้สาธารณะจากแผนการคลังระยะปานกลาง โดยกระทรวงการคลัง
หน่วย : % Nominal GDP, ปีงบประมาณ
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของกระทรวงการคลัง, สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และสานักงบประมาณ
0.0
0.5
1.0
1.5
2.0
2.5
3.0
3.5
4.0
FY2024 FY2025 FY2026
งบประจา งบลงทุน งบอื่น ๆ
+0.7%
งบประมาณที่ใช้
จ่ายได้จริงลดลง
(หลังหักงบชาระ
คืนหนี้ และงบ
ชาระคืนเงินคง
คลัง)
+7.8%
-2.2% 69.3
68.6
67.1
63.6
64.8
61.3
70
60
62
64
66
68
70
72
2023 2024F 2025F 2026F 2027F 2028F 2029F
นายกแพทองธาร (24 ธ.ค. 2024) นายกเศรษฐา (มติ ครม. 28 พ.ค. 2024)
นายกเศรษฐา (มติ ครม. 2 เม.ย. 2024) นายกเศรษฐา (มติ ครม. 26 ธ.ค. 2023)
นายกเศรษฐา (มติ ครม. 13 ก.ย. 2023) นายกประยุทธ์ (มติ ครม. 27 ธ.ค. 2022)
• จุดกลับตัวของหนี้สาธารณะ
มักสูงขึ้นและเลื่อนเวลาออกไป
• แผนฯ ล่าสุดไม่พบจุดกลับตัวนี้แล้ว
18
มูลค่าการส่งออกของไทยขยายตัวสูงในปี 2024 แต่มีแนวโน้มโตชะลอลงในปี 2025 จากความเสี่ยงนโยบายภาษี
นาเข้าของ Trump 2.0 ปัจจัยเศรษฐกิจจีนชะลอตัว และปัจจัยฐานสูง
หมายเหตุ : *ต้องติด 2 ใน 3 เกณฑ์ถึงจะเข้าข่าย (Watchlist) Unfair Trade กับสหรัฐฯ
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ Trademaps, กระทรวงพาณิชย์, U.S. Department of the Treasury และ The Standard Thailand
มูลค่าส่งออกของไทยในปี 2024
หน่วย : %YOY, วงเล็บ () สัดส่วนปี 2024
พัฒนาการของตลาดส่งออกหลักของไทย
หน่วย : %
การเกินดุลการค้าของไทยกับสหรัฐฯ
หน่วย : พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ; ลาดับประเทศคู่ค้าที่เกินดุลสหรัฐฯ (ขวา)
รายการ Q4 Nov Dec 2024
รวมทั้งหมด (100%) 10.5% 8.2% 8.7% 5.4%
ไม่รวมทองคา (97.1%) 8.0% 6.4% 8.7% 4.5%
1. เกษตรกรรม (9.6%) 7.1% 4.1% 10.7% 7.5%
2. อุตสาหกรรมการเกษตร (7.8%) 7.3% 7.7% 6.7% 4.1%
3. สินค้าอุตสาหกรรม (79%) 13.1% 9.5% 11.1% 5.9%
เครื่องใช้ไฟฟ้า (9.8%) 15.4% 13.8% 17.1% 3.0%
รถยนต์และส่วนประกอบ (10.3%) -6.6% 4.8% -7.2% -3.6%
คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ (8.2%) 51.5% 40.7% 43.5% 38.1%
ผลิตภัณฑ์ยาง (4.7%) 24.8% 24.8% 22.5% 7.6%
แผงวงจรไฟฟ้า (2.9%) 1.0% 3.9% -2.6% -10.5%
เครื่องจักรกล (3.4%) 31.4% 16.7% 35.6% 17.3%
เคมีภัณฑ์และพลาสติก (7.2%) 10.5% 6.1% 13.6% 3.0%
สิ่งทอ (2.1%) 6.4% 9.8% 4.7% 2.7%
4. สินค้าแร่และเชื้อเพลิง (3.6%) -20.8% -7.1% -32.0% -6.5%
น้ามันสาเร็จรูป (3.1%) -23.8% -16.3% -33.7% -9.8%
11.2
18.3
11.7
13.3
10.0
9.4
7.8
4
8
12
16
20
2017 2018 2019 2020 2021 2022 2023 2024
USA China Asean 5
CLMV EU28 Japan
20.5 21.5
28.0
37.8
47.4
43.0
37.0
15
12th
11th
0
5
10
15
0
10
20
30
40
50
2018 2019 2020 2021 2022 2023 11M24
Thai Trade Balance with U.S.
U.S. Treasury Department's Watchlist
Ranking of Trade Surplus with U.S. (RHS)
รายงาน U.S. Treasury* ระบุ 3 เกณฑ์เฝ้าระวังที่ใช้วัด Unfair Trade ในกลุ่ม Top-20 ประเทศคู่ค้าสหรัฐ : 1) เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ > 15BnUSD
2) เกินดุลบัญชีเดินสะพัด อย่างน้อย 3% ของ GDP และ 3) แทรกแซงค่าเงินแบบ persistent, one-sided ซื้อสกุลเงินต่างประเทศสุทธิติดกัน 8 ในรอบ
12 เดือน และมูลค่าซื้อสุทธิอย่างน้อย 2% ของ GDP ในรอบ 12 เดือน รายงานเดือน พ.ย. 2024 ไม่พบว่า ไทยเข้าข่าย Monitoring list ที่ติด 2 ใน 3 เกณฑ์นี้
SCB EIC มองการส่งออกไทยมีแนวโน้มชะลอลงในปี 2025 ช่วงครึ่งแรกของปีจะยังเติบโตได้ จากอุปสงค์ต่างประเทศเร่งตัว โดยเฉพาะสหรัฐฯ จากความ
กังวลด้านนโยบายภาษีนาเข้าของสหรัฐฯ ขณะที่ช่วงครึ่งหลังของปี การส่งออกมีแนวโน้มชะลอลง จากฐานสูงและเริ่มเห็นผลกระทบนโยบายทรัมป์ 2.0
ปัจจัยส่งผลต่อการส่งออกไทยในระยะสั้น :
• ข้อตกลงการค้าเสรี ไทย-สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (European Free Trade Association : EFTA) ช่วยให้ไทยมีมาตรฐานดีขึ้นและเพิ่มโอกาสการทา
ข้อตกลง FTA ของไทยกับกลุ่มประเทศต่าง ๆ ในระยะข้างหน้า เช่น EU ซึ่งจะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจไทยในหลายมิติ โดยเฉพาะภาคการผลิตและส่งออก
19
ภาพรวมตลาดแรงงานไทยทยอยฟื้นตัว สะท้อนจากจานวนชั่วโมงทางานเฉลี่ยสูงกว่าระดับก่อน COVID-19
และจานวนผู้ทางานต่าระดับลดลง สาหรับค่าจ้างฟื้นตัวเช่นกัน แต่ยังคงขยายตัวต่ากว่าอดีตมาก
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของสานักงานสถิติแห่งชาติ
จานวนชั่วโมงการทางานเฉลี่ยต่อสัปดาห์
หน่วย : ชั่วโมง/สัปดาห์
จานวนผู้ทางานต่าระดับ (ต่ากว่า 35 ชม. / สัปดาห์)
หน่วย : คน
ค่าจ้างเฉลี่ยที่แท้จริงของลูกจ้าง
หน่วย : %YOY
35
37
39
41
43
45
AVG
2014-2019
2020
2021
2022
2023
2024Q1
2024Q2
2024Q3
จานวนชั่วโมงการทางานเฉลี่ย Pre-COVID
0.47%
0.00%
0.20%
0.40%
0.60%
0.80%
1.00%
1.20%
1.40%
0
100,000
200,000
300,000
400,000
500,000
600,000
AVG
2014-2019
2020
2021
2022
2023
2024Q1
2024Q2
2024Q3
ทางานตั้งแต่ 1-34 ชม. / สัปดาห์ ทางาน 0 ชม. / สัปดาห์
Pre-COVID Underemployment rate
2.03%
1.11%
-6%
-4%
-2%
0%
2%
4%
6%
AVG
2014-2019
2021
2022Q2
2022Q4
2023Q2
2023Q4
2024Q2
เอกชน ภาพรวม Pre-COVID
3.5% 1.1%
Pre-COVID
(AVG 2014-2019)
Q3-2024
252.7k 191.9k
Pre-COVID
(AVG 2014-2019)
Q3-2024
42.3 43.3
Pre-COVID
(AVG 2014-2019)
Q3-2024
20
ดัชนีการบริโภคภาคเอกชนแผ่วลง โดยเฉพาะสินค้าคงทน ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ธ.ค. ดีขึ้น 3 เดือน
ติดต่อกัน จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้เพิ่มเติม
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย, มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และ CEIC
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
หน่วย : ดัชนี
ดัชนีการบริโภคภาคเอกชน (Private Consumption Index) โดย ธปท.
หน่วย : ดัชนี (2019Q4 = 100), ปรับฤดูกาล
0
20
40
60
80
100
120
60
70
80
90
100
110
120
10/2019
01/2020
04/2020
07/2020
10/2020
01/2021
04/2021
07/2021
10/2021
01/2022
04/2022
07/2022
10/2022
01/2023
04/2023
07/2023
10/2023
01/2024
04/2024
07/2024
PCI Non-Durables
Semi-Durables Durables
Services Non-Residents Exp (RHS)
20
40
60
80
100
01/2018 01/2019 01/2020 01/2021 01/2022 01/2023 01/2024
CCI CCI: Present CCI: Expectations
• ดัชนีการบริโภคภาคเอกชน (PCI) เดือน พ.ย. แผ่วลง (แบบปรับฤดูกาล) เกือบทุกหมวด หลังเร่งตัวเดือนก่อนจากมาตรการเงินโอน
ภาครัฐ โดยเฉพาะหมวดสินค้าไม่คงทนลดลงตามปริมาณการจาหน่ายน้ามันเชื้อเพลิง หมวดสินค้าคงทนลดลงตามยอดขายยานยนต์ที่ต่า
ตามความเข้มงวดของการปล่อยสินเชื่อ หมวดสินค้ากึ่งคงทนลดลงเล็กน้อยตามยอดจาหน่ายสินค้า ขณะที่หมวดบริการทรงตัว รายจ่าย
นักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง แต่การใช้จ่ายคนไทยดีขึ้น
• ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CCI) เดือน ธ.ค. ปรับดีขึ้น 3 เดือนติดต่อกัน ผลจากการออกชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของภาครัฐ
อาทิ โครงการช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท แผนออกมาตรการเงินโอน 10,000 บาทให้ผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มาตรการ Easy E-receipt
กระตุ้นการบริโภคเพื่อลดหย่อนภาษีไม่เกิน 50,000 บาท และมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ “คุณสู้ เราช่วย” และมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว (เช่น
มาตรการภาษีเที่ยวเมืองรอง มาตรการฟรีวีซ่า) นอกจากนี้ ราคาพลังงานปรับลดลง ราคาสินค้าเกษตรสาคัญทรงตัวดี ช่วยเพิ่มกาลังซื้อ
ผู้บริโภค แต่ยังมีปัจจัยกดดันมาจากค่าครองชีพสูงไม่สอดคล้องกับรายได้ ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ยืดเยื้อ และความเสี่ยงสงครามการค้า
• ปัจจัยเสี่ยงของการบริโภคภาคเอกชน : รายได้ฟื้นช้า หนี้สูง และความกังวลปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ยืดเยื้อ
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับดีขึ้น 3 เดือนต่อเนื่อง
21
การลงทุนภาคเอกชนจะมีแนวโน้มฟื้นตัวแตกต่างกันมากในองค์ประกอบ ส่วนใหญ่ฟื้นตัวในการลงทุนเครื่องจักร
และอุปกรณ์ รวมถึงการลงทุนของธุรกิจขนาดใหญ่ สอดคล้องกับความเชื่อมั่นที่อยู่ในระดับสูงกว่าธุรกิจขนาดเล็ก
หมายเหตุ : อุตสาหกรรมขนาดเล็กรายได้ไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อปี ขนาดกลาง 100-500 ล้านบาทต่อปี และขนาดใหญ่ มากกว่า 500 ล้านบาทต่อปี
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย Board of Investment (BOI) และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนและองค์ประกอบโดย ธปท.
หน่วย : %YOY
การส่งเสริมการลงทุนของ Board of Investment (BOI)
หน่วย : มูลค่าโครงการ (พันล้านบาท)
ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม โดย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
หน่วย : %YOY
-40
-30
-20
-10
0
10
20
30
06/2024
07/2024
08/2024
09/2024
10/2024
11/2024
ยอดจดทะเบียนยานยนต์ใหม่
พื้นที่ได้รับอนุญาตก่อสร้าง
การจาหน่ายเครื่องจักรและ
อุปกรณ์ในประเทศ
การนาเข้าสินค้าทุน
ดัชนีการลงทุนภาคเอกชน
0
100
200
300
400
500
600
Application Application
Approved
Promotion
Certificates Issued
9M23 9M24
70
80
90
100
110
01/2023
03/2023
05/2023
07/2023
09/2023
11/2023
01/2024
03/2024
05/2024
07/2024
09/2024
11/2024
TISI: By Size: Small Enterprises
TISI: By Size: Medium Enterprises
TISI: By Size: Large Enterprises
Thai Industries Sentiment Index (TISI)
• การลงทุนภาคเอกชนยังฟื้นตัวต่อเนื่อง หลังจากหดตัวในไตรมาส 2 อย่างไรก็ดี การฟื้นตัวมีลักษณะไม่ทั่วถึง โดยการลงทุนเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ไม่รวมรถยนต์เชิงพาณิชย์ขยายตัวดีต่อเนื่อง ขณะที่การลงทุนก่อสร้างและรถยนต์
เชิงพาณิชย์ยังคงหดตัว
• ความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมโดยรวมมีทิศทางฟื้นตัว จากความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดใหญ่ที่ปรับดีขึ้นตามภาคการส่งออกในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 และการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ความเชื่อมั่น
ภาคอุตสาหกรรมขนาดเล็กยังต่า ส่วนหนึ่งจากผลกระทบการแข่งขันราคาจากสินค้าจีนนาเข้า
• ในระยะข้างหน้า แนวโน้มการฟื้นตัวของการลงทุนภาคเอกชนจะแตกต่างกันมาก โดยการฟื้นตัวจะถูกขับเคลื่อนโดยการลงทุนเครื่องจักรและอุปกรณ์ (รวมการนาเข้าจากต่างประเทศ) รวมถึงจากการลงทุนของธุรกิจใหญ่เปเนหลัก
สะท้อนจากระดับของความเชื่อมั่นที่แตกต่างกันมากระหว่างขนาดอุตสาหกรรม
22
ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) และอัตราการใช้กาลังการผลิตของไทย และดัชนีนาเข้าสินค้าจีน
หน่วย : MPI = (2021 = 100,sa); China Import Value Index (2021 = 100,sa); Cap U = % (RHS)
การผลิตอุตสาหกรรมหดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 แม้การผลิตเพื่อส่งออกปรับดีขึ้น แต่ไม่สามารถชดเชย
การหดตัวรุนแรงของการผลิตยานยนต์ได้
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของสานักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.)
Nov 24: 93.5
Dec 24: 130.4
Nov 24: 57.3
50
55
60
65
70
80
90
100
110
120
130
140
01/2023 04/2023 07/2023 10/2023 01/2024 04/2024 07/2024 10/2024
MPI China Import Value Index (USD) Capacity Utilization (RHS)
%YOY 2023 Q1/2024 Q2 Q3 Oct-24 Nov-24 YTD
MPI -3.8 -3.6 -0.2 -1.1 -0.6 -3.6 -1.8
Machinery & Equip -9.4 0.6 9.8 16.5 27.0 26.6 10.6
Beverages 0.3 6.8 7.6 -0.4 10.2 5.0 5.2
Paper & Paper Products -4.1 6.5 7.9 0.0 -1.6 -1.7 3.6
Food Products -2.4 -0.1 7.4 4.6 2.3 0.9 3.3
Chemical Products -0.7 3.5 4.8 1.9 3.9 -2.6 2.9
Fabricated Metal -13.8 -0.4 -4.2 5.0 10.9 20.7 2.8
Refined Petroleum 8.6 2.1 1.9 2.9 -1.3 1.4 1.9
Electrical Equipment -14.5 -0.8 9.3 1.1 -1.5 -5.8 1.8
Rubber & Plastic -2.4 -0.5 -0.2 3.1 5.6 0.4 1.2
Basic Metal -6.7 -5.4 4.1 -3.9 3.3 4.0 -1.0
Pharmaceuticals -8.2 -13.0 -4.0 -4.0 -1.7 -6.7 -6.8
Cement, Ceramic & Glass -3.4 -7.0 -7.9 -8.8 -4.3 -8.8 -7.7
Computer & Electronic -18.9 -17.1 -13.4 -3.2 1.0 -3.2 -9.8
Motor Vehicles 0.8 -16.3 -13.4 -17.7 -21.6 -26.7 -17.5
• การผลิตอุตสาหกรรมของไทยกลับมาหดตัวชัดเจนขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 หลังจากปรับดีขึ้นในช่วงกลาง
ปี โดยดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม (หลังปรับฤดูกาล) ในเดือน พ.ย. 2024 อยู่ในระดับต่าสุดตั้งแต่ปี 2021
• อัตราการใช้กาลังการผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับลดลงอยู่ในระดับต่ากว่า 60% สอดคล้องกับการผลิต
ภาคอุตสาหกรรม ซึ่งทาให้แนวโน้มในการลงทุนขยายกาลังการผลิตของโรงงานที่มีอยู่เดิมมีน้อยลง
• การผลิตหมวดยานยนต์หดตัวแรงขึ้นในช่วงท้ายปี 2024 ตามตลาดรถยนต์ที่ซบเซา ทาให้การผลิตอุตสาหกรรม
ในภาพรวมยังหดตัว เนื่องจากการผลิตยานยนต์มีน้าหนักกว่า 11% ของดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมไทย
• หมวดผลิตที่เน้นการส่งออกปรับดีขึ้นชัดเจน โดยหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ขยายตัวสูงขึ้นในช่วงครึ่งหลัง
ของปี 2024 ขณะที่หมวดอิเล็กทรอนิกส์หดตัวน้อยลงกว่าช่วงครึ่งปีแรก
23
23
ราคาน้ามันดิบ Brent
หน่วย : USD/Barrel
ตลาดพลังงานโลกในช่วงเดือน ม.ค. ราคาปรับสูงขึ้น จากปัจจัยความต้องการพลังงานในฤดูหนาวและความเสี่ยง
ภูมิรัฐศาสตร์ จากมาตรการคว่าบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซียที่มุ่งเน้นไปยัง Shadow fleet
ราคาก๊าซธรรมชาติ Henry hub
หน่วย : USD/MMBtu
5-yr avg 2022 2023 2024 2025F
57.1 100.9 82 80 75
5-yr avg 2022 2023 2024 2025F
2.8 6.6 2.7 2.45 3.97
0
2
4
6
8
10
2016 2017 2018 2019 2020 2021 2022 2023 2024
0
20
40
60
80
100
120
140
2016 2017 2018 2019 2020 2021 2022 2023 2024
• Demand : EIA คาดการณ์ว่าในปี 2025 ปริมาณการผลิตน้ามันและเชื้อเพลิงเหลวทั่วโลกเฉลี่ยอยู่ที่
104.4- 104.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่ความต้องการใช้น้ามันโลกเฉลี่ยคาดว่าจะอยู่ที่ 104 ล้านบาร์เรล
ต่อวัน สะท้อนอุปทานน้ามันเกินความต้องการราว 0.4-0.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน
• Supply : สหรัฐฯ ประกาศมาตรการคว่าบาตรรัสเซียครั้งใหม่ โดยมุ่งที่ Shadow fleet ส่งผลกระทบต่อ
การส่งออกน้ามันของรัสเซียประมาณ 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน (ราว 1% ของ Supply โลก)
• ผลกระทบต่อราคาน้ามันดิบ Brent : เพิ่มขึ้นมากกว่าระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 เดือนที่ 81 ดอลลาร์ต่อ
บาร์เรลหลังประกาศมาตรการคว่าบาตรใหม่ แต่คาดว่าผลกระทบจะเกิดในระยะสั้น เนื่องจากรัสเซีย
อาจปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาการส่งออกน้ามัน เช่น จัดหาเรือบรรทุกน้ามันที่ไม่ถูกคว่าบาตร
• Supply IEA รายงานว่า การผลิตอยู่ในภาวะตึงตัว เนื่องจากความล่าช้าในการเปิดโครงการ Regas ใหม่
• การหยุดส่งก๊าซรัสเซียผ่านยูเครนตั้งแต่ 1 ม.ค. 2025 ซึ่งเปเนเส้นทางหลักในการจัดหาพลังงานให้หลาย
ประเทศในยุโรปกลาง เช่น สโลวาเกีย ออสเตรีย และมอลโดวา ทาให้เกิดภาวะอุปทานตึงตัว
• Seasonal demand : ราคาก๊าซจะยังอยู่ในระดับสูง แม้สหภาพยุโรปเตรียมก๊าซไว้เกือบเต็ม Storage
ที่ราว 90% แล้ว เนื่องจาก Seasonal demand การเข้าสู่ฤดูหนาว
• อย่างไรก็ตาม สงครามยูเครนและรัสเซียมีโอกาสสิ้นสุดลง จากแนวนโยบายของทรัมป์ในการลดการ
ให้ความช่วยเหลือยูเครน และการเตือนรัสเซียไม่ให้ยกระดับสงครามไปมากกว่านี้
หมายเหตุ : 5-year period = 2015-2019; ข้อมูลและการวิเคราะห์จากสถานการณ์ ณ เดือน เม.ย. 2024
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ Bloomberg, TradingView, Goldman Sachs, US EIA, JP Morgan และสานักข่าวต่าง ๆ
24
24
ราคาขายปลีกและต้นทุนน้ามัน น้ามันดีเซล และก๊าซหุงต้มฯ 15 กก.
คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ามันเชื้อเพลิง (กบน.) ยังคงพยายามไม่ให้ราคาน้ามันดีเซลสูงเกิน 33 บาทต่อลิตร
แต่เนื่องจากระดับราคาน้ามันดิบโลกสูงขึ้น ทาให้ต้องใช้กลไกชดเชยราคาจากกองทุนน้ามันอีกครั้ง
ราคาก๊าซหุงต้มถัง 15 กก. (บาท/15กก.)
ราคาน้ามันดีเซล (บาท/ลิตร)
0
100
200
300
400
500
600
700
2019 2020 2021 2022 2023 2024
ราคาขายจริง
หักการช่วยเหลือ
ของกองทุนน้ามัน
ราคาหน้าโรงกลั่น
ราคาขายจริง
หักการช่วยเหลือ
ของกองทุนน้ามัน
ราคาหน้าโรงกลั่น
0
10
20
30
40
50
2019 2020 2021 2022 2023 2024
รัฐบาลมีมติตรึงราคาน้ามันดีเซลอยู่ที่ 33 บาท/ลิตร
ตั้งแต่ มี.ค. 2023 รัฐบาลมีมติตรึงราคาก๊าซหุงต้มฯ ที่ 423 บาท/ถัง
15 กก. และได้ต่ออายุมาตรการไปจนถึงสิ้นเดือน มี.ค. 2025
• กองทุนน้ามันเชื้อเพลิงมีสถานะดีขึ้นจากราคา
น้ามันในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง ล่าสุด ณ 19
ม.ค. 2025 ติดลบรวม -73,545 ล้านบาท มาจาก
บัญชีน้ามันติดลบ -26,876 ล้านบาท และบัญชี
ก๊าซหุงต้ม (LPG) ติดลบ -46,669 ล้านบาท
นับเปเนการติดลบน้อยลงในรอบสองปี
• มาตรการตรึงราคาดีเซลไม่ให้เกิน 33 บาทต่อลิตร
สิ้นสุด 31 ต.ค. 2024 แต่เนื่องจากราคาน้ามันดิบ
โลกปรับเพิ่มขึ้น 80 USD/bbl กบน. จึงพิจารณา
ชดเชยราคาน้ามันดีเซล 50 สตางค์ต่อลิตรอีกครั้ง
• มาตรการขยายระยะเวลาการตรึงราคาขายปลีก
ก๊าซหุงต้ม (LPG) ที่ 423 บาท ต่อถัง 15
กิโลกรัม จนถึง 31 มี.ค.
• คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างหลักการ
กาหนดราคาคาร์บอนจากสินค้าน้ามันและ
ผลิตภัณฑ์น้ามัน 0.55 บาทต่อลิตร
o ภาษีคาร์บอน 0.55 บาทนี้ รวมในภาษี
สรรพสามิตที่จัดเก็บอัตราลิตรละ 6.44 บาท
อยู่แล้ว จึงไม่มีผลทาให้ราคาขายปลีกน้ามัน
เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตาม Phase
ถัดไปของการปรับใช้อัตราภาษีนี้
สถานะกองทุนน้ามันฯ ณ สิ้นเดือน (ล้านบาท)
หมายเหตุ : ข้อมูลและการวิเคราะห์จากสถานการณ์ ณ เดือน เม.ย. 2024; กองทุนน้ามันอุดหนุนราคาน้ามันเชื้อเพลิงและก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือน
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ EPPO, DOEB, OFFO, CEIC และสานักข่าวต่าง ๆ
-160,000
-140,000
-120,000
-100,000
-80,000
-60,000
-40,000
-20,000
0
20,000
40,000
60,000
2011 2012 2013 2014 2015 2016 2017 2018 2019 2020 2021 2022 2023 2024
Oil fund
25
ในกรณีฐานค่าไฟฟ้าเฉลี่ยปี 2025 มีแนวโน้มลดลงเหลือ 4.04 บาทต่อหน่วย และจะเหลือ 3.85 บาทในกรณีรัฐลดค่า
ไฟเหลือ 3.70 บาท จากการลดการอุดหนุน (Adder) โรงไฟฟ้าที่คืนทุนแล้ว และลดต้นทุนระบบสายส่งและเชื้อเพลิง
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ ERC, EPPO, EGAT, Bloomberg, TDRI และ FTI
SCB EIC คาดว่า ในกรณีฐาน ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยปี 2025 จะอยู่ที่ 4.04 บาทต่อหน่วย (ลดลง 0.1 บาทต่อหน่วย
จากประมาณการรอบก่อน) จากปัจจัยดังนี้
1) การปรับลดค่าไฟฟ้าส่วนของค่าใช้จ่ายตามนโยบายรัฐ ตามที่ กกพ. เสนอ ได้แก่ ลดการอุดหนุน
ราคารับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (กลุ่มที่มี adder และ กลุ่ม FiT) ซึ่งจะทาให้ค่าไฟฟ้าลดลงได้
0.17 บาทต่อหน่วย เหลือ 3.98 บาทต่อหน่วยในงวดเดือน พ.ค.- ธ.ค. 2025 (ลดลงจาก 4.15 บาท
ต่อหน่วย ในช่วงเดือน ม.ค.- เม.ย. 2025)
2) ต้นทุนก๊าซธรรมชาติมีแนวโน้มลดลง อยู่ที่ระดับ 12-13 USD/MMBTU และ Pool gas ปรับลดลง
อยู่ในช่วง 300-310 THB/MMBTU ตามประมาณการของ กกพ.
3) ทยอยคืนต้นทุนค้างชาระ (AF) ของ กฟผ. และ ปตท. ที่ 0.23 บาทต่อหน่วย
ในกรณีรัฐลดค่าไฟเหลือ 3.70 บาทต่อหน่วย (ตามที่อดีตนายกฯ ทักษิณประกาศ) ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยปี 2025
จะอยู่ที่ 3.85 บาทต่อหน่วย ทางเลือกดาเนินการมีดังนี้
1) ลดต้นทุนของระบบสายส่งและระบบจาหน่ายไฟฟ้าในค่าไฟฟ้าฐานลงราว 30-37% จากต้นทุน
ปัจจุบัน (ลดค่าไฟฟ้าได้ 0.21-0.28 บาทต่อหน่วย)
2) ขยายเวลาคืนต้นทุนเชื้อเพลิงค้างชาระ (AF) ของ กฟผ. และ ปตท. (ลดค่าไฟฟ้าได้ 0.1-0.2 บาท
ต่อหน่วย)
3) ปรับลดต้นทุนเชื้อเพลิงโดยเปิดให้แข่งขันการนาเข้าก๊าซฯ เสรีเพื่อแข่งขันด้านราคามากขึ้น
และลดค่าผ่านท่อและแปรสภาพก๊าซสาหรับระบบท่อเก่าที่คืนทุนแล้ว แต่อาจต้องใช้เวลา
ไม่ต่ากว่า 1 ปี ในการปรับปรุงระเบียบและกฎหมายกิจการก๊าซฯ
4) ปรับโครงสร้างราคารับซื้อและต้นทุนการผลิตสาหรับโรงไฟฟ้า IPP/SPP ที่คืนทุนแล้ว
โดยทบทวนสัญญา แต่อาจต้องใช้เวลาไม่ต่ากว่า 1 ปีในการเจรจาสัญญาใหม่จนแล้วเสร็จ
ค่าไฟฟ้าปี 2024 และประมาณการค่าไฟฟ้าราย 4 เดือน ปี 2025
หน่วย : บาท/หน่วย
4.18 4.15
4.15
3.98 3.98
4.15
3.70 3.70
3.40
3.60
3.80
4.00
4.20
4.40
4.60
ค่
า
ไฟฟ้
า
เฉลี
่
ย
กรณีฐาน (ลด adder & FiT)
กรณีภาครัฐลดค่าไฟเหลือ 3.70 บาทต่อหน่วย (ลด adder & FiT และลดต้นทุนด้านโครงสร้าง)
2024 Jan-Apr 25 May-Aug 25 Sep-Dec 25
ค่าไฟฟ้ารายปี ปี 2020-2024 และประมาณการค่าไฟฟ้า 2025
หน่วย : บาท/หน่วย
3.63 3.60 4.16
4.61
4.18
4.04
4.18
3.85
3.50
4.00
4.50
5.00
2020 2021 2022 2023 2024 2025
ค่
า
ไฟฟ้
า
เฉลี
่
ย
กรณีฐาน (ลด Adder & FiT)
กรณีภาครัฐลดค่าไฟเหลือ 3.70 บาทต่อหน่วย (ลด adder & FiT และลดต้นทุนด้านโครงสร้าง)
26
เงินเฟ้อทั่วไปกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในเดือน ธ.ค. ขณะที่ภาพรวมปี 2025 มีความเสี่ยงด้านต่าเพิ่มขึ้น จากราคา
พลังงาน โดยเฉพาะค่าไฟฟ้าที่มีแนวโน้มลดลงและมาตรการช่วยค่าครองชีพด้านพลังงานยังดาเนินไปอย่างต่อเนื่อง
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์
แหล่งที่มาการขยายตัวของเงินเฟ้อไทย
หน่วย : %YOY
อัตราเงินเฟ้อทั่วไป รายหมวดสินค้า
หน่วย : %
%YOY Aug-24 Sep-24 Oct-24 Nov-24 Dec-24 YTD
ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป 0.4% 0.6% 0.8% 0.9% 1.2% 0.4%
อาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 1.8% 2.3% 1.9% 1.3% 1.3% 0.8%
อาหารสด 1.9% 2.3% 1.6% 0.2% 0.2% 0.1%
เนื้อสัตว์ -2.9% -2.1% 0.1% 0.3% -0.6% -6.9%
อาหารบริโภค-ในบ้าน 1.9% 2.1% 1.8% 1.8% 1.9% 1.3%
อาหารบริโภค-นอกบ้าน 1.7% 2.8% 3.0% 2.8% 2.9% 1.5%
เครื่องนุ่งห่มและรองเท้า -0.6% -0.7% -0.5% -0.5% -0.5% -0.4%
เคหสถาน -0.9% 0.4% 0.4% 0.4% 0.4% -0.2%
ไฟฟ้า เชื้อเพลิง น้าประปาและแสงสว่าง -3.3% 1.4% 1.5% 1.5% 1.4% -0.9%
การตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล 0.0% -0.1% -0.6% -0.3% -0.4% 0.1%
พาหนะ การขนส่ง และการสื่อสาร -1.0% -1.8% -0.3% 1.4% 2.7% 0.4%
การบันเทิงการอ่าน การศึกษา
และการศาสนา
0.6% 0.6% 0.6% 0.5% 0.4% 0.5%
ยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ 1.6% 1.3% 0.9% 0.8% 0.8% 1.2%
ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน 0.6% 0.8% 0.8% 0.8% 0.8% 0.6%
ดัชนีราคาหมวดพลังงาน (Energy CPI)
หน่วย : Index 2015 =100
กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ
2.67%
-2.00%
0.00%
2.00%
4.00%
6.00%
8.00%
Jan-23
Mar-23
May-23
Jul-23
Sep-23
Nov-23
Jan-24
Mar-24
May-24
Jul-24
Sep-24
Nov-24
Core contribution Energy contribution Raw food contribution
Headline Core
เงินเฟ้อเริ่มกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในเดือน ธ.ค. ครั้งแรกในรอบ 7 เดือน
โดยตลอด 20 เดือนที่ผ่านมาเงินเฟ้อไทยอยู่ในกรอบ 1-3% เพียง 2 เดือน
115
120
125
130
01/2024
03/2024
05/2024
07/2024
09/2024
11/2024
ค่าเฉลี่ย 1Q24
• ในช่วง Q1 เงินเฟ้ออาจขยายตัวสูงขึ้น
จากดัชนีราคาหมวดพลังงานที่มีแนวโน้ม
เติบโตสูงกว่าปีก่อนจากปัจจัยฐาน
• ภาพรวมเงินเฟ้อไทยในปี 2025 มีความเสี่ยง
ด้านต่าเพิ่มขึ้น จากค่าไฟฟ้าที่มีแนวโน้มลดลง
และมาตรการช่วยค่าครองชีพด้านพลังงาน
ยังดาเนินไปอย่างต่อเนื่อง
27
การสื่อสารของ กนง. (ณ ม.ค. 2025) ทาให้ SCB EIC มองว่าแนวโน้มในการลดดอกเบี้ยในช่วงต้นปีลดลง
• กนง. เน้นว่า การลดอัตราดอกเบี้ยในภาวะความไม่แน่นอนสูง จะมีประสิทธิผลในการกระตุ้น
เศรษฐกิจจากัด
• กนง. มองว่า ความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทยจะกระจุกตัวในช่วงครึ่งปีแรก จึงจาเปเนต้องเก็บรักษา
policy space ในการลดดอกเบี้ยไว้ก่อน
SCB EIC มองว่าความเปราะบางของอุปสงค์ในประเทศ ความตึงตัวของภาวะสินเชื่อที่มีอยู่เดิม
ประกอบกับความเสี่ยงด้านลบของเศรษฐกิจไทยจะชัดเจนขึ้นในช่วงกลางปี และจะเปเนปัจจัยที่ทาให้
กนง. พิจารณาลดดอกเบี้ยลงเพื่อผ่อนคลายนโยบายการเงินลง เตรียมความพร้อมให้เศรษฐกิจไทย
เผชิญผลลบจากนโยบายการค้าสหรัฐฯ ที่จะชัดเจนขึ้นในครึ่งหลังของปี
SCB EIC มองว่า กนง. ยังมีโอกาสลดดอกเบี้ยในช่วงกลางปีนี้ เมื่อความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทยชัดเจนขึ้น
หมายเหตุ : (1) ยอดคงค้างสินเชื่อ ธพ. ตัวรวม ประกอบด้วย สินเชื่อธุรกิจ สินเชื่อครัวเรือน สินเชื่อ Interbank และภาครัฐ
(2) ข้อมูลมาตรฐานการให้สินเชื่อจาก Credit Conditions Survey โดยธนาคารแห่งประเทศไทย สาหรับมาตรฐานการให้สินเชื่อส่วนบุคคล (Individual) เปเนการถัวเฉลี่ยตามยอดคงค้างสินเชื่อแต่ละประเภท ณ ไตรมาสนั้น ๆ
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย
กนง. มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยในไตรมาส 1
สินเชื่อธนาคารพาณิชย์หดตัวเกือบตลอดปี 2024
ในครึ่งปีหลัง กนง. มีโอกาสลดดอกเบี้ยเพื่อรองรับความเสี่ยงเศรษฐกิจไทย
มาตรฐานการให้สินเชื่อรายย่อยเข้มงวดต่อเนื่อง
ยอดคงค้างสินเชื่อธนาคารพาณิชย์
หน่วย : %YOY
มาตรฐานการให้สินเชื่อของสถาบันการเงิน
หน่วย : Z-score, 4QMA
-0.9
0.8
-2.0
-6
-2
2
6
10
04/2021
07/2021
10/2021
01/2022
04/2022
07/2022
10/2022
01/2023
04/2023
07/2023
10/2023
01/2024
04/2024
07/2024
10/2024
Total Business Individual
ยอดคงค้างสินเชื่อรวม
ของธนาคารพาณิชย์หดตัวเกือบตลอดปี 2024
-1
0
1
Q1-21 Q3-21 Q1-22 Q3-22 Q1-23 Q3-23 Q1-24 Q3-24
Corporate Individual
เข้มงวดขึ้น
ผ่อนคลายลง
0 = ค่าเฉลี่ยอดีต
28
US Treasury yields ลดลงและดัชนีเงินดอลลาร์อ่อนค่า หลัง Trump มีท่าทีผ่อนคลายต่อมาตรการ Tariffs
และ ตลาดเกิดภาวะ Risk-off ทาให้เกิด Correction ต่อสินทรัพย์สหรัฐฯ ที่มี Valuation สูงมากในช่วงก่อนหน้า
ค่าเงินบาทในปี 2024
หน่วย : บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ตลาดการเงินโลกผันผวนจากนโยบาย Trump’s Tariff และข่าว DeepSeek
เงินทุนเคลื่อนย้ายสู่ตลาดการเงินไทย
หน่วย : พันล้านบาท
100.0
102.0
104.0
106.0
108.0
110.0
32.0
34.0
36.0
38.0
Jan-24
Feb-24
Mar-24
Apr-24
May-24
Jun-24
Jul-24
Aug-24
Sep-24
Oct-24
Nov-24
Dec-24
Jan-25
USDTHB Dollar index
-110
-60
-10
40
90
Apr-22
Jun-22
Aug-22
Oct-22
Dec-22
Feb-23
Apr-23
Jun-23
Aug-23
Oct-23
Dec-23
Feb-24
Apr-24
Jun-24
Aug-24
Oct-24
Dec-24
Equity market Bond market
Bn THB YTD 2024 2023 2022
Equity -9.5 -148 -193 +196.9
Bond -3.4 -70 -144 +46.8
• ดัชนีดอลลาร์และเงินบาทผันผวนตาม Trump’s stance ต่อมาตรการ Tariffs
• Global markets risk-off จากข่าว DeepSeek
• มองว่า Floor เงินบาทอยู่ที่ราว 33.50-33.60 ผลจากการ Price-out tariffs
เงินบาทอาจมีแนวโน้มแข็งค่ากว่านี้ หากมีปัจจัยอื่นเพิ่มเติม เช่น ตัวเลขเศรษฐกิจ
สหรัฐฯ อ่อนแอ ราคาทองคาสูงขึ้นเร็ว เงินเยนมีข่าว BOJ ขึ้นดอกเบี้ยติดต่อกัน
• ในระยะสั้น เงินบาทอาจผันผวนสูงและอ่อนค่าได้ จากคาขู่ Trump’s Tariffs และ
Fed อาจยัง Higher for longer
• ในระยะยาว เงินบาทอาจกลับมาแข็งค่าได้ หาก Fed ปรับลดดอกเบี้ยช่วงกลางปี
เพราะ Valuation ของเงินดอลลาร์สูงไปมาก
• เงินทุนเคลื่อนย้ายกลับมาไหลเข้าตลาดบอนด์ไทยอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ Trump
เข้ารับตาแหน่ง อย่างไรก็ดี Bond flows ยังไหลออกสุทธิในเดือน ม.ค. 2025
Forecasts Q1-2025 Q2-2025 Q3-2025 Q4-2025
USDTHB 34.50 35.00 34.70 34.00
ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB FM จากข้อมูลของ Bloomberg
Disclaimer
This document is made by The Siam Commercial Bank Public Company Limited (“SCB”) for the purpose of providing information summary only. Any information and analysis
herein are collected and referred from public sources which may include economic information, marketing information or any reliable information prior to the date of this
document. SCB makes no representation or warranty as to the accuracy, completeness and up-to-dateness of such information and SCB has no responsibility to verify or to proceed
any action to make such information to be accurate, complete, and up-to-date in any respect. The information contained herein is not intended to provide legal, financial or tax
advice or any other advice, and it shall not be relied or referred upon proceeding any transaction. In addition, SCB shall not be liable for any damages arising from the use of
information contained herein in any respect.
30
SCB EIC มองเศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรกยังมีแรงส่งและปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ครึ่งปีหลังจะถูกกดดันจากผลกระทบของนโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐฯ ที่จะทยอยออกมา
SCB EIC มองเศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรกยังมีแรงส่งและปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ครึ่งปีหลังจะถูกกดดันจากผลกระทบของนโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐฯ ที่จะทยอยออกมา

SCB EIC มองเศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรกยังมีแรงส่งและปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ครึ่งปีหลังจะถูกกดดันจากผลกระทบของนโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐฯ ที่จะทยอยออกมา

  • 1.
    SCB EIC Monthly SCB EICมองเศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรกยังมีแรงส่งและปัจจัยบวกจาก มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ครึ่งปีหลังจะถูกกดดันจากผลกระทบ ของนโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐฯ ที่จะทยอยออกมา Issue : January 2025
  • 2.
    2 Executive summary SCB EICประเมินโมเมนตัมเศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งแรกปีนี้จะดีต่อเนื่องจากช่วงปลายปี 2024 และยังพอมีปัจจัยบวก จากการทยอยออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ • ภาคท่องเที่ยวและบริการยังเป็นแรงส่งสาคัญ จากจานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เติบโตต่อเนื่อง แม้จะมีกระแสข่าวด้านความปลอดภัยแต่การเดินทางมาไทยของนักท่องเที่ยวจีนในช่วงเทศกาล ตรุษจีนยังเติบโตได้ดี • การส่งออกไทยในช่วงต้นปีจะขยายตัวได้ดี โดยการออกคาสั่งบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์ในช่วงนี้ประเมินว่าจะยังไม่ส่งผลลบต่อไทยมากนัก ส่วนหนึ่งจากหลายประเทศเร่งนาเข้าก่อนมาตรการ กีดกันการค้าจะมีทีท่ารุนแรงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 • การใช้จ่ายภาครัฐจะขยายตัวสูงตามการเบิกจ่ายงบประมาณที่ทาได้ต่อเนื่องจะเป็นอีกแรงส่งสาคัญ นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกจะยังมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐ อย่างไรก็ดี SCB EIC มองเศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งหลังของปีจะขยายตัวชะลอลง สาเหตุสาคัญมาจากผลมาตรการกีดกันการค้าของสหรัฐฯ ที่จะกระทบการค้าโลกรุนแรงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง กดดันการ ส่งออกไทย อีกทั้ง ช่วงนี้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะทยอยหมดไป ประกอบกับภาวะการเงินที่ยังมีแนวโน้มตึงตัว โดยเฉพาะการเข้าถึงสินเชื่อของลูกหนี้รายย่อยซึ่งยังคงมีความท้าทายอยู่ ส่งผลให้การ บริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มแผ่วลงในช่วงครึ่งหลังของปี สาหรับเงินเฟ้อในภาพรวมปี 2025 มีความเสี่ยงด้านต่าเพิ่มขึ้นจากราคาพลังงาน ทั้งจากราคาน้ามันในตลาดโลก ราคาค่าไฟฟ้าที่มีแนวโน้มลดลง รวมทั้งมาตรการช่วยค่าครองชีพด้านพลังงานที่คาดว่า จะยังมีอย่างต่อเนื่อง พัฒนาการเศรษฐกิจโลกไตรมาส 4 ปี 2024 ได้รับผลบวกจากแรงกดดันเงินเฟ้อที่ลดลงและการเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง นาโดยสหรัฐฯ ที่ขยายตัวแข็งแกร่งกว่าคาด SCB EIC ยังคงมุมมองว่าเศรษฐกิจ โลกในปีนี้จะเติบโตชะลอลงจากปีก่อนจากนโยบาย Trump 2.0 สาหรับภาพรวมการดาเนินนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ยังสอดคล้องกับที่ SCB EIC ประเมินไว้ โดยเริ่มออกคาสั่งบริหารจานวนมากเพื่อเร่ง แก้ปัญหาในประเทศ โดยเฉพาะการจัดการผู้อพยพผิดกฎหมาย และการปรับเปลี่ยนนโยบายด้านพลังงาน แต่ยังไม่มีคาสั่งขึ้นภาษีนาเข้าที่ชัดเจนเพื่อใช้เปเนเครื่องมือต่อรองกับประเทศคู่ค้า เงินเฟ้อในประเทศเศรษฐกิจหลักจะทรงตัวสูงกว่าเป้าในช่วงต้นปี 2025 จากต้นทุนการผลิตและค่าจ้างที่ขยายตัว โดยเฉพาะเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่มีความเสี่ยงเร่งขึ้นจากนโยบาย Trump 2.0 SCB EIC จึงยังคง มุมมองนโยบายการเงินธนาคารกลางหลักปีนี้ว่าจะเห็นความแตกต่างกันมากขึ้นและมีความไม่แน่นอนสูง โดย Fed มีแนวโน้มลดดอกเบี้ยรวมเพียง 50 BPS ในปีนี้จากความกังวลกับความเสี่ยงเงินเฟ้อ แต่ ECB กลับจะมีแนวโน้มเร่งลดดอกเบี้ยรวม 125 BPS จากเศรษฐกิจที่อ่อนแอกว่าและเงินเฟ้อที่ต่ากว่า ขณะที่ BOJ มีแนวโน้มปรับดอกเบี้ยขึ้นรวม 50 BPS จากมุมมองเงินเฟ้อสูงขึ้นและเงินเยนอ่อนค่า SCB EIC ปรับมุมมอง กนง. จะลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง แต่จะเลื่อนออกไปเป็นช่วงกลางปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังจากที่ กนง. มีข้อมูลประเมินผลกระทบนโยบาย Trump 2.0 ต่อเศรษฐกิจไทยชัดขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเห็นทิศทางเศรษฐกิจไทยปีนี้เติบโตชะลอลงต่ากว่าศักยภาพ • การสื่อสารของ กนง. เมื่อต้นเดือน ม.ค. สะท้อนโอกาสลดดอกเบี้ยช่วงต้นปีลดลง โดยย้าว่าการลดดอกเบี้ยในภาวะความไม่แน่นอนสูง จะมีประสิทธิผลจากัด • ความเปราะบางของอุปสงค์ในประเทศ ภาวะสินเชื่อตึงตัว และความเสี่ยงด้านลบของเศรษฐกิจไทยที่จะชัดเจนขึ้น เปเนปัจจัยที่ กนง. จะพิจารณาลดดอกเบี้ยเพื่อผ่อนคลายนโยบายการเงินลงอีก และเตรียมความพร้อมเศรษฐกิจไทยที่อาจเผชิญผลลบจากนโยบายการค้าสหรัฐฯ ชัดเจนขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี
  • 3.
    3 ที่มา :การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ S&P Global, J.P. Morgan, U.S. Energy Information Administration และ CEIC ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) โลกในช่วง 4Q24 หน่วย : ดัชนี, >50 สะท้อนการขยายตัว อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของ Selected Advanced Economies หน่วย : %YOY เงินเฟ้อทรงตัวสูงจากต้นทุนเพิ่มขึ้น ค่าจ้างโต ราคาน้ามันหดตัวน้อยลง หน่วย : แกนซ้าย (%YOY), แกนขวา (>50 ขยายตัว) 49.4 50.0 49.6 53.1 53.1 53.8 52.3 52.4 52.6 40 45 50 55 Manufacturing Service All-industry Oct-24 Nov-24 Dec-24 2.7 2.2 2.5 0 2 4 6 8 10 12 03/2022 06/2022 09/2022 12/2022 03/2023 06/2023 09/2023 12/2023 03/2024 06/2024 09/2024 12/2024 US Eurozone UK -21.0 -5.0 4.6 56 50 52 54 56 58 -25 -20 -15 -10 -5 0 5 10 15 01/2024 02/2024 03/2024 04/2024 05/2024 06/2024 07/2024 08/2024 09/2024 10/2024 11/2024 12/2024 Brent (LHS) US Wage (LHS) All-industry PMI: Input prices (RHS) เศรษฐกิจโลกปรับดีขึ้นในไตรมาส 4 ปี 2024 นาโดยสหรัฐฯ หลังแรงกดดันเงินเฟ้อลดลงและธนาคารกลางหลักเริ่มเข้าสู่ วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง อย่างไรก็ดี เงินเฟ้อโลกเริ่มทรงตัวสูงกว่าเป้าหมาย จากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น โดยเฉพาะสหรัฐฯ
  • 4.
    4 Trump ออกคาสั่งบริหารจานวนมากหลังเข้ารับตาแหน่ง เน้นยกเลิกคาสั่งBiden ปฏิรูปรัฐบาลกลาง จัดการ ผู้อพยพ และสนับสนุนพลังงานฟอสซิล อย่างไรก็ดี แนวนโยบายกีดกันการค้ายังไม่ชัดเจน เน้นการขู่เพื่อต่อรอง หมายเหตุ : *ตัวเลขดุลการค้าจาก US Census 11 เดือนแรกของปี 2024 ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ National Law Review โดย Sheppard, Mullin, Richter & Hampton LLP, Bloomberg และ Reuters คาสั่งบริหารสาคัญที่เกี่ยวกับนโยบายในประเทศ นโยบาย Tariff เน้นข่มขู่บางประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ สูง Trump ออกคาสั่งบริหารจานวนมาก เน้นยกเลิกคาสั่ง Biden Trump’s Executive Order (ณ 23 ม.ค. 2025) 2 4 4 5 10 16 19 55 Trade US Economy Science & Technology Foreign Affairs Health & Covid-19 Energy & Climate Immigration & National Security US Government & Politics คาสั่งใหม่ ยกเลิกคาสั่งเก่า หมายเหตุ : รวบรวมโดย Sheppard, Mullin, Richter & Hampton LLP เผยแพร่ทาง National Law Review และจัดหมวดหมู่เพิ่มโดย SCB EIC สาหรับ US Government & Politics เปเนหมวดรวมนโยบายด้านสังคมและการเมือง ครอบคลุมการปรับนโยบาย ลูกจ้างภาครัฐ ประเด็นสังคม การเมือง กระบวนการยุติธรรม สัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม ความหลากหลายในที่ทางาน การปฏิรูปรัฐบาลกลาง • งดรับลูกจ้างภาครัฐเพิ่ม ยกเว้นหน่วยงานความมั่นคง • ตั้ง Department of Government Efficiency (DOGE) • งดการออก Regulation ใหม่จนกว่าจะมีการทบทวน ชายแดนและผู้อพยพ • ประกาศภาวะฉุกเฉินชายแดนเม็กซิโก และส่งหน่วยงานความ มั่นคงเข้าประจาการ • งดรับผู้ลี้ภัยเพิ่มเติม นโยบายพลังงาน และ Climate • ถอนตัวจาก Paris Agreement อีกครั้ง • ยกเลิกคาสั่ง Biden บางส่วนที่สนับสนุน Green economy เช่น เป้าหมายสัดส่วนการจาหน่ายรถ EV ในประเทศ • ยกเลิกคาสั่ง Biden บางส่วนที่ควบคุมการใช้และผลิต Fossil fuel เช่น ห้ามขุดเจาะนอกชายฝั่ง นโยบายการค้า • ทบทวน Unfair and unbalanced trade ภายใน 1 เม.ย. เน้น : • การขาดดุลทางการค้าของสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง • การแทรกแซงค่าเงินของประเทศคู่ค้า • ประเทศต้นตอผู้อพยพผิดกฎหมายและยาเสพติด • การปกป้องอุตสาหกรรมที่เปเนความมั่นคงของชาติ เม็กซิโก (สัดส่วนการนาเข้าของสหรัฐฯ อันดับ 1*) US ขู่ขึ้น Tariff : 25% เริ่ม 1 ก.พ. ข้อกล่าวหา : เปเนทางผ่านการลักลอบนาเข้าผู้ อพยพผิดกฎหมายและยาเสพติด แคนาดา (เกินดุลสหรัฐฯ อันดับ 2) US ขู่ขึ้น Tariff : 25% เริ่ม 1 ก.พ. ข้อกล่าวหา : เปเนทางผ่านของการลักลอบนาเข้า ผู้อพยพผิดกฎหมายและยาเสพติด เป็นข้อกล่าวหา แคนาดา โดยไม่มีมูล อาจนาไปสู่ การทบทวน ข้อตกลง USMCA จีน (เกินดุลสหรัฐฯ อันดับ 3) US ขู่ขึ้น Tariff : 10% เริ่ม 1 ก.พ. ข้อกล่าวหา : เปเนต้นทางผลิตยาเสพติดและ ส่งไปสหรัฐฯ ผ่านเม็กซิโกและแคนาดา เป็นประเด็น ต่อเนื่องจาก เม็กซิโกและ แคนาดา คาดว่า จะมีการขู่เพิ่ม ยุโรป (เยอรมนี เกินดุลสหรัฐฯ อันดับ 4 ขณะที่ UK เนเธอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ อิตาลี และฝรั่งเศส อยู่ใน 15 อันดับแรก) US ขู่ขึ้น Tariff : ไม่ชัดเจน ข้อกล่าวหา : การเอาเปรียบทางการค้า อาจเกี่ยวพัน ค่าใช้จ่าย ทางการทหาร ของ NATO ในระยะต่อไป
  • 5.
    5 Chief Economists Surveyจาก World Economic Forum Jan25 ส่วนใหญ่มองนโยบาย Trump 2.0 จะส่ง ผลลบต่อเศรษฐกิจโลกทั้งระยะสั้นและยาว แต่จะกระทบเศรษฐกิจสหรัฐฯ ระยะกลางและยาว และเร่งเงินเฟ้อสหรัฐฯ หมายเหตุ : *ผู้ตอบแบบสอบถามอาจไม่ได้รวมผลนโยบายตอบโต้กลับของคู่ค้าอย่างเต็มที่ เนื่องจากคาถามระบุถึงผลจากนโยบายฝั่งสหรัฐฯ เท่านั้น “What will be the impact of the next US administration’s policy agenda on growth” ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ World Economic Forum 2025 (Chief Economists Survey : Nov 2024) ผลกระทบของนโยบาย Trump 2.0 ต่อเงินเฟ้อสหรัฐฯ หน่วย : % ผู้ตอบแบบสอบถาม ผลกระทบของนโยบาย Trump 2.0 ต่อเศรษฐกิจโลก ในระยะสั้น กลาง และยาว หน่วย : % ผู้ตอบแบบสอบถาม 9 9 12 59 71 53 26 18 32 6 3 3 0% 10% 20% 30% 40% 50% 60% 70% 80% 90% 100% ระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว เปเนลบ ค่อนข้างเปเนลบ เปเนกลาง ค่อนข้างเปเนบวก เปเนบวก ผลกระทบของนโยบาย Trump 2.0 ต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะสั้น กลาง และยาว* หน่วย : % ผู้ตอบแบบสอบถาม 12 9 12 21 38 41 21 26 29 38 21 12 9 6 6 0% 10% 20% 30% 40% 50% 60% 70% 80% 90% 100% ระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว เปเนลบ ค่อนข้างเปเนลบ เปเนกลาง ค่อนข้างเปเนบวก เปเนบวก 3 3 91 3 0% 20% 40% 60% 80% 100% ลดลงมาก ลดลง ไม่ส่งผลกระทบ เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้นมาก มุมมองผู้ร่วมประชุม World Economic Forum Jan 2025 : • โลกจะกีดกันการค้า การลงทุน ปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม AI, Clean tech, และ Space tech • Trump จะยังมีแนวโน้มกีดกันจีน เริ่มจากการขึ้นภาษีนาเข้า แต่ภาษีเก็บจริงจะไม่ถึง 60% ตามที่หาเสียงไว้ • นโยบายกีดกันผู้อพยพจะส่งผลลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทันที และทาให้เกิดการว่างงานรุนแรงในเม็กซิโก • สหรัฐฯ และจีนอาจร่วมมือกันหยุดสงครามในยูเครน แต่สงครามตะวันออกกลางอาจปะทุขึ้นใหม่ได้
  • 6.
    6 เศรษฐกิจสหรัฐฯ ลดความร้อนแรงลงบ้างในเดือน ม.ค.แต่ยังคงแข็งแกร่ง ผู้ประกอบการและผู้บริโภคมีความ เชื่อมั่นทางเศรษฐกิจมากขึ้น ส่วนหนึ่งจากความคาดหวังว่า Trump จะผ่อนคลายกฎระเบียบและลดภาษีในประเทศ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) สหรัฐฯ หน่วย : ดัชนี, >50 สะท้อนการขยายตัว ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ S&P Global, U.S. Census Bureau, University of Michigan, National Federation of Independent Business และ CEIC ดัชนีภาคค้าปลีกสหรัฐฯ หน่วย : %YOY ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในสหรัฐ หน่วย : ดัชนี (1966=100 สาหรับผู้บริโภค, 1986=100 สาหรับธุรกิจ) 52.8 52.4 50.1 45 50 55 60 10/2023 11/2023 12/2023 01/2024 02/2024 03/2024 04/2024 05/2024 06/2024 07/2024 08/2024 09/2024 10/2024 11/2024 12/2024 Flash Jan25 Composite Service Manufacturing 4.2 -1 0 1 2 3 4 5 10/2023 11/2023 12/2023 01/2024 02/2024 03/2024 04/2024 05/2024 06/2024 07/2024 08/2024 09/2024 10/2024 11/2024 12/2024 50 60 70 80 90 100 110 01/2022 05/2022 09/2022 01/2023 05/2023 09/2023 01/2024 05/2024 09/2024 01/2025 Consumer Sentiment Index (As of Jan25) Small Business Optimism Index (As of Dec24)
  • 7.
    7 เศรษฐกิจยูโรโซนฟื้นตัวขึ้นบ้างในเดือน ม.ค. แต่ยังขยายตัวต่าจากแรงกดดันรอบด้านมุมมองภาคเอกชนต่อ เศรษฐกิจปรับดีขึ้นบ้าง ส่วนหนึ่งมองเศรษฐกิจยูโรโซนกาลังผ่านจุดต่าสุด แต่ยังมีความเสี่ยงจาก Trump 2.0 ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ยูโรโซน หน่วย : ดัชนี, >50 สะท้อนการขยายตัว ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ S&P Global, HCOB, ZEW, ifo, European Commission และ CEIC ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในยูโรโซนปรับดีขึ้นบ้างในเดือน ม.ค. หน่วย : ดัชนี > 0 สะท้อนมุมมองที่ดี, SA 50.2 46.1 51.4 40 45 50 55 10/2023 11/2023 12/2023 01/2024 02/2024 03/2024 04/2024 05/2024 06/2024 07/2024 08/2024 09/2024 10/2024 11/2024 12/2024 01/2025 Composite Manufacturing Services -14.2 -13.9 18 0 10 20 30 40 50 60 -20 -18 -16 -14 -12 -10 -8 -6 -4 -2 0 10/2023 11/2023 12/2023 01/2024 02/2024 03/2024 04/2024 05/2024 06/2024 07/2024 08/2024 09/2024 10/2024 11/2024 12/2024 01/2025 Consumer Confidence Indicator ifo Germany Business Climate ZEW Economic Sentiment (RHS)
  • 8.
    8 เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องตามที่ BOJ คาดการณ์ไว้สะท้อนจากภาวะเศรษฐกิจรายภูมิภาคและค่าจ้างที่ดีขึ้น เริ่มกระจายในหลายมิติ อย่างไรก็ตาม เงินเฟ้อมีความเสี่ยงด้านสูงจากเยนอ่อนและแนวโน้มค่าจ้าง อาจกระทบการบริโภค ค่าจ้างลูกจ้างของญี่ปุ่น (ไม่รวมโบนัสกับค่าล่วงเวลา) หน่วย : %YoY การประเมินภาวะเศรษฐกิจและการจ้างงานรายภูมิภาค (ม.ค. 2025) โดย BOJ อัตราเงินเฟ้อญี่ปุ่น หน่วย : %YoY ภูมิภาค ภาวะเศรษฐกิจ การบริโภค Hokkaido ปรับดีขึ้นบ้าง แต่ยังอ่อนแอบางส่วน ยังคงแข็งแกร่ง แต่มีผลกระทบ บางส่วนจากราคาที่สูงขึ้น Tohoku ปรับดีขึ้น ปรับดีขึ้นบ้าง Hokuriku ปรับดีขึ้น แม้มีผลกระทบบางส่วนจาก แผ่นดินไหว ปรับดีขึ้นบ้างแม้มีผลกระทบบางส่วน จากแผ่นดินไหว Kanto- Koshinetsu ปรับดีขึ้นบ้าง แต่ยังอ่อนแอบางส่วน ปรับดีขึ้นบ้างแต่มีผลกระทบบางส่วน จากราคาที่สูงขึ้น Tokai ปรับดีขึ้นบ้าง ปรับดีขึ้นบ้าง แต่ยังอ่อนแอบางส่วน Kinki ปรับดีขึ้นบ้าง แต่ยังอ่อนแอบางส่วน ปรับดีขึ้นบ้างแต่มีผลกระทบบางส่วน จากราคาที่สูงขึ้น Chugoku ปรับดีขึ้นบ้าง ปรับดีขึ้นบ้าง Shikoku ปรับดีขึ้นบ้าง ยังคงแข็งแกร่งแต่มีผลกระทบ บางส่วนจากราคาที่สูงขึ้น Kyushu- Okinawa ปรับดีขึ้นบ้าง แต่ยังอ่อนแอบางส่วน ยังคงแข็งแกร่งแต่มีผลกระทบ บางส่วนจากราคาที่สูงขึ้น -6 -4 -2 0 2 4 6 Jan-22 Mar-22 May-22 Jul-22 Sep-22 Nov-22 Jan-23 Mar-23 May-23 Jul-23 Sep-23 Nov-23 Jan-24 Mar-24 May-24 Jul-24 Sep-24 Nov-24 Basic Wage Full-Time Basic Wage Part-Time Hourly Wage Real Wage -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 Jan-22 Mar-22 May-22 Jul-22 Sep-22 Nov-22 Jan-23 Mar-23 May-23 Jul-23 Sep-23 Nov-23 Jan-24 Mar-24 May-24 Jul-24 Sep-24 Nov-24 Core-CPI (Excl. Fresh Food) New Core-CPI (Excl. Fresh Food & Energy) CPI (Excl. Imputed Rent) วัฏจักรเชิงบวกระหว่างค่าจ้างและเงินเฟ้อแข็งแกร่งมากขึ้น ค่าจ้างมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และเริ่มกระจายไปธุรกิจขนาดเล็ก และกลาง (จ้างงานราว 70% ของตลาดแรงงาน) และหลายภาค การผลิต ช่วยสนับสนุนให้การบริโภคมีแนวโน้มฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม ในระยะข้างหน้า เงินเฟ้อญี่ปุ่นมีความเสี่ยงด้านสูง จากเงินเยนอ่อนค่าและค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น โดย BOJ (ม.ค. 2025) ปรับประมาณการเงินเฟ้อญี่ปุ่น (Core CPI) FY24 ขึ้นเปเน 2.7% (จาก 2.5%) และ FY25 เปเน 2.4% (จาก 1.9%) ซึ่งอาจเพิ่มแรง กดดันต่อการฟื้นตัวของการบริโภคที่ยังคงเปราะบาง ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ CEIC, Ministry of Health, Labour, and Welfare, BOJ, The Japan Chamber of Commerce and Industry, Statistics Bureau of Japan และสานักข่าวต่างประเทศ
  • 9.
    9 แรงส่งเศรษฐกิจจีนแผ่วลงบ้างในเดือน ม.ค. แต่ในระยะสั้นยังมีแนวโน้มขยายตัวดีจากมาตรการสนับสนุนภาครัฐ และการเร่งผลิตเพื่อส่งออกอย่างไรก็ดี เศรษฐกิจจีนมีความเสี่ยงสูงจากผลกระทบ Trump 2.0 ช่วงครึ่งปีหลัง ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ National Bureau of Statistics, The Central People's Government, General Administration of Customs, S&P Global และ CEIC เศรษฐกิจจีนปี 2024 เติบโตได้ 5% ตามเป้าหมายรัฐบาลกลาง หน่วย : %YOY มูลค่าค้าปลีกสินค้าเพื่อการบริโภคและมูลค่าส่งออกสินค้าของจีน หน่วย : %YOY, SA 5 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 2015 2016 2017 2018 2019 2020 2021 2022 2023 2024 GDP growth Target ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) จีน หน่วย : ดัชนี > 50 สะท้อนการขยายตัว 50.1 46 48 50 52 54 56 58 01/2023 03/2023 05/2023 07/2023 09/2023 11/2023 01/2024 03/2024 05/2024 07/2024 09/2024 11/2024 01/2025 Official S&P Global 3.9 9.1 -15 -10 -5 0 5 10 15 01/2024 02/2024 03/2024 04/2024 05/2024 06/2024 07/2024 08/2024 09/2024 10/2024 11/2024 12/2024 Retail Sales of Consumer Goods (RMB) Export (USD)
  • 10.
    10 นโยบายการเงินของธนาคารกลางหลักจะแตกต่างกันมากขึ้นและไม่แน่นอนสูง Fed จะลดดอกเบี้ยอย่างระมัดระวังความ เสี่ยงเงินเฟ้อด้าน ECB จะเร่งลดดอกเบี้ยเพื่อพยุงเศรษฐกิจ ขณะที่ BOJ มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของธนาคารกลางสหรัฐฯ, ธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางญี่ปุ่น คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ปี 2025 โดย SCB EIC หน่วย : % ต่อปี คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายยูโรโซนปี 2025 โดย SCB EIC หน่วย : % ต่อปี, Deposit rate คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายญี่ปุ่นปี 2025 โดย SCB EIC หน่วย : % ต่อปี 5.38 5.38 4.38 4.38 4.13 3.88 3.88 2 3 4 5 6 23H2 24H1 24H2 25Q1F 25Q2F 25Q3F 25Q4F SCB EIC Bloomberg Median 4 3.75 3 2.5 2 1.75 1.75 0 1 2 3 4 5 6 23H2 24H1 24H2 25Q1F 25Q2F 25Q3F 25Q4F SCB EIC Bloomberg Median 0.1 0.25 0.5 0.5 0.75 0.75 0 1 2 3 4 5 6 23H2 24H1 24H2 25Q1F 25Q2F 25Q3F 25Q4F SCB EIC Bloomberg Median ช่วงคาดการณ์ ช่วงคาดการณ์ ช่วงคาดการณ์ Fed มีแนวโน้มลดดอกเบี้ยรวม 50 BPS ในปี 2025 โดยจะลดครั้งแรก ในไตรมาส 2 ช้ากว่าที่ประเมินไว้เดิม เพื่อรับมือความเสี่ยงเงินเฟ้อที่จะ เพิ่มขึ้นจากปัจจัยเศรษฐกิจในประเทศและนโยบาย Trump 2.0 ECB มีแนวโน้มเร่งลดอัตราดอกเบี้ยรวม 125 BPS ในปี 2025 (ลดครั้งละ 25BPS ทุกรอบประชุมจนกว่าดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 1.75% จากปัจจัยเศรษฐกิจที่อ่อนแอกว่ามาก และแรงกดดันเงินเฟ้อต่ากว่า BOJ มีแนวโน้มขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 50 BPS ในปี 2025 จากปัจจัย แนวโน้มเศรษฐกิจปรับดีขึ้น มุมมองเงินเฟ้อสูงขึ้นเกิดวัฏจักรเชิงบวก ระหว่างค่าจ้างกับเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงยังติดลบ และเงินเยน อ่อนค่า ทั้งนี้มีความเปเนไปได้ที่อัตราดอกเบี้ยจะขึ้นไปถึง 1% ในปีนี้
  • 11.
    11 SCB EIC ประเมินเศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งปีแรกยังมีแรงส่งจากภาคการท่องเที่ยวการส่งออก และการใช้จ่ายภาครัฐ โดยคาสั่งบริหารของ Trump หลังเข้ารับตาแหน่งจะยังไม่ส่งผลลบต่อไทยมากนักในช่วงครึ่งแรกของปี คาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2024 – 2025 โดย SCB EIC หมายเหตุ : *ตัวเลขจริง ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของสานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ Base Case Unit 2024F 2025F As of Sep 2024 As of Dec 2024 As of Sep 2024 As of Dec 2024 GDP %YOY 2.5 2.7 2.6 2.4 Private Consumption %YOY 3.7 5.0 2.4 2.1 Government Consumption %YOY 1.4 1.8 3.7 3.7 Private Investment %YOY -0.4 -1.2 3.8 3.4 Government Investment %YOY -0.5 1.5 4.2 5.0 Export Value of Goods (USD, BOP) %YOY 2.6 3.9 2.8 2.0 Import Value of Goods (USD, BOP) %YOY 3.1 5.4 3.6 3.4 Number of International Tourists Million people 36.2 35.5* 39.4 38.8 Headline Inflation Rate %YOY 0.6 0.4* 1.0 1.0 Core Inflation Rate %YOY 0.5 0.6* 0.9 0.9 Policy Interest Rate (End of Year) % 2.25 2.25* 2.0 2.0 H1 H2 แรงส่งเศรษฐกิจมีต่อเนื่องจากปีก่อน รวมถึงมี Upside จากมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจ • การส่งออกโตดีต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเพราะหลายประเทศอาจเร่งนาเข้า ก่อนมาตรการกีดกันการค้าเพิ่มเติมจะเริ่มมีผล ประเมินไทยยังไม่ถูก มาตรการกีดกันการค้าเพิ่มเติมจากสหรัฐฯ ในช่วงครึ่งปีแรก • การเบิกจ่ายงบประมาณต่อเนื่องและปัจจัยฐานจากปีก่อน • Upside ของเศรษฐกิจเพิ่มเติม จากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย เช่น โครงการแจกเงิน 10,000 บาทเฟส 2-3 รวมถึงมาตรการ Easy E-receipt เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่า • เริ่มถูกกดดันจากสงครามการค้ารอบใหม่ Trump 2.0 เริ่มมีผล ต่อไทยในช่วงครึ่งปีหลัง • การส่งออกเริ่มชะลอตัว ประกอบกับมีปัจจัยฐานสูง • การผลิตยังไม่ฟื้น ส่วนหนึ่งจากสินค้าจีนที่มีแนวโน้มตีตลาดไทย มากขึ้น ผลจากสงครามการค้า • การบริโภคภาคเอกชนแผ่วลง จากการเข้าถึงสินเชื่อได้ยากขึ้น และ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอาจมีไม่มากจากข้อจากัดงบประมาณปี 2026
  • 12.
    12 เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยที่ผ่านมา สะท้อนแรงส่งจากภาคท่องเที่ยวและบริการตามการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยว และภาคการส่งออกที่ปรับดีขึ้นมากในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 ที่มา: การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย, กระทรวงพาณิชย์, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, ศุลกากรจีนและเกาหลีใต้, สานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน, S&P Global และ CEIC Lagging indicator Unit 2022 2023 Oct-23 Nov-23 Dec-23 Jan-24 Feb-24 Mar-24 Apr-24 May-24 Jun-24 Jul-24 Aug-24 Sep-24 Oct-24 Nov-24 Dec-24 Coincident economic index (CEI) 2019=100, SA 97.8 99.6 100.4 100.6 99.6 101.0 102.0 100.1 103.0 101.2 100.7 103.3 102.3 101.5 102.9 102.6 Consumption Private consumption index 2010=100, SA 142.1 151.7 153.1 152.1 150.8 151.9 151.7 151.4 154.1 154.3 152.9 152.9 153.0 151.4 152.6 151.9 Unemployment compensation % insured person 2.1% 1.9% 1.9% 1.9% 1.7% 1.8% 1.7% 1.8% 1.9% 1.9% 1.9% 1.9% 1.9% 1.8% 1.8% 1.9% Unemployment rate % labor force 1.3% 1.0% 0.81% 1.00% 1.07% 1.02% Investment Private investment index 2010=100, SA 142.1 140.1 137.8 140.8 133.1 140.7 144.2 141.2 144.0 141.5 138.9 148.5 143.7 142.1 147.0 144.3 Export (Custom basis) Exports ex. Gold %YoY 4.6% -0.4% 7.6% 5.5% 2.9% 6.6% 1.3% -6.6% 9.4% 5.6% -1.7% 11.0% 6.2% 1.7% 9.0% 6.4% 8.7% %MoM, SA 4.6% -0.4% -1.0% -0.7% 0.1% -1.5% 0.1% 0.8% 3.5% -1.1% -0.1% 2.5% 2.9% -2.3% 1.4% 1.5% 0.6% Agriculture Agriculture production index 2005=100, SA 144.2 147.4 150.2 144.9 143.6 144.5 143.3 140.1 147.9 146.5 142.2 144.7 146.8 144.7 146.5 147.5 148.0 Manufacturing PMI : Manufacturing 50 = Stable 52.3 51.8 47.5 47.6 45.1 46.7 45.3 49.1 48.6 50.3 51.7 52.8 52.0 50.4 50.0 50.2 51.4 Manufacturing production index 2016=100, SA 101.4 97.6 95.5 96.1 94.4 96.2 97.4 94.9 97.6 96.9 96.5 98.8 95.9 94.6 95.4 93.5 Capacity utilization rate %, SA 63.6 59.6 57.8 58.5 57.2 57.8 58.5 57.3 59.9 58.8 58.5 60.1 59.0 58.0 58.6 57.3 Service Service production index 2016=100, SA 111.2 120.6 121.8 121.1 121.7 123.1 124.8 123.7 125.6 125.9 125.5 128.6 128.2 128.2 129.6 130.3 Foreign tourist arrivals thousands 11093.3 28099.3 2197.0 2637.1 3261.3 3035.3 3352.3 2982.7 2757.1 2633.5 2740.4 3103.4 2963.1 2521.0 2679.2 3150.2 Hotel occupancy rate % 47.2 69.2 66.1 71.7 82.8 77.4 76.7 71.7 73.5 68.8 67.5 69.8 69.2 66.8 69.1 72.5
  • 13.
    13 มองไปข้างหน้า เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยโดยรวมปรับดีขึ้น โดยเฉพาะการส่งออกและการลงทุนระยะยาวผ่านBOI แต่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังต่ากว่าช่วงครึ่งปีก่อน และภาคการผลิตอุตสาหกรรมและก่อสร้างจะยังฟื้นตัวช้า ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย, กระทรวงพาณิชย์, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, ศุลกากรจีนและเกาหลีใต้, สานักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน, S&P Global และ CEIC Leading indicator Unit 2022 2023 Oct-23 Nov-23 Dec-23 Jan-24 Feb-24 Mar-24 Apr-24 May-24 Jun-24 Jul-24 Aug-24 Sep-24 Oct-24 Nov-24 Dec-24 Leading economic index (LEI) 2000=100, SA 171.5 173.0 173.0 172.5 172.9 173.4 172.9 173.3 173.0 172.7 172.7 172.4 172.4 173.4 175.0 174.4 Consumption CCI : Future 100 = Stable 51.1 64.2 68.0 68.7 69.9 70.9 71.9 71.2 70.2 68.4 66.7 65.4 64.3 63.1 64.0 64.9 Export Global PMI : Manu export orders 50 = Stable 47.8 47.6 47.5 48.1 48.1 48.8 49.3 49.5 50.4 50.4 49.3 49.3 48.4 47.5 48.3 48.6 48.2 Korea exports : First 25 days 2021=100, SA 106.8 92.9 100.6 104.6 107.9 95.7 87.8 95.7 103.9 94.7 99.1 102.8 91.0 100.7 98.9 101.5 111.2 Korea exports 2021=100, SA 106.2 92.4 103.3 103.9 102.0 100.5 99.4 95.4 101.4 98.4 98.1 97.9 99.8 100.8 99.8 101.4 106.1 China exports 2021=100, SA 105.7 95.5 97.2 100.2 99.8 102.2 105.3 102.9 101.6 99.4 100.2 96.4 99.2 97.4 101.7 103.3 105.5 China imports from Thailand 2021=100, SA 92.1 90.3 86.9 78.1 82.2 74.0 73.3 73.2 76.8 92.4 75.8 81.4 81.5 84.1 84.6 87.4 95.8 Investment - Near term BSI : Expectation 50 = Stable 53.4 54.6 53.3 52.6 53.9 53.9 53.5 51.9 52.4 52.9 51.9 50.1 49.8 51.6 52.4 51.3 51.2 Construction area permitted 2000=0.1, SA 6.3 6.6 7.2 6.8 6.8 6.9 6.8 6.8 6.8 6.5 6.2 6.2 6.1 5.9 6.0 5.9 Net business open Value THB billions 302.8 402.4 18.3 7.9 -36.7 22.2 17.2 16.6 22.2 -32.9 23.1 14.9 3.8 5.4 20.2 14.0 Investment - Longer term BOI : Cert. issued Value %YoY 15.4% 5.5% 18.4% 107.2% 64.1% 132.9% BOI : Approved Value %YoY 19.6% 22.5% 98.8% 5.9% 64.7% 71.4% BOI : Application Value %YoY 25.3% 43.2% 100.8% 30.9% 39.2% 55.6% Manufacturing TISI : Expectation 100 = Stable 98.2 100.6 94.5 97.3 96.2 98.4 100.0 100.8 98.3 95.7 93.4 95.2 93.9 96.7 98.4 96.7
  • 14.
    14 จานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังเติบโตต่อเนื่อง โดยกระแสข่าวด้านความปลอดภัย ส่งผลให้การเดินทางมาไทย ของนักท่องเที่ยวจีนในช่วงเริ่มต้นเทศกาลตรุษจีนเร่งตัวไม่สูงมากแต่ยังเติบโตได้ดี นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยแล้วราว 2.14 ล้านคน (ข้อมูล ณ 19 ม.ค. 2025) หน่วย : ล้านคน, % เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปี 2019, %YOY จานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยรายสัปดาห์ หน่วย : คนต่อสัปดาห์ หมายเหตุ : ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือน ม.ค. ประเมินจากตัวเลขเบื้องต้นของกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 0.69 2.42 ก.ค. 24 0.66 2.31 ส.ค. 24 0.47 2.05 ก.ย. 24 0.46 2.22 ต.ค. 24 0.48 2.67 พ.ย. 24 0.54 3.09 ธ.ค. 24 ม.ค. 25 e 3.10 2.96 2.52 2.68 3.15 3.63 ~3.60 นักท่องเที่ยวจีน นักท่องเที่ยวชาติอื่น 93% 25% 85% 20% 87% 18% 87% 22% 93% 19% 92% 11% 96% 17% การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวโดยรวม %YOY จีนยังครองอันดับ 1 นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยสูงสุดกว่า 3.5 แสนคนในช่วงวันที่ 1-19 มกราคม 2025 ตามด้วยมาเลเซีย (216,860 คน), รัสเซีย (165,501 คน), เกาหลีใต้ (124,823 คน) และอินเดีย (117,896 คน) 0 600,000 800,000 1,000,000 715,579 820,896 872,235 (ตรุษจีน : 10 Feb) +15% 2024 2025 3rd week 10th week 0 200,000 148,570 (2 สัปดาห์ก่อนตรุษจีน) 137,897 194,275 (ตรุษจีน : 10 Feb) +8% 2024 2025 10th week นักท่องเที่ยวต่างชาติโดยรวม นักท่องเที่ยวจีน 3rd week ไทยยังเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวจีนสนใจเดินทางมาในช่วงตรุษจีน จากข้อมูลของแพลตฟอร์มท่องเที่ยว Fliggy พบว่าเส้นทางญี่ปุ่น ไทย มาเลเซีย เกาหลีใต้ และสิงคโปร์เปเน 5 เส้นทางที่มียอดการจองสูงสุดในช่วงตรุษจีน
  • 15.
    15 จานวนผู้เยี่ยมเยือนไทย หน่วย : ล้านคน,%YoY หมายเหตุ : *กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ที่มา : การวิเคราะห์โดย EIC จากข้อมูลของ หมายเหตุ : ตัวเลขผู้เยี่ยมเยือนไทยเดือน ธ.ค. และ ม.ค. ประเมินจากตัวเลขเบื้องต้นของกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, สานักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย 41% 12% ก.ค. 47% 41% 13% ส.ค. 48% 39% 13% ก.ย. 48% 41% 11% ต.ค. 47% 40% 10% พ.ย. ธ.ค. ม.ค. e 22.0 21.0 20.3 21.8 22.7 26.1 ~25.1 12% 40% 49% 50% กรุงเทพฯ เมืองน่าเที่ยว เมืองหลัก 11% 4% 4% 5% 7% 7% 5% อัตราการเติบโต (%YoY) 105,000 180,000 195,000 210,000 225,000 196,874 23 ม.ค 25 1 พ.ย 24 จานวนผู้โดยสารเส้นทางบินภายในประเทศ หน่วย : คนต่อวัน 1 ธ.ค 24 1 ม.ค 25 Nov 24 Dec 24 1-23 Jan 25 Total 5,514,168 5,926,302 4,516,212 Average/day 183,805 191,171 196,357 จานวนรถยนต์ 4 ล้อส่วนบุคคลที่เดินทางระหว่างจังหวัดผ่านทางด่วน หน่วย : ล้านคันต่อวัน 0.0 1.5 2.0 2.5 1.64 21 ม.ค 25 1 พ.ย 24 1 ธ.ค 24 1 ม.ค 25 Nov 24 Dec 24 1-21 Jan 25 Total 46.96 48.61 30.79 Average/day 1.57 1.57 1.47 การท่องเที่ยวในประเทศยังเติบโตดีต่อเนื่องในช่วงต้นปี โดยจานวนผู้โดยสารเส้นทางบินภายในประเทศ และการเดินทางระหว่างจังหวัดยังอยู่ในระดับสูง
  • 16.
    16 การเบิกจ่ายงบลงทุนจะเป็นไปอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ 2025 รวมถึงการเปิดประมูล และเริ่มก่อสร้างโครงการเมกะโปรเจกต์ด้านคมนาคมใหม่ๆ จะเป็นปัจจัยหนุนการลงทุนก่อสร้างภาครัฐ อัตราเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมของหน่วยงานกลางโดยรวม หน่วย : % วงเงินงบประมาณของ 4 หน่วยงานหลักของรัฐบาลที่มีการลงทุนก่อสร้างสูง หน่วย : พันล้านบาท 0% 20 40 60 80 Oct Nov Dec Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug 75% 77% 66% Sep FY2022 FY2023 FY2024 FY2025 หน่วยงาน ที่ใช้งบลงทุนในระดับสูง สิ้น ก.ย. สิ้น ธ.ค. 2022 2023 2024 2023 2024 กรมทางหลวง 90% 96% 80% 10% 6% กรมทางหลวงชนบท 91% 90% 67% 3% 7% กรมชลประทาน 83% 89% 74% 6% 16% กรมโยธาธิการและผังเมือง 47% 42% 44% 8% 6% กรมทางหลวง 126113 119 122 128 +5% FY2021 FY2022 FY2023 FY2024 FY2025 กรมชลประทาน 74 77 77 81 83 +2% กรมทางหลวงชนบท 49 46 47 48 51 +6% กรมโยธาธิการและผังเมือง 29 31 35 38 42 +10% ตัวอย่างโครงการเมกะโปรเจกต์ ที่คาดว่าจะเปิดประมูลในปี 2025 มูลค่าโครงการ (พันล้านบาท) รถไฟทางคู่ เฟส 2 จานวน 6 ช่วง 298 มอเตอร์เวย์สาย 9 วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก ช่วงบางขุนเทียน-บางบัวทอง 56.0 ทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 ช่วงถนนประเสริฐมนูกิจ- ถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ 17.0 รถไฟชานเมืองส่วนต่อขยายสายสีแดง ช่วงศิริราช-ตลิ่งชัน-ศาลายา 15.2 ทางพิเศษ จ.ภูเก็ต ระยะที่ 1 ช่วงกะทู้-ป่าตอง 14.7 อาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออก 10.0 รถไฟชานเมืองส่วนต่อขยายสายสีแดง ช่วงรังสิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 6.5 ประเด็นที่ต้องจับตา : การดาเนินการ แก้ไขสัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน (มูลค่าโครงการ 2.25 แสนล้านบาท) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และ บริษัทเอเชีย เอรา วัน จากัด เอกชน คู่สัญญา จะเจรจาร่างสัญญาแก้ไข และ นาเสนอตามขั้นตอน โดยกาหนดการออก หนังสือเริ่มงานก่อสร้างภายใน เม.ย. 2025 ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของสานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, กรมบัญชีกลาง และสานักงบประมาณ
  • 17.
    17 การใช้จ่ายภาครัฐจะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจสาคัญในปีนี้ แต่จะแผ่วลงในปีงบประมาณ 2026ผลจากกรอบ วงเงินงบประมาณที่เริ่มสะท้อนข้อจากัดการคลังในระยะปานกลาง เปรียบเทียบกรอบงบประมาณรายจ่ายประจาปี 2024-2026 หน่วย : ล้านล้านบาท คาดการณ์หนี้สาธารณะจากแผนการคลังระยะปานกลาง โดยกระทรวงการคลัง หน่วย : % Nominal GDP, ปีงบประมาณ ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของกระทรวงการคลัง, สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และสานักงบประมาณ 0.0 0.5 1.0 1.5 2.0 2.5 3.0 3.5 4.0 FY2024 FY2025 FY2026 งบประจา งบลงทุน งบอื่น ๆ +0.7% งบประมาณที่ใช้ จ่ายได้จริงลดลง (หลังหักงบชาระ คืนหนี้ และงบ ชาระคืนเงินคง คลัง) +7.8% -2.2% 69.3 68.6 67.1 63.6 64.8 61.3 70 60 62 64 66 68 70 72 2023 2024F 2025F 2026F 2027F 2028F 2029F นายกแพทองธาร (24 ธ.ค. 2024) นายกเศรษฐา (มติ ครม. 28 พ.ค. 2024) นายกเศรษฐา (มติ ครม. 2 เม.ย. 2024) นายกเศรษฐา (มติ ครม. 26 ธ.ค. 2023) นายกเศรษฐา (มติ ครม. 13 ก.ย. 2023) นายกประยุทธ์ (มติ ครม. 27 ธ.ค. 2022) • จุดกลับตัวของหนี้สาธารณะ มักสูงขึ้นและเลื่อนเวลาออกไป • แผนฯ ล่าสุดไม่พบจุดกลับตัวนี้แล้ว
  • 18.
    18 มูลค่าการส่งออกของไทยขยายตัวสูงในปี 2024 แต่มีแนวโน้มโตชะลอลงในปี2025 จากความเสี่ยงนโยบายภาษี นาเข้าของ Trump 2.0 ปัจจัยเศรษฐกิจจีนชะลอตัว และปัจจัยฐานสูง หมายเหตุ : *ต้องติด 2 ใน 3 เกณฑ์ถึงจะเข้าข่าย (Watchlist) Unfair Trade กับสหรัฐฯ ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ Trademaps, กระทรวงพาณิชย์, U.S. Department of the Treasury และ The Standard Thailand มูลค่าส่งออกของไทยในปี 2024 หน่วย : %YOY, วงเล็บ () สัดส่วนปี 2024 พัฒนาการของตลาดส่งออกหลักของไทย หน่วย : % การเกินดุลการค้าของไทยกับสหรัฐฯ หน่วย : พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ; ลาดับประเทศคู่ค้าที่เกินดุลสหรัฐฯ (ขวา) รายการ Q4 Nov Dec 2024 รวมทั้งหมด (100%) 10.5% 8.2% 8.7% 5.4% ไม่รวมทองคา (97.1%) 8.0% 6.4% 8.7% 4.5% 1. เกษตรกรรม (9.6%) 7.1% 4.1% 10.7% 7.5% 2. อุตสาหกรรมการเกษตร (7.8%) 7.3% 7.7% 6.7% 4.1% 3. สินค้าอุตสาหกรรม (79%) 13.1% 9.5% 11.1% 5.9% เครื่องใช้ไฟฟ้า (9.8%) 15.4% 13.8% 17.1% 3.0% รถยนต์และส่วนประกอบ (10.3%) -6.6% 4.8% -7.2% -3.6% คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ (8.2%) 51.5% 40.7% 43.5% 38.1% ผลิตภัณฑ์ยาง (4.7%) 24.8% 24.8% 22.5% 7.6% แผงวงจรไฟฟ้า (2.9%) 1.0% 3.9% -2.6% -10.5% เครื่องจักรกล (3.4%) 31.4% 16.7% 35.6% 17.3% เคมีภัณฑ์และพลาสติก (7.2%) 10.5% 6.1% 13.6% 3.0% สิ่งทอ (2.1%) 6.4% 9.8% 4.7% 2.7% 4. สินค้าแร่และเชื้อเพลิง (3.6%) -20.8% -7.1% -32.0% -6.5% น้ามันสาเร็จรูป (3.1%) -23.8% -16.3% -33.7% -9.8% 11.2 18.3 11.7 13.3 10.0 9.4 7.8 4 8 12 16 20 2017 2018 2019 2020 2021 2022 2023 2024 USA China Asean 5 CLMV EU28 Japan 20.5 21.5 28.0 37.8 47.4 43.0 37.0 15 12th 11th 0 5 10 15 0 10 20 30 40 50 2018 2019 2020 2021 2022 2023 11M24 Thai Trade Balance with U.S. U.S. Treasury Department's Watchlist Ranking of Trade Surplus with U.S. (RHS) รายงาน U.S. Treasury* ระบุ 3 เกณฑ์เฝ้าระวังที่ใช้วัด Unfair Trade ในกลุ่ม Top-20 ประเทศคู่ค้าสหรัฐ : 1) เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ > 15BnUSD 2) เกินดุลบัญชีเดินสะพัด อย่างน้อย 3% ของ GDP และ 3) แทรกแซงค่าเงินแบบ persistent, one-sided ซื้อสกุลเงินต่างประเทศสุทธิติดกัน 8 ในรอบ 12 เดือน และมูลค่าซื้อสุทธิอย่างน้อย 2% ของ GDP ในรอบ 12 เดือน รายงานเดือน พ.ย. 2024 ไม่พบว่า ไทยเข้าข่าย Monitoring list ที่ติด 2 ใน 3 เกณฑ์นี้ SCB EIC มองการส่งออกไทยมีแนวโน้มชะลอลงในปี 2025 ช่วงครึ่งแรกของปีจะยังเติบโตได้ จากอุปสงค์ต่างประเทศเร่งตัว โดยเฉพาะสหรัฐฯ จากความ กังวลด้านนโยบายภาษีนาเข้าของสหรัฐฯ ขณะที่ช่วงครึ่งหลังของปี การส่งออกมีแนวโน้มชะลอลง จากฐานสูงและเริ่มเห็นผลกระทบนโยบายทรัมป์ 2.0 ปัจจัยส่งผลต่อการส่งออกไทยในระยะสั้น : • ข้อตกลงการค้าเสรี ไทย-สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (European Free Trade Association : EFTA) ช่วยให้ไทยมีมาตรฐานดีขึ้นและเพิ่มโอกาสการทา ข้อตกลง FTA ของไทยกับกลุ่มประเทศต่าง ๆ ในระยะข้างหน้า เช่น EU ซึ่งจะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจไทยในหลายมิติ โดยเฉพาะภาคการผลิตและส่งออก
  • 19.
    19 ภาพรวมตลาดแรงงานไทยทยอยฟื้นตัว สะท้อนจากจานวนชั่วโมงทางานเฉลี่ยสูงกว่าระดับก่อน COVID-19 และจานวนผู้ทางานต่าระดับลดลงสาหรับค่าจ้างฟื้นตัวเช่นกัน แต่ยังคงขยายตัวต่ากว่าอดีตมาก ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของสานักงานสถิติแห่งชาติ จานวนชั่วโมงการทางานเฉลี่ยต่อสัปดาห์ หน่วย : ชั่วโมง/สัปดาห์ จานวนผู้ทางานต่าระดับ (ต่ากว่า 35 ชม. / สัปดาห์) หน่วย : คน ค่าจ้างเฉลี่ยที่แท้จริงของลูกจ้าง หน่วย : %YOY 35 37 39 41 43 45 AVG 2014-2019 2020 2021 2022 2023 2024Q1 2024Q2 2024Q3 จานวนชั่วโมงการทางานเฉลี่ย Pre-COVID 0.47% 0.00% 0.20% 0.40% 0.60% 0.80% 1.00% 1.20% 1.40% 0 100,000 200,000 300,000 400,000 500,000 600,000 AVG 2014-2019 2020 2021 2022 2023 2024Q1 2024Q2 2024Q3 ทางานตั้งแต่ 1-34 ชม. / สัปดาห์ ทางาน 0 ชม. / สัปดาห์ Pre-COVID Underemployment rate 2.03% 1.11% -6% -4% -2% 0% 2% 4% 6% AVG 2014-2019 2021 2022Q2 2022Q4 2023Q2 2023Q4 2024Q2 เอกชน ภาพรวม Pre-COVID 3.5% 1.1% Pre-COVID (AVG 2014-2019) Q3-2024 252.7k 191.9k Pre-COVID (AVG 2014-2019) Q3-2024 42.3 43.3 Pre-COVID (AVG 2014-2019) Q3-2024
  • 20.
    20 ดัชนีการบริโภคภาคเอกชนแผ่วลง โดยเฉพาะสินค้าคงทน ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค. ดีขึ้น 3 เดือน ติดต่อกัน จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้เพิ่มเติม ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย, มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และ CEIC ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค โดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย หน่วย : ดัชนี ดัชนีการบริโภคภาคเอกชน (Private Consumption Index) โดย ธปท. หน่วย : ดัชนี (2019Q4 = 100), ปรับฤดูกาล 0 20 40 60 80 100 120 60 70 80 90 100 110 120 10/2019 01/2020 04/2020 07/2020 10/2020 01/2021 04/2021 07/2021 10/2021 01/2022 04/2022 07/2022 10/2022 01/2023 04/2023 07/2023 10/2023 01/2024 04/2024 07/2024 PCI Non-Durables Semi-Durables Durables Services Non-Residents Exp (RHS) 20 40 60 80 100 01/2018 01/2019 01/2020 01/2021 01/2022 01/2023 01/2024 CCI CCI: Present CCI: Expectations • ดัชนีการบริโภคภาคเอกชน (PCI) เดือน พ.ย. แผ่วลง (แบบปรับฤดูกาล) เกือบทุกหมวด หลังเร่งตัวเดือนก่อนจากมาตรการเงินโอน ภาครัฐ โดยเฉพาะหมวดสินค้าไม่คงทนลดลงตามปริมาณการจาหน่ายน้ามันเชื้อเพลิง หมวดสินค้าคงทนลดลงตามยอดขายยานยนต์ที่ต่า ตามความเข้มงวดของการปล่อยสินเชื่อ หมวดสินค้ากึ่งคงทนลดลงเล็กน้อยตามยอดจาหน่ายสินค้า ขณะที่หมวดบริการทรงตัว รายจ่าย นักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง แต่การใช้จ่ายคนไทยดีขึ้น • ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CCI) เดือน ธ.ค. ปรับดีขึ้น 3 เดือนติดต่อกัน ผลจากการออกชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของภาครัฐ อาทิ โครงการช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท แผนออกมาตรการเงินโอน 10,000 บาทให้ผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป มาตรการ Easy E-receipt กระตุ้นการบริโภคเพื่อลดหย่อนภาษีไม่เกิน 50,000 บาท และมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ “คุณสู้ เราช่วย” และมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว (เช่น มาตรการภาษีเที่ยวเมืองรอง มาตรการฟรีวีซ่า) นอกจากนี้ ราคาพลังงานปรับลดลง ราคาสินค้าเกษตรสาคัญทรงตัวดี ช่วยเพิ่มกาลังซื้อ ผู้บริโภค แต่ยังมีปัจจัยกดดันมาจากค่าครองชีพสูงไม่สอดคล้องกับรายได้ ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ยืดเยื้อ และความเสี่ยงสงครามการค้า • ปัจจัยเสี่ยงของการบริโภคภาคเอกชน : รายได้ฟื้นช้า หนี้สูง และความกังวลปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ยืดเยื้อ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับดีขึ้น 3 เดือนต่อเนื่อง
  • 21.
    21 การลงทุนภาคเอกชนจะมีแนวโน้มฟื้นตัวแตกต่างกันมากในองค์ประกอบ ส่วนใหญ่ฟื้นตัวในการลงทุนเครื่องจักร และอุปกรณ์ รวมถึงการลงทุนของธุรกิจขนาดใหญ่สอดคล้องกับความเชื่อมั่นที่อยู่ในระดับสูงกว่าธุรกิจขนาดเล็ก หมายเหตุ : อุตสาหกรรมขนาดเล็กรายได้ไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อปี ขนาดกลาง 100-500 ล้านบาทต่อปี และขนาดใหญ่ มากกว่า 500 ล้านบาทต่อปี ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย Board of Investment (BOI) และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนและองค์ประกอบโดย ธปท. หน่วย : %YOY การส่งเสริมการลงทุนของ Board of Investment (BOI) หน่วย : มูลค่าโครงการ (พันล้านบาท) ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม โดย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หน่วย : %YOY -40 -30 -20 -10 0 10 20 30 06/2024 07/2024 08/2024 09/2024 10/2024 11/2024 ยอดจดทะเบียนยานยนต์ใหม่ พื้นที่ได้รับอนุญาตก่อสร้าง การจาหน่ายเครื่องจักรและ อุปกรณ์ในประเทศ การนาเข้าสินค้าทุน ดัชนีการลงทุนภาคเอกชน 0 100 200 300 400 500 600 Application Application Approved Promotion Certificates Issued 9M23 9M24 70 80 90 100 110 01/2023 03/2023 05/2023 07/2023 09/2023 11/2023 01/2024 03/2024 05/2024 07/2024 09/2024 11/2024 TISI: By Size: Small Enterprises TISI: By Size: Medium Enterprises TISI: By Size: Large Enterprises Thai Industries Sentiment Index (TISI) • การลงทุนภาคเอกชนยังฟื้นตัวต่อเนื่อง หลังจากหดตัวในไตรมาส 2 อย่างไรก็ดี การฟื้นตัวมีลักษณะไม่ทั่วถึง โดยการลงทุนเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ไม่รวมรถยนต์เชิงพาณิชย์ขยายตัวดีต่อเนื่อง ขณะที่การลงทุนก่อสร้างและรถยนต์ เชิงพาณิชย์ยังคงหดตัว • ความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมโดยรวมมีทิศทางฟื้นตัว จากความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดใหญ่ที่ปรับดีขึ้นตามภาคการส่งออกในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 และการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ความเชื่อมั่น ภาคอุตสาหกรรมขนาดเล็กยังต่า ส่วนหนึ่งจากผลกระทบการแข่งขันราคาจากสินค้าจีนนาเข้า • ในระยะข้างหน้า แนวโน้มการฟื้นตัวของการลงทุนภาคเอกชนจะแตกต่างกันมาก โดยการฟื้นตัวจะถูกขับเคลื่อนโดยการลงทุนเครื่องจักรและอุปกรณ์ (รวมการนาเข้าจากต่างประเทศ) รวมถึงจากการลงทุนของธุรกิจใหญ่เปเนหลัก สะท้อนจากระดับของความเชื่อมั่นที่แตกต่างกันมากระหว่างขนาดอุตสาหกรรม
  • 22.
    22 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) และอัตราการใช้กาลังการผลิตของไทยและดัชนีนาเข้าสินค้าจีน หน่วย : MPI = (2021 = 100,sa); China Import Value Index (2021 = 100,sa); Cap U = % (RHS) การผลิตอุตสาหกรรมหดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 แม้การผลิตเพื่อส่งออกปรับดีขึ้น แต่ไม่สามารถชดเชย การหดตัวรุนแรงของการผลิตยานยนต์ได้ ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของสานักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) Nov 24: 93.5 Dec 24: 130.4 Nov 24: 57.3 50 55 60 65 70 80 90 100 110 120 130 140 01/2023 04/2023 07/2023 10/2023 01/2024 04/2024 07/2024 10/2024 MPI China Import Value Index (USD) Capacity Utilization (RHS) %YOY 2023 Q1/2024 Q2 Q3 Oct-24 Nov-24 YTD MPI -3.8 -3.6 -0.2 -1.1 -0.6 -3.6 -1.8 Machinery & Equip -9.4 0.6 9.8 16.5 27.0 26.6 10.6 Beverages 0.3 6.8 7.6 -0.4 10.2 5.0 5.2 Paper & Paper Products -4.1 6.5 7.9 0.0 -1.6 -1.7 3.6 Food Products -2.4 -0.1 7.4 4.6 2.3 0.9 3.3 Chemical Products -0.7 3.5 4.8 1.9 3.9 -2.6 2.9 Fabricated Metal -13.8 -0.4 -4.2 5.0 10.9 20.7 2.8 Refined Petroleum 8.6 2.1 1.9 2.9 -1.3 1.4 1.9 Electrical Equipment -14.5 -0.8 9.3 1.1 -1.5 -5.8 1.8 Rubber & Plastic -2.4 -0.5 -0.2 3.1 5.6 0.4 1.2 Basic Metal -6.7 -5.4 4.1 -3.9 3.3 4.0 -1.0 Pharmaceuticals -8.2 -13.0 -4.0 -4.0 -1.7 -6.7 -6.8 Cement, Ceramic & Glass -3.4 -7.0 -7.9 -8.8 -4.3 -8.8 -7.7 Computer & Electronic -18.9 -17.1 -13.4 -3.2 1.0 -3.2 -9.8 Motor Vehicles 0.8 -16.3 -13.4 -17.7 -21.6 -26.7 -17.5 • การผลิตอุตสาหกรรมของไทยกลับมาหดตัวชัดเจนขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 หลังจากปรับดีขึ้นในช่วงกลาง ปี โดยดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม (หลังปรับฤดูกาล) ในเดือน พ.ย. 2024 อยู่ในระดับต่าสุดตั้งแต่ปี 2021 • อัตราการใช้กาลังการผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับลดลงอยู่ในระดับต่ากว่า 60% สอดคล้องกับการผลิต ภาคอุตสาหกรรม ซึ่งทาให้แนวโน้มในการลงทุนขยายกาลังการผลิตของโรงงานที่มีอยู่เดิมมีน้อยลง • การผลิตหมวดยานยนต์หดตัวแรงขึ้นในช่วงท้ายปี 2024 ตามตลาดรถยนต์ที่ซบเซา ทาให้การผลิตอุตสาหกรรม ในภาพรวมยังหดตัว เนื่องจากการผลิตยานยนต์มีน้าหนักกว่า 11% ของดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมไทย • หมวดผลิตที่เน้นการส่งออกปรับดีขึ้นชัดเจน โดยหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ขยายตัวสูงขึ้นในช่วงครึ่งหลัง ของปี 2024 ขณะที่หมวดอิเล็กทรอนิกส์หดตัวน้อยลงกว่าช่วงครึ่งปีแรก
  • 23.
    23 23 ราคาน้ามันดิบ Brent หน่วย :USD/Barrel ตลาดพลังงานโลกในช่วงเดือน ม.ค. ราคาปรับสูงขึ้น จากปัจจัยความต้องการพลังงานในฤดูหนาวและความเสี่ยง ภูมิรัฐศาสตร์ จากมาตรการคว่าบาตรครั้งใหม่ต่อรัสเซียที่มุ่งเน้นไปยัง Shadow fleet ราคาก๊าซธรรมชาติ Henry hub หน่วย : USD/MMBtu 5-yr avg 2022 2023 2024 2025F 57.1 100.9 82 80 75 5-yr avg 2022 2023 2024 2025F 2.8 6.6 2.7 2.45 3.97 0 2 4 6 8 10 2016 2017 2018 2019 2020 2021 2022 2023 2024 0 20 40 60 80 100 120 140 2016 2017 2018 2019 2020 2021 2022 2023 2024 • Demand : EIA คาดการณ์ว่าในปี 2025 ปริมาณการผลิตน้ามันและเชื้อเพลิงเหลวทั่วโลกเฉลี่ยอยู่ที่ 104.4- 104.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่ความต้องการใช้น้ามันโลกเฉลี่ยคาดว่าจะอยู่ที่ 104 ล้านบาร์เรล ต่อวัน สะท้อนอุปทานน้ามันเกินความต้องการราว 0.4-0.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน • Supply : สหรัฐฯ ประกาศมาตรการคว่าบาตรรัสเซียครั้งใหม่ โดยมุ่งที่ Shadow fleet ส่งผลกระทบต่อ การส่งออกน้ามันของรัสเซียประมาณ 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน (ราว 1% ของ Supply โลก) • ผลกระทบต่อราคาน้ามันดิบ Brent : เพิ่มขึ้นมากกว่าระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 เดือนที่ 81 ดอลลาร์ต่อ บาร์เรลหลังประกาศมาตรการคว่าบาตรใหม่ แต่คาดว่าผลกระทบจะเกิดในระยะสั้น เนื่องจากรัสเซีย อาจปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาการส่งออกน้ามัน เช่น จัดหาเรือบรรทุกน้ามันที่ไม่ถูกคว่าบาตร • Supply IEA รายงานว่า การผลิตอยู่ในภาวะตึงตัว เนื่องจากความล่าช้าในการเปิดโครงการ Regas ใหม่ • การหยุดส่งก๊าซรัสเซียผ่านยูเครนตั้งแต่ 1 ม.ค. 2025 ซึ่งเปเนเส้นทางหลักในการจัดหาพลังงานให้หลาย ประเทศในยุโรปกลาง เช่น สโลวาเกีย ออสเตรีย และมอลโดวา ทาให้เกิดภาวะอุปทานตึงตัว • Seasonal demand : ราคาก๊าซจะยังอยู่ในระดับสูง แม้สหภาพยุโรปเตรียมก๊าซไว้เกือบเต็ม Storage ที่ราว 90% แล้ว เนื่องจาก Seasonal demand การเข้าสู่ฤดูหนาว • อย่างไรก็ตาม สงครามยูเครนและรัสเซียมีโอกาสสิ้นสุดลง จากแนวนโยบายของทรัมป์ในการลดการ ให้ความช่วยเหลือยูเครน และการเตือนรัสเซียไม่ให้ยกระดับสงครามไปมากกว่านี้ หมายเหตุ : 5-year period = 2015-2019; ข้อมูลและการวิเคราะห์จากสถานการณ์ ณ เดือน เม.ย. 2024 ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ Bloomberg, TradingView, Goldman Sachs, US EIA, JP Morgan และสานักข่าวต่าง ๆ
  • 24.
    24 24 ราคาขายปลีกและต้นทุนน้ามัน น้ามันดีเซล และก๊าซหุงต้มฯ15 กก. คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ามันเชื้อเพลิง (กบน.) ยังคงพยายามไม่ให้ราคาน้ามันดีเซลสูงเกิน 33 บาทต่อลิตร แต่เนื่องจากระดับราคาน้ามันดิบโลกสูงขึ้น ทาให้ต้องใช้กลไกชดเชยราคาจากกองทุนน้ามันอีกครั้ง ราคาก๊าซหุงต้มถัง 15 กก. (บาท/15กก.) ราคาน้ามันดีเซล (บาท/ลิตร) 0 100 200 300 400 500 600 700 2019 2020 2021 2022 2023 2024 ราคาขายจริง หักการช่วยเหลือ ของกองทุนน้ามัน ราคาหน้าโรงกลั่น ราคาขายจริง หักการช่วยเหลือ ของกองทุนน้ามัน ราคาหน้าโรงกลั่น 0 10 20 30 40 50 2019 2020 2021 2022 2023 2024 รัฐบาลมีมติตรึงราคาน้ามันดีเซลอยู่ที่ 33 บาท/ลิตร ตั้งแต่ มี.ค. 2023 รัฐบาลมีมติตรึงราคาก๊าซหุงต้มฯ ที่ 423 บาท/ถัง 15 กก. และได้ต่ออายุมาตรการไปจนถึงสิ้นเดือน มี.ค. 2025 • กองทุนน้ามันเชื้อเพลิงมีสถานะดีขึ้นจากราคา น้ามันในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง ล่าสุด ณ 19 ม.ค. 2025 ติดลบรวม -73,545 ล้านบาท มาจาก บัญชีน้ามันติดลบ -26,876 ล้านบาท และบัญชี ก๊าซหุงต้ม (LPG) ติดลบ -46,669 ล้านบาท นับเปเนการติดลบน้อยลงในรอบสองปี • มาตรการตรึงราคาดีเซลไม่ให้เกิน 33 บาทต่อลิตร สิ้นสุด 31 ต.ค. 2024 แต่เนื่องจากราคาน้ามันดิบ โลกปรับเพิ่มขึ้น 80 USD/bbl กบน. จึงพิจารณา ชดเชยราคาน้ามันดีเซล 50 สตางค์ต่อลิตรอีกครั้ง • มาตรการขยายระยะเวลาการตรึงราคาขายปลีก ก๊าซหุงต้ม (LPG) ที่ 423 บาท ต่อถัง 15 กิโลกรัม จนถึง 31 มี.ค. • คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างหลักการ กาหนดราคาคาร์บอนจากสินค้าน้ามันและ ผลิตภัณฑ์น้ามัน 0.55 บาทต่อลิตร o ภาษีคาร์บอน 0.55 บาทนี้ รวมในภาษี สรรพสามิตที่จัดเก็บอัตราลิตรละ 6.44 บาท อยู่แล้ว จึงไม่มีผลทาให้ราคาขายปลีกน้ามัน เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตาม Phase ถัดไปของการปรับใช้อัตราภาษีนี้ สถานะกองทุนน้ามันฯ ณ สิ้นเดือน (ล้านบาท) หมายเหตุ : ข้อมูลและการวิเคราะห์จากสถานการณ์ ณ เดือน เม.ย. 2024; กองทุนน้ามันอุดหนุนราคาน้ามันเชื้อเพลิงและก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือน ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ EPPO, DOEB, OFFO, CEIC และสานักข่าวต่าง ๆ -160,000 -140,000 -120,000 -100,000 -80,000 -60,000 -40,000 -20,000 0 20,000 40,000 60,000 2011 2012 2013 2014 2015 2016 2017 2018 2019 2020 2021 2022 2023 2024 Oil fund
  • 25.
    25 ในกรณีฐานค่าไฟฟ้าเฉลี่ยปี 2025 มีแนวโน้มลดลงเหลือ4.04 บาทต่อหน่วย และจะเหลือ 3.85 บาทในกรณีรัฐลดค่า ไฟเหลือ 3.70 บาท จากการลดการอุดหนุน (Adder) โรงไฟฟ้าที่คืนทุนแล้ว และลดต้นทุนระบบสายส่งและเชื้อเพลิง ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของ ERC, EPPO, EGAT, Bloomberg, TDRI และ FTI SCB EIC คาดว่า ในกรณีฐาน ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยปี 2025 จะอยู่ที่ 4.04 บาทต่อหน่วย (ลดลง 0.1 บาทต่อหน่วย จากประมาณการรอบก่อน) จากปัจจัยดังนี้ 1) การปรับลดค่าไฟฟ้าส่วนของค่าใช้จ่ายตามนโยบายรัฐ ตามที่ กกพ. เสนอ ได้แก่ ลดการอุดหนุน ราคารับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (กลุ่มที่มี adder และ กลุ่ม FiT) ซึ่งจะทาให้ค่าไฟฟ้าลดลงได้ 0.17 บาทต่อหน่วย เหลือ 3.98 บาทต่อหน่วยในงวดเดือน พ.ค.- ธ.ค. 2025 (ลดลงจาก 4.15 บาท ต่อหน่วย ในช่วงเดือน ม.ค.- เม.ย. 2025) 2) ต้นทุนก๊าซธรรมชาติมีแนวโน้มลดลง อยู่ที่ระดับ 12-13 USD/MMBTU และ Pool gas ปรับลดลง อยู่ในช่วง 300-310 THB/MMBTU ตามประมาณการของ กกพ. 3) ทยอยคืนต้นทุนค้างชาระ (AF) ของ กฟผ. และ ปตท. ที่ 0.23 บาทต่อหน่วย ในกรณีรัฐลดค่าไฟเหลือ 3.70 บาทต่อหน่วย (ตามที่อดีตนายกฯ ทักษิณประกาศ) ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยปี 2025 จะอยู่ที่ 3.85 บาทต่อหน่วย ทางเลือกดาเนินการมีดังนี้ 1) ลดต้นทุนของระบบสายส่งและระบบจาหน่ายไฟฟ้าในค่าไฟฟ้าฐานลงราว 30-37% จากต้นทุน ปัจจุบัน (ลดค่าไฟฟ้าได้ 0.21-0.28 บาทต่อหน่วย) 2) ขยายเวลาคืนต้นทุนเชื้อเพลิงค้างชาระ (AF) ของ กฟผ. และ ปตท. (ลดค่าไฟฟ้าได้ 0.1-0.2 บาท ต่อหน่วย) 3) ปรับลดต้นทุนเชื้อเพลิงโดยเปิดให้แข่งขันการนาเข้าก๊าซฯ เสรีเพื่อแข่งขันด้านราคามากขึ้น และลดค่าผ่านท่อและแปรสภาพก๊าซสาหรับระบบท่อเก่าที่คืนทุนแล้ว แต่อาจต้องใช้เวลา ไม่ต่ากว่า 1 ปี ในการปรับปรุงระเบียบและกฎหมายกิจการก๊าซฯ 4) ปรับโครงสร้างราคารับซื้อและต้นทุนการผลิตสาหรับโรงไฟฟ้า IPP/SPP ที่คืนทุนแล้ว โดยทบทวนสัญญา แต่อาจต้องใช้เวลาไม่ต่ากว่า 1 ปีในการเจรจาสัญญาใหม่จนแล้วเสร็จ ค่าไฟฟ้าปี 2024 และประมาณการค่าไฟฟ้าราย 4 เดือน ปี 2025 หน่วย : บาท/หน่วย 4.18 4.15 4.15 3.98 3.98 4.15 3.70 3.70 3.40 3.60 3.80 4.00 4.20 4.40 4.60 ค่ า ไฟฟ้ า เฉลี ่ ย กรณีฐาน (ลด adder & FiT) กรณีภาครัฐลดค่าไฟเหลือ 3.70 บาทต่อหน่วย (ลด adder & FiT และลดต้นทุนด้านโครงสร้าง) 2024 Jan-Apr 25 May-Aug 25 Sep-Dec 25 ค่าไฟฟ้ารายปี ปี 2020-2024 และประมาณการค่าไฟฟ้า 2025 หน่วย : บาท/หน่วย 3.63 3.60 4.16 4.61 4.18 4.04 4.18 3.85 3.50 4.00 4.50 5.00 2020 2021 2022 2023 2024 2025 ค่ า ไฟฟ้ า เฉลี ่ ย กรณีฐาน (ลด Adder & FiT) กรณีภาครัฐลดค่าไฟเหลือ 3.70 บาทต่อหน่วย (ลด adder & FiT และลดต้นทุนด้านโครงสร้าง)
  • 26.
    26 เงินเฟ้อทั่วไปกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในเดือน ธ.ค. ขณะที่ภาพรวมปี2025 มีความเสี่ยงด้านต่าเพิ่มขึ้น จากราคา พลังงาน โดยเฉพาะค่าไฟฟ้าที่มีแนวโน้มลดลงและมาตรการช่วยค่าครองชีพด้านพลังงานยังดาเนินไปอย่างต่อเนื่อง ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ แหล่งที่มาการขยายตัวของเงินเฟ้อไทย หน่วย : %YOY อัตราเงินเฟ้อทั่วไป รายหมวดสินค้า หน่วย : % %YOY Aug-24 Sep-24 Oct-24 Nov-24 Dec-24 YTD ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป 0.4% 0.6% 0.8% 0.9% 1.2% 0.4% อาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 1.8% 2.3% 1.9% 1.3% 1.3% 0.8% อาหารสด 1.9% 2.3% 1.6% 0.2% 0.2% 0.1% เนื้อสัตว์ -2.9% -2.1% 0.1% 0.3% -0.6% -6.9% อาหารบริโภค-ในบ้าน 1.9% 2.1% 1.8% 1.8% 1.9% 1.3% อาหารบริโภค-นอกบ้าน 1.7% 2.8% 3.0% 2.8% 2.9% 1.5% เครื่องนุ่งห่มและรองเท้า -0.6% -0.7% -0.5% -0.5% -0.5% -0.4% เคหสถาน -0.9% 0.4% 0.4% 0.4% 0.4% -0.2% ไฟฟ้า เชื้อเพลิง น้าประปาและแสงสว่าง -3.3% 1.4% 1.5% 1.5% 1.4% -0.9% การตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล 0.0% -0.1% -0.6% -0.3% -0.4% 0.1% พาหนะ การขนส่ง และการสื่อสาร -1.0% -1.8% -0.3% 1.4% 2.7% 0.4% การบันเทิงการอ่าน การศึกษา และการศาสนา 0.6% 0.6% 0.6% 0.5% 0.4% 0.5% ยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ 1.6% 1.3% 0.9% 0.8% 0.8% 1.2% ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน 0.6% 0.8% 0.8% 0.8% 0.8% 0.6% ดัชนีราคาหมวดพลังงาน (Energy CPI) หน่วย : Index 2015 =100 กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ 2.67% -2.00% 0.00% 2.00% 4.00% 6.00% 8.00% Jan-23 Mar-23 May-23 Jul-23 Sep-23 Nov-23 Jan-24 Mar-24 May-24 Jul-24 Sep-24 Nov-24 Core contribution Energy contribution Raw food contribution Headline Core เงินเฟ้อเริ่มกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในเดือน ธ.ค. ครั้งแรกในรอบ 7 เดือน โดยตลอด 20 เดือนที่ผ่านมาเงินเฟ้อไทยอยู่ในกรอบ 1-3% เพียง 2 เดือน 115 120 125 130 01/2024 03/2024 05/2024 07/2024 09/2024 11/2024 ค่าเฉลี่ย 1Q24 • ในช่วง Q1 เงินเฟ้ออาจขยายตัวสูงขึ้น จากดัชนีราคาหมวดพลังงานที่มีแนวโน้ม เติบโตสูงกว่าปีก่อนจากปัจจัยฐาน • ภาพรวมเงินเฟ้อไทยในปี 2025 มีความเสี่ยง ด้านต่าเพิ่มขึ้น จากค่าไฟฟ้าที่มีแนวโน้มลดลง และมาตรการช่วยค่าครองชีพด้านพลังงาน ยังดาเนินไปอย่างต่อเนื่อง
  • 27.
    27 การสื่อสารของ กนง. (ณม.ค. 2025) ทาให้ SCB EIC มองว่าแนวโน้มในการลดดอกเบี้ยในช่วงต้นปีลดลง • กนง. เน้นว่า การลดอัตราดอกเบี้ยในภาวะความไม่แน่นอนสูง จะมีประสิทธิผลในการกระตุ้น เศรษฐกิจจากัด • กนง. มองว่า ความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทยจะกระจุกตัวในช่วงครึ่งปีแรก จึงจาเปเนต้องเก็บรักษา policy space ในการลดดอกเบี้ยไว้ก่อน SCB EIC มองว่าความเปราะบางของอุปสงค์ในประเทศ ความตึงตัวของภาวะสินเชื่อที่มีอยู่เดิม ประกอบกับความเสี่ยงด้านลบของเศรษฐกิจไทยจะชัดเจนขึ้นในช่วงกลางปี และจะเปเนปัจจัยที่ทาให้ กนง. พิจารณาลดดอกเบี้ยลงเพื่อผ่อนคลายนโยบายการเงินลง เตรียมความพร้อมให้เศรษฐกิจไทย เผชิญผลลบจากนโยบายการค้าสหรัฐฯ ที่จะชัดเจนขึ้นในครึ่งหลังของปี SCB EIC มองว่า กนง. ยังมีโอกาสลดดอกเบี้ยในช่วงกลางปีนี้ เมื่อความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทยชัดเจนขึ้น หมายเหตุ : (1) ยอดคงค้างสินเชื่อ ธพ. ตัวรวม ประกอบด้วย สินเชื่อธุรกิจ สินเชื่อครัวเรือน สินเชื่อ Interbank และภาครัฐ (2) ข้อมูลมาตรฐานการให้สินเชื่อจาก Credit Conditions Survey โดยธนาคารแห่งประเทศไทย สาหรับมาตรฐานการให้สินเชื่อส่วนบุคคล (Individual) เปเนการถัวเฉลี่ยตามยอดคงค้างสินเชื่อแต่ละประเภท ณ ไตรมาสนั้น ๆ ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB EIC จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย กนง. มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยในไตรมาส 1 สินเชื่อธนาคารพาณิชย์หดตัวเกือบตลอดปี 2024 ในครึ่งปีหลัง กนง. มีโอกาสลดดอกเบี้ยเพื่อรองรับความเสี่ยงเศรษฐกิจไทย มาตรฐานการให้สินเชื่อรายย่อยเข้มงวดต่อเนื่อง ยอดคงค้างสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ หน่วย : %YOY มาตรฐานการให้สินเชื่อของสถาบันการเงิน หน่วย : Z-score, 4QMA -0.9 0.8 -2.0 -6 -2 2 6 10 04/2021 07/2021 10/2021 01/2022 04/2022 07/2022 10/2022 01/2023 04/2023 07/2023 10/2023 01/2024 04/2024 07/2024 10/2024 Total Business Individual ยอดคงค้างสินเชื่อรวม ของธนาคารพาณิชย์หดตัวเกือบตลอดปี 2024 -1 0 1 Q1-21 Q3-21 Q1-22 Q3-22 Q1-23 Q3-23 Q1-24 Q3-24 Corporate Individual เข้มงวดขึ้น ผ่อนคลายลง 0 = ค่าเฉลี่ยอดีต
  • 28.
    28 US Treasury yieldsลดลงและดัชนีเงินดอลลาร์อ่อนค่า หลัง Trump มีท่าทีผ่อนคลายต่อมาตรการ Tariffs และ ตลาดเกิดภาวะ Risk-off ทาให้เกิด Correction ต่อสินทรัพย์สหรัฐฯ ที่มี Valuation สูงมากในช่วงก่อนหน้า ค่าเงินบาทในปี 2024 หน่วย : บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ตลาดการเงินโลกผันผวนจากนโยบาย Trump’s Tariff และข่าว DeepSeek เงินทุนเคลื่อนย้ายสู่ตลาดการเงินไทย หน่วย : พันล้านบาท 100.0 102.0 104.0 106.0 108.0 110.0 32.0 34.0 36.0 38.0 Jan-24 Feb-24 Mar-24 Apr-24 May-24 Jun-24 Jul-24 Aug-24 Sep-24 Oct-24 Nov-24 Dec-24 Jan-25 USDTHB Dollar index -110 -60 -10 40 90 Apr-22 Jun-22 Aug-22 Oct-22 Dec-22 Feb-23 Apr-23 Jun-23 Aug-23 Oct-23 Dec-23 Feb-24 Apr-24 Jun-24 Aug-24 Oct-24 Dec-24 Equity market Bond market Bn THB YTD 2024 2023 2022 Equity -9.5 -148 -193 +196.9 Bond -3.4 -70 -144 +46.8 • ดัชนีดอลลาร์และเงินบาทผันผวนตาม Trump’s stance ต่อมาตรการ Tariffs • Global markets risk-off จากข่าว DeepSeek • มองว่า Floor เงินบาทอยู่ที่ราว 33.50-33.60 ผลจากการ Price-out tariffs เงินบาทอาจมีแนวโน้มแข็งค่ากว่านี้ หากมีปัจจัยอื่นเพิ่มเติม เช่น ตัวเลขเศรษฐกิจ สหรัฐฯ อ่อนแอ ราคาทองคาสูงขึ้นเร็ว เงินเยนมีข่าว BOJ ขึ้นดอกเบี้ยติดต่อกัน • ในระยะสั้น เงินบาทอาจผันผวนสูงและอ่อนค่าได้ จากคาขู่ Trump’s Tariffs และ Fed อาจยัง Higher for longer • ในระยะยาว เงินบาทอาจกลับมาแข็งค่าได้ หาก Fed ปรับลดดอกเบี้ยช่วงกลางปี เพราะ Valuation ของเงินดอลลาร์สูงไปมาก • เงินทุนเคลื่อนย้ายกลับมาไหลเข้าตลาดบอนด์ไทยอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ Trump เข้ารับตาแหน่ง อย่างไรก็ดี Bond flows ยังไหลออกสุทธิในเดือน ม.ค. 2025 Forecasts Q1-2025 Q2-2025 Q3-2025 Q4-2025 USDTHB 34.50 35.00 34.70 34.00 ที่มา : การวิเคราะห์โดย SCB FM จากข้อมูลของ Bloomberg
  • 29.
    Disclaimer This document ismade by The Siam Commercial Bank Public Company Limited (“SCB”) for the purpose of providing information summary only. Any information and analysis herein are collected and referred from public sources which may include economic information, marketing information or any reliable information prior to the date of this document. SCB makes no representation or warranty as to the accuracy, completeness and up-to-dateness of such information and SCB has no responsibility to verify or to proceed any action to make such information to be accurate, complete, and up-to-date in any respect. The information contained herein is not intended to provide legal, financial or tax advice or any other advice, and it shall not be relied or referred upon proceeding any transaction. In addition, SCB shall not be liable for any damages arising from the use of information contained herein in any respect.
  • 30.