นาย ฐิศิวัฒน์ ด่ านประเสริ ฐ รหัสนักศึกษา   54010911172
นาย ศราวุฒิ ปิ ตะฝ่ าย       รหัสนักศึกษา   54010911139
นาย พงศ์ พสุทธิ์ แสนธรรมพล รหัสนักศึกษา
           ิ                                54010911124
นาย พีนิธิ พฤทธิ์พรชนัน      รหัสนักศึกษา   54010911041
นาย ธงไท โพธิยันต์           รหัสนักศึกษา   54010911027
BRAND VALUE
ตราสินค้ า ( BRAND VALUE )
        หมายถึง ชื่อ เครื่ องหมายทางการค้า สัญลักษณ์หรื อการออกแบบต่าง
ๆ ที่เป็ นการระบุถึงสิ นค้าหรื อบริ การของผูขาย และเพื่อทาให้สินค้าของ
                                             ้
ตนเองแตกต่างจากคู่แข่งขัน ในขณะที่ให้ความหมายของตราสิ นค้า ว่าเป็ น
เครื่ องหมายทางการค้าที่ตองมีการจัดการผ่านความชานาญในการส่งเสริ ม
                              ้
                                ่
การตลาด และทาให้เข้าไปอยูในใจของลูกค้าเพื่อให้เกิดการยอมรับใน
คุณค่าและคุณสมบัติที่กาหนดไว้ท้ งสิ่ งที่สมผัสได้และสัมผัสไม่ได้
                                     ั     ั
มุมมองเกี่ยวกับตราสินค้ าไว้ 3 มุมมอง

    1. ตราสินค้ ากับประโยชน์ ในการ
    ป้ องกันด้ านกฎหมายตราสินค้ า

        2. ตราสินค้ ากับประโยชน์ ในการสร้ าง
        ความสัมพันธ์

             3. ตราสินค้ ากับประโยชน์ ทางด้ าน
             การเงิน
   1. ตราสิ นค้ ากับประโยชน์ ในการปองกันด้ านกฎหมายตราสิ นค้ า
                                      ้
          ซึ่งอาจจะเป็ นชื่อ คาอธิบาย สัญลักษณ์ หรื อตราสัญลักษณ์
    ของบริ ษทหี บห่ อหรื อบรรจุภณฑ์หรื อแม้กระทัง การโฆษณาที่
               ั                  ั               ่
    เกี่ยวข้องกับตราสิ นค้าสามารถป้ องกันได้ในด้านของกฎหมาย
    การจดทะเบียน ยินยอมเป็ นเจ้าของซึ่งสามารถใช้เป็ นข้อบังคับ
    ด้านกฎหมาย การจดทะเบียนทาให้ตราสิ นค้า นาไปสู่ ความ
    แตกต่างในตัวผลิตภัณฑ์และความเป็ นเจ้าของและที่สาคัญคือการ
    สร้างตราสิ นค้าที่มีลกษณะผูกขาดโดยใช้กฎหมายมาช่วย
                         ั
 2. ตราสิ นค้ ากับประโยชน์ ในการสร้ างความสั มพันธ์
        การสร้างความสัมพันธ์กบลูกค้าหรื อกลุ่มเป้ าหมายสามารถ
                               ั
  กระทาได้โดยผ่านกิจกรรมทางการตลาดที่หลากหลายซึ่ งสามารถ
  ป้ องกันการโจมตีจากคู่แข่งขันได้ แต่ไม่ได้ทาให้ลกษณะของ
                                                   ั
  สิ นค้าหรื อบริ การ มีความแตกต่างกันออกไป หากแต่สามารถ
  สร้างความสัมพันธ์ทางด้านอารมณ์และบทบาท หน้าที่ได้
   3. ตราสิ นค้ ากับประโยชน์ ทางด้ านการเงิน
         การทาความเข้าใจในเรื่ องตราสิ นค้า นอกจากเป็ นมุมมอง
                                               ั
    ทางด้านกฎหมายและการสร้างความสัมพันธ์กบลูกค้าแล้วยังต้อง
    พิจารณาถึงประโยชน์ทางด้านการเงินอีกด้วย
1.ปัจจัยทีส่งผลต่ อการเปลียนแปลงและการเกิดขึนของแนวโน้ ม
          ่               ่                 ้
                                                                 ่
          “Brand” คือ มูลค่าสิ นทรัพย์และคุณค่าของแบรนด์ที่อยูในใจของ
    ลูกค้าหรื อผูบริ โภค จนทาให้แบรนด์หรื อตราสิ นค้านั้นๆสามารถสร้าง
                 ้
    มูลค่าเพิ่มสูงๆให้กบเจ้าของได้ หรื อจะกล่าวถึงประโยชน์ก็คือ แบรนด์หรื อ
                        ั
                           ่
    ตราสิ นค้า ที่ไปติดอยูบนตัวสิ นค้าใดสิ นค้าหนึ่ง แล้วสามารถขายในราคาที่
    สูงมากกว่าสิ นค้นอื่นๆที่เป็ นสิ นค้าแบบเดียวกันแต่ไม่มี Brand ได้
    ตัวอย่าง
                                                                         ั
          Brand ที่มีมูลค่าสูง คือ brand “Intel” ที่สามารถสร้างมูลค่าให้กบ
    ผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (PC) ได้อย่างมหาศาล แม้วา Intel จะ่
    ไม่ใช่ผผลิต PC เลยก็ตาม
           ู้
External Influences, Internal Influencesปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน
 Internal Influences ปัจจัยภายใน
 การรับรู้
          Brand เกิดจากการรับสื่ อผ่านทางโฆษณา หรื อ จากคนรอบข้าง
                                        ่่
    ครอบครัว เพื่อน ซึ้งใช้brand นั้นอยูวามีประโยชน์อย่างไรทาไมถึงเลือก
    brand ที่ใช่อยู่ อาจเกิดจากครอบครัวที่ใช้brandนั้ นมานานแล้ว จึงติดbrand
    นั้นและอาจจะพิจราณา brand นั้นเป็ นอันดับแรก
ความจาเป็ น
          สิ่ งสาคัญ brand อาทิ แชมพู สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก กระเป๋ าถือ
  เรื่ อยไปจนถึงเครื่ องสาอางต่างๆ แต่เรามักจะเรี ยกที่ “แบรนด์” หรื อ ตรา
  สิ นค้านั้นๆ โดยตรง เช่น จะไปซื้อ โดฟ ลักส์ คอลเกต บรี ส โค้ช หลุยส์
  วิตตอง คลีนิค ลาแมร์ ฯลฯ เทรนด์น้ ีเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ยากที่จะบอก รู ้แค่เพียง
  มันเกิดขึ้นแล้ว และโอกาสที่จะกลับไปในโลกลักษณะเดิมที่จะเรี ยกสิ นค้า
  ตามประเภทคงจะไม่มี ในฐานะที่เป็ นนักการตลาดหรื อเจ้าของสิ นค้าควร
  จะจับตามองปรากฏการณ์น้ ี และให้ความสาคัญกับการปรับตัวให้เข้าไปอยู่
  ในโลกของผูบริ โภคปั จจุบนให้ได้ ว่าทาอย่างไรตราสิ นค้าเราจึงจะเป็ นที่
                   ้          ั
  หนึ่งในใจของผูบริ โภคได้
                     ้
แรงจูงใจ
        แรงจูงใจ เกิดจากแรงผลักดันของคนรอบข้าง ที่ใช้แบรนด์ใดแบรนด์
  หนึ่งอย่างต่อเนื่องแล้วมีผคนอีกหลายคนยอมรับแบรนด์ดงกล่าวว่าดี จึง
                            ู้                            ั
  เกิดแรงจูงใจให้บุคคลนั้นเลือกที่จะใช้แบรนด์ดงกล่าวด้วย เช่น เราเห็น
                                               ั
  โฆษณาสิ นค้าแบรนด์หนึ่งแล้วมีผบริ โภคมีการบริ โภคอย่างแพร่ หลายจึง
                                   ู้
  เกิดแรงจูงใจที่จะใช้แบรนด์น้ นแม้จะไม่รู้วาแบรนด์น้ นดีหรื อไม่ดีก็ตาม
                               ั            ่         ั
ทัศนคติ
        ความสัมพันธต่อตรา (Brand Relationship)ที่ดีต่อลูกค้า ทาให้เกิด
  ความเชื่อถือในแบรนด์ เมื่อออกสิ นค้าใหม่ ๆ ลูกค้าก็ตดสิ นใจซื้อแบรนด์
                                                      ั
  นั้นไม่ยาก เนื่องมาจาก ประวัติตรา ภาพพจน์ และสังคมตรา(Brand
  Association)
External Influences ปั จจัยภายนอก
ชนชั้นทางสังคม
        คนบางคนซื้อ brand ที่มีราคาสูงเพื่อบ่งบอกชนชั้นทางสังคม หรื อ
  การซื้อbrand เข้าสังคม เพราะbrand บางอย่างสามารถบอกได้ถึงชนชั้นทาง
  สังคม
สถานภาคทางสังคม
       จากการสารวจผูบริ โภคคนไทย พบว่ากลุ่มใหญ่สุด คือกลุ่มมองหาสภา
                         ้
นภาพของตนเอง เป็ นกลุ่มที่ห่วงภาพลักษณ์ตนเอง และต้องการมีสถานภาพที่ดี
ทางสังคม โดยผูบริ โภคชาวไทยติดอันดับ 1 ในผลสารวจประเด็นใช้แบรนด์เพื่อ
                    ้
เสริ มภาพลักษณ์และสถานภาพให้ดูดี ไฮโซในสังคม ในสัดส่วนถึง 92% จาก
                  ่
ค่าเฉลี่ยเอเชียอยูที่ 74% ทั้งนี้ แนวโน้มของผูบริ โภคคนไทยที่ใช้แบรนด์เนม เสริ ม
                                                 ้
ภาพลักษณ์ไฮโซ และสถานภาพทางสังคม มีแนวโน้มสูงกว่าค่าเฉลี่ยของเอเชีย
ตั้งแต่ปี 2550-2554 และเชื่อว่าปี นี้ค่าเฉลี่ยยังอยูในอันดับต้นๆ แม้วาภาพรวม
                                                    ่                ่
เศรษฐกิจจะอยูในภาวะถดถอย แต่กลุ่มผูบริ โภคที่มีฐานะยังคงให้ความสาคัญกับ
                ่                            ้
การใช้แบรนด์เนมและการจับจ่าย
       “การห่วงภาพลักษณ์และสถานภาพทางสังคมของคนไทย รวมทั้งการ
เลือกใช้แบรนด์เนมเพื่อเสริ มภาพลักษณ์ให้ดูดี
วัฒนธรรม

     สินค้ าที่กลุมคนกลุมคนหนึงใช้ แล้ วรู้สกประทับใจและใช้ แบรนด์
                   ่     ่     ่             ึ
      นันมาเป็ นเวลายาวนาน จึงเกิดวัฒนธรรมในการใช้ แบรนด์ใดแบ
        ้
      รนด์หนึงอย่างต่อเนื่องโดยการบอกกันโดยปากต่อ
              ่
Company background
บริษัท TOYOTA
   เริ่ มต้นขึ้นในปี 2499 ภายใต้การดาเนินงานของบริ ษท โตโยต้า มอเตอร์ เซลส์ จากัด
                                                         ั
                                  ้
    นับเป็ นโตโยต้าสาขาแรกที่กาวออกมาเติบโตนอกตลาดประเทศญี่ปุ่น โดยดาเนิ น
    กิจการนาเข้ารถยนต์สาเร็ จรู ปทั้งรถยนต์นง และรถบรรทุกซึ่งรถยนต์ในยุคแรกๆ ที่โต
                                             ั่
    โยต้านาเข้ามาทาตลาดในเมืองไทย อาทิ TOYO-ACE, STOUT,MS 40, DA, LAND
    CRUISER
             ตลอดระยะเวลานับตั้งแต่โตโยต้ารุ กเข้าสู่ ตลาดเมืองไทย ความทุ่มเทของโตโยต้า
    คือ ความพยายามที่จะตอบสนองความต้องการสูงสุดของลูกค้า ทั้งในกระบวนการผลิต
    ระดับมาตรฐานโลก เทคโนโลยีล้ าสมัย รวมถึงการสานึกต่อสิ่ งแวดล้อม คุณภาพการ
    บริ การ การมุ่งพัฒนาบุคลากร และการขยายกิจการ
             ปัจจุบน TOYOTA กลายเป็ นหนึ่ งในบริ ษทรถยนต์ช้ นนาของประเทศไทย ที่มี
                   ั                                  ั        ั
    ทุนจดทะเบียน 7,520 ล้านบาท ด้วยกาลังการผลิต 100,000 คันต่อปี มีพนักงานบริ ษท   ั
    กว่า 5,000 คน มีเครื อข่ายผูแทนจาหน่าย 89 แห่ง 241 โชว์รูมมีเครื อข่ายสนับสนุนจาก
                                ้
    บริ ษทผูผลิตชิ้นส่ วน 151 ราย
           ั ้
Business Analysis
มูลค่ าของตลาดทั้งหมด
Market Size
ส่ วนแบ่งตลาดรถยนต์(คัน)
    ตลาดรวม                555,515        366,332            +52%
    บริ ษท
         ั        (มกราคม-กันยายน 53)   (มกราคม-กันยายน52)   เติบโต
   โตโยต้า                  225,557    153,880               +47%
    อีซูซุ                 105,659       75,158              +41%
   ฮอนด้า                  82,063        62,999              +30%
   นิสสัน                  38,043        19,768              +92%
   มิตซูบิชิ               26,614        12,229              +118%
   มาสด้า                  25,763        7,535               +242%
   เชฟโรเลต                13,706        10,456              +31%
   ฟอร์ด                    7,084         5,235              +35%
   ซูซูกิ                  3 ,932         1,696              +132%
ส่ วนแบ่ งตลาดส่ งออกรถยนต์ สาเร็จรู ป
Market Chare
ยีห้อ
  ่         03 (ม.ค.-ต.ค.)   02 (ม.ค.-ต.ค.)   ส่วนแบ่งตลาด
โตโยต้า         150,176          103,712          36.3 %
อีซูซุ          106,093          72,846           24.9 %
ฮอนด้า           55,426          42,978            13 %
นิสสัน           34,668          36,084           8.1 %
มิตซูบิชิ       27,261           25,752            6.4 %
คู่แข่ งขันบริษัทโตโยต้ า
จุดแข็ง (Strengths)
            เป็ นจุดเด่นของรถยนต์ TOYOTA SOLUNA ซึ่ งวิเคราะห์จาก
   สิ่ งแวดล้อมภายในของบริ ษท โดยมีรายละเอียดดังนี้
                                 ั
 1. เป็ นรถยนต์ที่มีเครื่ องยนต์ขนาด 1500 cc แต่มีราคาถูกกว่ารถยนต์ที่มีขนาด
   เครื่ องยนต์เท่ากัน
       2. มีการสร้างความน่าเชื่อถือในคุณภาพ
       3. เป็ นยีหอรถยนต์ ที่มีคนรู ้จกและเชื่อมันในคุณภาพ
                  ่ ้                  ั          ่
                                        ั                        ่
        4. เป็ นรถยนต์ที่มีรูปแบบที่ทนสมัย มีการพัฒนารู ปลักษณ์อยูตลอดเวลา
                           ่
        5. มีศูนย์บริ การอยูครอบคลุมทัวทุกพื้นที่
                                           ่
                                                           ่
        6. วัสดุ อุปกรณ์ทุกชิ้นของ TOYOTA SOLUNA ได้ผานการเลือกสรร
   พร้อมทั้งผ่าน
6W 1 H
                                                                  ่
    What ซื้อความสะดวก สบาย รู ปลักษณ์ สมรรถนะของรถยนต์วา ตรงต่อความต้องการของ
    ลูกค้าในแบบใด เช่น Toyota Prius เน้นในเรื่ อง การประหยัดน้ ามันและรู ปลักษณ์ที่ทนสมัย
                                                                                    ั
    และ Toyota Vigo เน้นเรื่ องบรรทุกสิ่ งของข้างหลังเพราะเป็ นรถปิ คอัพ

   Who กลุ่มลูกค้าที่มาซื้อรถยนต์ Toyota เจาะจงกลุ่มบุคคลที่มีฐานะและรายปานกลาง ส่วนหนึ่ง
    มีอาชีพรับราชการ ลูกค้าส่วนใหญ่อยูในเขตกรุ งเทพมหานครและต่างจังหวัด กลุ่มประเภท
                                       ่
    generation X และ generation Y

   When จะขายรถได้เมื่อลูกค้ามีความต้องการและกาลังการซื้อ เช่น เทศกาลปี ใหม่ที่ลูกค้าส่วน
                                 ่
    ใหญ่ได้โบนัสหรื อของขวัญที่พอแม่ซ้ือให้ลูกเมื่อศึกษาจบปริ ญญา ตรี เป็ นต้น

   Why เป็ นความต้องของลูกค้าที่ซ้ือผลิตภัณฑ์เป็ นเพราะ ชอบใน แบรนด์ ของรถยนต์หรื อชอบ
                                                            ั
    ในรู ปลักษณ์ ภายนอกหรื อสมรรถนะก็ได้หรื อมีทศนคติที่ดีกบ Toyota
                                                    ั
   Where โชว์รูม Toyota ที่ให้บริ การตามจังหวัดต่างๆที่ใกล้และสะดวกกับผูที่สนใจหรื อศูนย์ที่
                                                                         ้
    อยูตามอาเภอที่อาศัยอยู่
       ่

   Whom นักธุ รกิจ ข้าราชการ หรื อ พ่อแม่ที่ตองการซื้อรถไว้ใช้งาน
                                              ้

   How เมื่อมีโปรโมชันหรื อลูกค้าได้เข้าไปดูรถตาม Boot Toyota ที่ทางศูนย์ได้จดไว้โดยอาจจะมี
                      ่                                                       ั
    โปรโมชันควบคู่ไปด้วย
             ่
Segmentation การแบ่ งส่ วนตลาด

 1.เกณฑ์ประชากรศาสตร์
 -เราจะเน้ นกลุมบุคคลที่มีฐานะและรายปานกลาง ส่วนหนึงมีอาชีพ
                  ่                                 ่
  รับราชการ กลุมประเภท generation X และ generation
                    ่
  Y
 2.เกณฑ์ทางภูมิศาสตร์
 -มีโชว์รูมคลอบคลุมทัวประเทศแบ่งแยกออกไปตามจังหวัดหรื อ
                        ่
  อาเภอต่างๆ
 3.พฤติกรรม
 -ผู้ ที่ต้องการแสดงฐานะตนเอง
 -ผู้ ที่ต้องการความสะดวกสบาย
 -นักเดินทาง
Targeting ตลาดเปาหมาย
                ้
 -ตลาดมุงเฉพาะส่วน
             ่
 เป็ นการเลือกส่วนตลาดเพียงส่วนเดียวโดยให้ ตรงต่อความ
  ต้ องการของผู้บริโภคและสร้ างความพึงพอใจให้ ผ้ บริ โภคได้ ตรง
                                                    ู
  ส่วน
       ข้ อดี คือ สามารถเจาะเข้ าถึงกลุมผู้บริโภคได้ ตรง
                                        ่
  กลุมเปาหมาย
      ่ ้
Positioning การวางตาแหน่ งผลิตภัณฑ์
   -แนวคิดในการบริการที่ "พร้ อมจะมอบความพอใจสูงสุดให้ กบ     ั
    ลูกค้ า โดยประกันการสร้ างคุณภาพในทุกกระบวนการ" ผสาน
    กับความมุงมันของเหล่าพนักงานโตโยต้ า คือเบื ้องหลัง
                ่ ่
    ความสาเร็จของโตโยต้ า ที่ผลักดันให้ บริ ษัทฯ ครองความเป็ น
    อันดับหนึงของผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง
              ่
STP
การตลาดToyota หรื อ 4P's
          Product - ตัวสิ นค้าคือรถยนต์ยห้อ TOYOTA เป็ นรถยนต์ที่
                                        ี่
  มีราคาไม่สูงมากนัก เพียบพร้อมทั้งการออกแบบที่สวยงามกว่า
  รุ่ นก่อนๆที่เคยได้ผลิตออกมา และด้วยตราสิ นค้าที่มีมานานแล้ว
  จะทาให้ความน่าเชื่ อถือของสิ นค้ามีมากตามไปด้วย การออกแบบ
  ที่เป็ นเอกลักษณ์ของตัวสิ นค้าสร้างการจดจาได้ง่ายขึ้น
Price- ทางด้านราคามีราคาที่ไม่สูงมากซึ่ งถ้าเปรี ยบเทียบกับ
คู่แข่งแล้วจะมีราคาที่ต่ากว่า ซึ่ งจะช่วยทาให้กลุ่มเป้ าหมายนั้นมี
การตัดสิ นใจที่ง่ายขึ้นด้วย เนื่ องจากกลุ่มเป้ าหมายนั้นให้
ความสาคัญกับราคาด้วย และด้วยราคาของสิ นค้าในขณะนี้ น้ น        ั
เหมาะสมกับ Product Life Cycle ในขณะนี้
Place - การจัดจาหน่ายสิ นค้านั้นก็จะมีจาหน่ายทัวไปตาม
                                                     ่
โชว์รูมของ TOYOTA ซึ่ งในปั จจุบนนี้ก็ได้มีโชว์รูมเกิดขึ้นมา
                                   ั
มากมายเพื่อทาให้ลูกค้าเกิดความสะดวกสบายมากที่สุดในการที่
จะไปติดต่อสอบถามหรื อบริ โภคสิ นค้า มีการใช้กลยุทธ์เพื่อดึงดูด
ลูกค้าให้เข้ามาติดต่อหาข้อมูลที่โชว์รูมโดยใช้โฆษณาเป็ นสื่ อใน
การส่ งข่าวสาร
Promotion - สื่ อที่ใช้ในการโฆษณาเป็ นสื่ อหลักคือโทรทัศน์
เพราะว่าสามารถเข้าถึงผูบริ โภคได้ง่าย และสามารถกระตุนความ
                           ้                             ้
สนใจและความต้องการได้ดวยการใช้ภาพและเสี ยง และสื่ อเสริ ม
                               ้
จะเป็ นพวกนิตยสารต่าง ซึ่ งภายในนิตนสารนั้นจะให้รายละเอียด
ต่างๆไว้มากกว่าในโทรทัศน์เพื่อที่จะให้กลุ่มเป้ าหมายได้รับรู ้
ข่าวสารอย่างเพียงพอแก่ความต้องการ
สรุป
           การจะสร้างตราสิ นค้าให้ประสบความสาเร็ จในยุคนี้ไม่ใช่เริ่ มต้นด้วย
       การจ้างบริ ษทรับสร้าง brand มาเป็ นที่ปรึ กษาหรื อเริ่ มด้วยการจ้างบริ ษท
                   ั                                                           ั
       agency โฆษณาดังๆ มาทาโฆษณาให้ แต่ในทางกลับกันควรที่จะเริ่ มต้น
       ว่าบริ ษทควรหาคนที่มีความเข้าใจทั้งในธุรกิจและขั้นตอนการสร้างตรา
               ั
       สิ นค้าของคุณว่าเราจะเริ่ มขั้นตอนไปในทางที่ถูกต้องหรื อไม่ ต้องเริ่ ม
       จากตรงไหน คือ ขั้นตอนแรกของการสร้างตราสิ นค้า ซึ่งต้องมีความ
       สอดคล้องกับการวางตาแหน่งคุณค่าของตราสิ นค้าบ่งบอกถึงประโยชน์
       ของสิ นค้า บ่งบอกถึงประเภทของสิ นค้าหรื อบริ การ บ่งบอกถึงคุณภาพ
       ของสิ นค้า ออกเสี ยงได้ง่าย เป็ นที่รู้จกและจดจาได้ง่าย เป็ นชื่อสั้นๆ
                                               ั
       ต้องมีความโดดเด่น ต้องระมัดระวังไม่ให้มีความหมายที่ไม่ดีเมื่อใช้
       แล้วค่อยไปถึงเรื่ องความเกี่ยวพันธ์ทางบวกต้องสามารถสื่ อถึง
       ความหมายของตราสิ นค้าได้
ข้ อเสนอแนะ

        อย่าปล่อยให้คนที่ไม่เข้าใจในธุ รกิจของคุณอย่างถ่องแท้มา
                       ั
  กาหนดชะตาชีวิตให้กบธุ รกิจของคุณโดยพยายามที่จะสร้าง
  brand ของคุณโดยวิธี copy โดยเด็จขาด มิฉะนั้นจะเสี ยเงินฟรี
  หรื อ โดนเลียนแบบตราสิ นค้าได้

งานส่ง

  • 1.
    นาย ฐิศิวัฒน์ ด่านประเสริ ฐ รหัสนักศึกษา 54010911172 นาย ศราวุฒิ ปิ ตะฝ่ าย รหัสนักศึกษา 54010911139 นาย พงศ์ พสุทธิ์ แสนธรรมพล รหัสนักศึกษา ิ 54010911124 นาย พีนิธิ พฤทธิ์พรชนัน รหัสนักศึกษา 54010911041 นาย ธงไท โพธิยันต์ รหัสนักศึกษา 54010911027
  • 2.
    BRAND VALUE ตราสินค้ า( BRAND VALUE ) หมายถึง ชื่อ เครื่ องหมายทางการค้า สัญลักษณ์หรื อการออกแบบต่าง ๆ ที่เป็ นการระบุถึงสิ นค้าหรื อบริ การของผูขาย และเพื่อทาให้สินค้าของ ้ ตนเองแตกต่างจากคู่แข่งขัน ในขณะที่ให้ความหมายของตราสิ นค้า ว่าเป็ น เครื่ องหมายทางการค้าที่ตองมีการจัดการผ่านความชานาญในการส่งเสริ ม ้ ่ การตลาด และทาให้เข้าไปอยูในใจของลูกค้าเพื่อให้เกิดการยอมรับใน คุณค่าและคุณสมบัติที่กาหนดไว้ท้ งสิ่ งที่สมผัสได้และสัมผัสไม่ได้ ั ั
  • 3.
    มุมมองเกี่ยวกับตราสินค้ าไว้ 3มุมมอง 1. ตราสินค้ ากับประโยชน์ ในการ ป้ องกันด้ านกฎหมายตราสินค้ า 2. ตราสินค้ ากับประโยชน์ ในการสร้ าง ความสัมพันธ์ 3. ตราสินค้ ากับประโยชน์ ทางด้ าน การเงิน
  • 4.
    1. ตราสิ นค้ ากับประโยชน์ ในการปองกันด้ านกฎหมายตราสิ นค้ า ้ ซึ่งอาจจะเป็ นชื่อ คาอธิบาย สัญลักษณ์ หรื อตราสัญลักษณ์ ของบริ ษทหี บห่ อหรื อบรรจุภณฑ์หรื อแม้กระทัง การโฆษณาที่ ั ั ่ เกี่ยวข้องกับตราสิ นค้าสามารถป้ องกันได้ในด้านของกฎหมาย การจดทะเบียน ยินยอมเป็ นเจ้าของซึ่งสามารถใช้เป็ นข้อบังคับ ด้านกฎหมาย การจดทะเบียนทาให้ตราสิ นค้า นาไปสู่ ความ แตกต่างในตัวผลิตภัณฑ์และความเป็ นเจ้าของและที่สาคัญคือการ สร้างตราสิ นค้าที่มีลกษณะผูกขาดโดยใช้กฎหมายมาช่วย ั
  • 5.
     2. ตราสินค้ ากับประโยชน์ ในการสร้ างความสั มพันธ์ การสร้างความสัมพันธ์กบลูกค้าหรื อกลุ่มเป้ าหมายสามารถ ั กระทาได้โดยผ่านกิจกรรมทางการตลาดที่หลากหลายซึ่ งสามารถ ป้ องกันการโจมตีจากคู่แข่งขันได้ แต่ไม่ได้ทาให้ลกษณะของ ั สิ นค้าหรื อบริ การ มีความแตกต่างกันออกไป หากแต่สามารถ สร้างความสัมพันธ์ทางด้านอารมณ์และบทบาท หน้าที่ได้
  • 6.
    3. ตราสิ นค้ ากับประโยชน์ ทางด้ านการเงิน การทาความเข้าใจในเรื่ องตราสิ นค้า นอกจากเป็ นมุมมอง ั ทางด้านกฎหมายและการสร้างความสัมพันธ์กบลูกค้าแล้วยังต้อง พิจารณาถึงประโยชน์ทางด้านการเงินอีกด้วย
  • 7.
    1.ปัจจัยทีส่งผลต่ อการเปลียนแปลงและการเกิดขึนของแนวโน้ ม ่ ่ ้  ่ “Brand” คือ มูลค่าสิ นทรัพย์และคุณค่าของแบรนด์ที่อยูในใจของ ลูกค้าหรื อผูบริ โภค จนทาให้แบรนด์หรื อตราสิ นค้านั้นๆสามารถสร้าง ้ มูลค่าเพิ่มสูงๆให้กบเจ้าของได้ หรื อจะกล่าวถึงประโยชน์ก็คือ แบรนด์หรื อ ั ่ ตราสิ นค้า ที่ไปติดอยูบนตัวสิ นค้าใดสิ นค้าหนึ่ง แล้วสามารถขายในราคาที่ สูงมากกว่าสิ นค้นอื่นๆที่เป็ นสิ นค้าแบบเดียวกันแต่ไม่มี Brand ได้ ตัวอย่าง ั Brand ที่มีมูลค่าสูง คือ brand “Intel” ที่สามารถสร้างมูลค่าให้กบ ผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (PC) ได้อย่างมหาศาล แม้วา Intel จะ่ ไม่ใช่ผผลิต PC เลยก็ตาม ู้
  • 8.
    External Influences, InternalInfluencesปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน Internal Influences ปัจจัยภายใน การรับรู้ Brand เกิดจากการรับสื่ อผ่านทางโฆษณา หรื อ จากคนรอบข้าง ่่ ครอบครัว เพื่อน ซึ้งใช้brand นั้นอยูวามีประโยชน์อย่างไรทาไมถึงเลือก brand ที่ใช่อยู่ อาจเกิดจากครอบครัวที่ใช้brandนั้ นมานานแล้ว จึงติดbrand นั้นและอาจจะพิจราณา brand นั้นเป็ นอันดับแรก
  • 9.
    ความจาเป็ น สิ่ งสาคัญ brand อาทิ แชมพู สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก กระเป๋ าถือ เรื่ อยไปจนถึงเครื่ องสาอางต่างๆ แต่เรามักจะเรี ยกที่ “แบรนด์” หรื อ ตรา สิ นค้านั้นๆ โดยตรง เช่น จะไปซื้อ โดฟ ลักส์ คอลเกต บรี ส โค้ช หลุยส์ วิตตอง คลีนิค ลาแมร์ ฯลฯ เทรนด์น้ ีเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ยากที่จะบอก รู ้แค่เพียง มันเกิดขึ้นแล้ว และโอกาสที่จะกลับไปในโลกลักษณะเดิมที่จะเรี ยกสิ นค้า ตามประเภทคงจะไม่มี ในฐานะที่เป็ นนักการตลาดหรื อเจ้าของสิ นค้าควร จะจับตามองปรากฏการณ์น้ ี และให้ความสาคัญกับการปรับตัวให้เข้าไปอยู่ ในโลกของผูบริ โภคปั จจุบนให้ได้ ว่าทาอย่างไรตราสิ นค้าเราจึงจะเป็ นที่ ้ ั หนึ่งในใจของผูบริ โภคได้ ้
  • 10.
    แรงจูงใจ แรงจูงใจ เกิดจากแรงผลักดันของคนรอบข้าง ที่ใช้แบรนด์ใดแบรนด์ หนึ่งอย่างต่อเนื่องแล้วมีผคนอีกหลายคนยอมรับแบรนด์ดงกล่าวว่าดี จึง ู้ ั เกิดแรงจูงใจให้บุคคลนั้นเลือกที่จะใช้แบรนด์ดงกล่าวด้วย เช่น เราเห็น ั โฆษณาสิ นค้าแบรนด์หนึ่งแล้วมีผบริ โภคมีการบริ โภคอย่างแพร่ หลายจึง ู้ เกิดแรงจูงใจที่จะใช้แบรนด์น้ นแม้จะไม่รู้วาแบรนด์น้ นดีหรื อไม่ดีก็ตาม ั ่ ั
  • 11.
    ทัศนคติ ความสัมพันธต่อตรา (Brand Relationship)ที่ดีต่อลูกค้า ทาให้เกิด ความเชื่อถือในแบรนด์ เมื่อออกสิ นค้าใหม่ ๆ ลูกค้าก็ตดสิ นใจซื้อแบรนด์ ั นั้นไม่ยาก เนื่องมาจาก ประวัติตรา ภาพพจน์ และสังคมตรา(Brand Association)
  • 12.
    External Influences ปัจจัยภายนอก ชนชั้นทางสังคม คนบางคนซื้อ brand ที่มีราคาสูงเพื่อบ่งบอกชนชั้นทางสังคม หรื อ การซื้อbrand เข้าสังคม เพราะbrand บางอย่างสามารถบอกได้ถึงชนชั้นทาง สังคม
  • 13.
    สถานภาคทางสังคม จากการสารวจผูบริ โภคคนไทย พบว่ากลุ่มใหญ่สุด คือกลุ่มมองหาสภา ้ นภาพของตนเอง เป็ นกลุ่มที่ห่วงภาพลักษณ์ตนเอง และต้องการมีสถานภาพที่ดี ทางสังคม โดยผูบริ โภคชาวไทยติดอันดับ 1 ในผลสารวจประเด็นใช้แบรนด์เพื่อ ้ เสริ มภาพลักษณ์และสถานภาพให้ดูดี ไฮโซในสังคม ในสัดส่วนถึง 92% จาก ่ ค่าเฉลี่ยเอเชียอยูที่ 74% ทั้งนี้ แนวโน้มของผูบริ โภคคนไทยที่ใช้แบรนด์เนม เสริ ม ้ ภาพลักษณ์ไฮโซ และสถานภาพทางสังคม มีแนวโน้มสูงกว่าค่าเฉลี่ยของเอเชีย ตั้งแต่ปี 2550-2554 และเชื่อว่าปี นี้ค่าเฉลี่ยยังอยูในอันดับต้นๆ แม้วาภาพรวม ่ ่ เศรษฐกิจจะอยูในภาวะถดถอย แต่กลุ่มผูบริ โภคที่มีฐานะยังคงให้ความสาคัญกับ ่ ้ การใช้แบรนด์เนมและการจับจ่าย “การห่วงภาพลักษณ์และสถานภาพทางสังคมของคนไทย รวมทั้งการ เลือกใช้แบรนด์เนมเพื่อเสริ มภาพลักษณ์ให้ดูดี
  • 14.
    วัฒนธรรม  สินค้ าที่กลุมคนกลุมคนหนึงใช้ แล้ วรู้สกประทับใจและใช้ แบรนด์ ่ ่ ่ ึ นันมาเป็ นเวลายาวนาน จึงเกิดวัฒนธรรมในการใช้ แบรนด์ใดแบ ้ รนด์หนึงอย่างต่อเนื่องโดยการบอกกันโดยปากต่อ ่
  • 15.
  • 16.
    บริษัท TOYOTA  เริ่ มต้นขึ้นในปี 2499 ภายใต้การดาเนินงานของบริ ษท โตโยต้า มอเตอร์ เซลส์ จากัด ั ้ นับเป็ นโตโยต้าสาขาแรกที่กาวออกมาเติบโตนอกตลาดประเทศญี่ปุ่น โดยดาเนิ น กิจการนาเข้ารถยนต์สาเร็ จรู ปทั้งรถยนต์นง และรถบรรทุกซึ่งรถยนต์ในยุคแรกๆ ที่โต ั่ โยต้านาเข้ามาทาตลาดในเมืองไทย อาทิ TOYO-ACE, STOUT,MS 40, DA, LAND CRUISER ตลอดระยะเวลานับตั้งแต่โตโยต้ารุ กเข้าสู่ ตลาดเมืองไทย ความทุ่มเทของโตโยต้า คือ ความพยายามที่จะตอบสนองความต้องการสูงสุดของลูกค้า ทั้งในกระบวนการผลิต ระดับมาตรฐานโลก เทคโนโลยีล้ าสมัย รวมถึงการสานึกต่อสิ่ งแวดล้อม คุณภาพการ บริ การ การมุ่งพัฒนาบุคลากร และการขยายกิจการ ปัจจุบน TOYOTA กลายเป็ นหนึ่ งในบริ ษทรถยนต์ช้ นนาของประเทศไทย ที่มี ั ั ั ทุนจดทะเบียน 7,520 ล้านบาท ด้วยกาลังการผลิต 100,000 คันต่อปี มีพนักงานบริ ษท ั กว่า 5,000 คน มีเครื อข่ายผูแทนจาหน่าย 89 แห่ง 241 โชว์รูมมีเครื อข่ายสนับสนุนจาก ้ บริ ษทผูผลิตชิ้นส่ วน 151 ราย ั ้
  • 17.
    Business Analysis มูลค่ าของตลาดทั้งหมด MarketSize ส่ วนแบ่งตลาดรถยนต์(คัน) ตลาดรวม 555,515 366,332 +52% บริ ษท ั (มกราคม-กันยายน 53) (มกราคม-กันยายน52) เติบโต  โตโยต้า 225,557 153,880 +47%  อีซูซุ 105,659 75,158 +41%  ฮอนด้า 82,063 62,999 +30%  นิสสัน 38,043 19,768 +92%  มิตซูบิชิ 26,614 12,229 +118%  มาสด้า 25,763 7,535 +242%  เชฟโรเลต 13,706 10,456 +31%  ฟอร์ด 7,084 5,235 +35%  ซูซูกิ 3 ,932 1,696 +132%
  • 18.
    ส่ วนแบ่ งตลาดส่งออกรถยนต์ สาเร็จรู ป Market Chare ยีห้อ ่ 03 (ม.ค.-ต.ค.) 02 (ม.ค.-ต.ค.) ส่วนแบ่งตลาด โตโยต้า 150,176 103,712 36.3 % อีซูซุ 106,093 72,846 24.9 % ฮอนด้า 55,426 42,978 13 % นิสสัน 34,668 36,084 8.1 % มิตซูบิชิ 27,261 25,752 6.4 %
  • 19.
    คู่แข่ งขันบริษัทโตโยต้ า จุดแข็ง(Strengths) เป็ นจุดเด่นของรถยนต์ TOYOTA SOLUNA ซึ่ งวิเคราะห์จาก สิ่ งแวดล้อมภายในของบริ ษท โดยมีรายละเอียดดังนี้ ั  1. เป็ นรถยนต์ที่มีเครื่ องยนต์ขนาด 1500 cc แต่มีราคาถูกกว่ารถยนต์ที่มีขนาด เครื่ องยนต์เท่ากัน  2. มีการสร้างความน่าเชื่อถือในคุณภาพ  3. เป็ นยีหอรถยนต์ ที่มีคนรู ้จกและเชื่อมันในคุณภาพ ่ ้ ั ่  ั ่ 4. เป็ นรถยนต์ที่มีรูปแบบที่ทนสมัย มีการพัฒนารู ปลักษณ์อยูตลอดเวลา  ่ 5. มีศูนย์บริ การอยูครอบคลุมทัวทุกพื้นที่ ่  ่ 6. วัสดุ อุปกรณ์ทุกชิ้นของ TOYOTA SOLUNA ได้ผานการเลือกสรร พร้อมทั้งผ่าน
  • 20.
    6W 1 H  ่ What ซื้อความสะดวก สบาย รู ปลักษณ์ สมรรถนะของรถยนต์วา ตรงต่อความต้องการของ ลูกค้าในแบบใด เช่น Toyota Prius เน้นในเรื่ อง การประหยัดน้ ามันและรู ปลักษณ์ที่ทนสมัย ั และ Toyota Vigo เน้นเรื่ องบรรทุกสิ่ งของข้างหลังเพราะเป็ นรถปิ คอัพ  Who กลุ่มลูกค้าที่มาซื้อรถยนต์ Toyota เจาะจงกลุ่มบุคคลที่มีฐานะและรายปานกลาง ส่วนหนึ่ง มีอาชีพรับราชการ ลูกค้าส่วนใหญ่อยูในเขตกรุ งเทพมหานครและต่างจังหวัด กลุ่มประเภท ่ generation X และ generation Y  When จะขายรถได้เมื่อลูกค้ามีความต้องการและกาลังการซื้อ เช่น เทศกาลปี ใหม่ที่ลูกค้าส่วน ่ ใหญ่ได้โบนัสหรื อของขวัญที่พอแม่ซ้ือให้ลูกเมื่อศึกษาจบปริ ญญา ตรี เป็ นต้น  Why เป็ นความต้องของลูกค้าที่ซ้ือผลิตภัณฑ์เป็ นเพราะ ชอบใน แบรนด์ ของรถยนต์หรื อชอบ ั ในรู ปลักษณ์ ภายนอกหรื อสมรรถนะก็ได้หรื อมีทศนคติที่ดีกบ Toyota ั
  • 21.
    Where โชว์รูม Toyota ที่ให้บริ การตามจังหวัดต่างๆที่ใกล้และสะดวกกับผูที่สนใจหรื อศูนย์ที่ ้ อยูตามอาเภอที่อาศัยอยู่ ่  Whom นักธุ รกิจ ข้าราชการ หรื อ พ่อแม่ที่ตองการซื้อรถไว้ใช้งาน ้  How เมื่อมีโปรโมชันหรื อลูกค้าได้เข้าไปดูรถตาม Boot Toyota ที่ทางศูนย์ได้จดไว้โดยอาจจะมี ่ ั โปรโมชันควบคู่ไปด้วย ่
  • 22.
    Segmentation การแบ่ งส่วนตลาด  1.เกณฑ์ประชากรศาสตร์  -เราจะเน้ นกลุมบุคคลที่มีฐานะและรายปานกลาง ส่วนหนึงมีอาชีพ ่ ่ รับราชการ กลุมประเภท generation X และ generation ่ Y  2.เกณฑ์ทางภูมิศาสตร์  -มีโชว์รูมคลอบคลุมทัวประเทศแบ่งแยกออกไปตามจังหวัดหรื อ ่ อาเภอต่างๆ  3.พฤติกรรม  -ผู้ ที่ต้องการแสดงฐานะตนเอง  -ผู้ ที่ต้องการความสะดวกสบาย  -นักเดินทาง
  • 23.
    Targeting ตลาดเปาหมาย ้  -ตลาดมุงเฉพาะส่วน ่  เป็ นการเลือกส่วนตลาดเพียงส่วนเดียวโดยให้ ตรงต่อความ ต้ องการของผู้บริโภคและสร้ างความพึงพอใจให้ ผ้ บริ โภคได้ ตรง ู ส่วน  ข้ อดี คือ สามารถเจาะเข้ าถึงกลุมผู้บริโภคได้ ตรง ่ กลุมเปาหมาย ่ ้
  • 24.
    Positioning การวางตาแหน่ งผลิตภัณฑ์  -แนวคิดในการบริการที่ "พร้ อมจะมอบความพอใจสูงสุดให้ กบ ั ลูกค้ า โดยประกันการสร้ างคุณภาพในทุกกระบวนการ" ผสาน กับความมุงมันของเหล่าพนักงานโตโยต้ า คือเบื ้องหลัง ่ ่ ความสาเร็จของโตโยต้ า ที่ผลักดันให้ บริ ษัทฯ ครองความเป็ น อันดับหนึงของผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง ่
  • 25.
  • 26.
    การตลาดToyota หรื อ4P's Product - ตัวสิ นค้าคือรถยนต์ยห้อ TOYOTA เป็ นรถยนต์ที่ ี่ มีราคาไม่สูงมากนัก เพียบพร้อมทั้งการออกแบบที่สวยงามกว่า รุ่ นก่อนๆที่เคยได้ผลิตออกมา และด้วยตราสิ นค้าที่มีมานานแล้ว จะทาให้ความน่าเชื่ อถือของสิ นค้ามีมากตามไปด้วย การออกแบบ ที่เป็ นเอกลักษณ์ของตัวสิ นค้าสร้างการจดจาได้ง่ายขึ้น
  • 27.
    Price- ทางด้านราคามีราคาที่ไม่สูงมากซึ่ งถ้าเปรียบเทียบกับ คู่แข่งแล้วจะมีราคาที่ต่ากว่า ซึ่ งจะช่วยทาให้กลุ่มเป้ าหมายนั้นมี การตัดสิ นใจที่ง่ายขึ้นด้วย เนื่ องจากกลุ่มเป้ าหมายนั้นให้ ความสาคัญกับราคาด้วย และด้วยราคาของสิ นค้าในขณะนี้ น้ น ั เหมาะสมกับ Product Life Cycle ในขณะนี้
  • 28.
    Place - การจัดจาหน่ายสินค้านั้นก็จะมีจาหน่ายทัวไปตาม ่ โชว์รูมของ TOYOTA ซึ่ งในปั จจุบนนี้ก็ได้มีโชว์รูมเกิดขึ้นมา ั มากมายเพื่อทาให้ลูกค้าเกิดความสะดวกสบายมากที่สุดในการที่ จะไปติดต่อสอบถามหรื อบริ โภคสิ นค้า มีการใช้กลยุทธ์เพื่อดึงดูด ลูกค้าให้เข้ามาติดต่อหาข้อมูลที่โชว์รูมโดยใช้โฆษณาเป็ นสื่ อใน การส่ งข่าวสาร
  • 29.
    Promotion - สื่อที่ใช้ในการโฆษณาเป็ นสื่ อหลักคือโทรทัศน์ เพราะว่าสามารถเข้าถึงผูบริ โภคได้ง่าย และสามารถกระตุนความ ้ ้ สนใจและความต้องการได้ดวยการใช้ภาพและเสี ยง และสื่ อเสริ ม ้ จะเป็ นพวกนิตยสารต่าง ซึ่ งภายในนิตนสารนั้นจะให้รายละเอียด ต่างๆไว้มากกว่าในโทรทัศน์เพื่อที่จะให้กลุ่มเป้ าหมายได้รับรู ้ ข่าวสารอย่างเพียงพอแก่ความต้องการ
  • 30.
    สรุป การจะสร้างตราสิ นค้าให้ประสบความสาเร็ จในยุคนี้ไม่ใช่เริ่ มต้นด้วย การจ้างบริ ษทรับสร้าง brand มาเป็ นที่ปรึ กษาหรื อเริ่ มด้วยการจ้างบริ ษท ั ั agency โฆษณาดังๆ มาทาโฆษณาให้ แต่ในทางกลับกันควรที่จะเริ่ มต้น ว่าบริ ษทควรหาคนที่มีความเข้าใจทั้งในธุรกิจและขั้นตอนการสร้างตรา ั สิ นค้าของคุณว่าเราจะเริ่ มขั้นตอนไปในทางที่ถูกต้องหรื อไม่ ต้องเริ่ ม จากตรงไหน คือ ขั้นตอนแรกของการสร้างตราสิ นค้า ซึ่งต้องมีความ สอดคล้องกับการวางตาแหน่งคุณค่าของตราสิ นค้าบ่งบอกถึงประโยชน์ ของสิ นค้า บ่งบอกถึงประเภทของสิ นค้าหรื อบริ การ บ่งบอกถึงคุณภาพ ของสิ นค้า ออกเสี ยงได้ง่าย เป็ นที่รู้จกและจดจาได้ง่าย เป็ นชื่อสั้นๆ ั ต้องมีความโดดเด่น ต้องระมัดระวังไม่ให้มีความหมายที่ไม่ดีเมื่อใช้ แล้วค่อยไปถึงเรื่ องความเกี่ยวพันธ์ทางบวกต้องสามารถสื่ อถึง ความหมายของตราสิ นค้าได้
  • 31.
    ข้ อเสนอแนะ อย่าปล่อยให้คนที่ไม่เข้าใจในธุ รกิจของคุณอย่างถ่องแท้มา ั กาหนดชะตาชีวิตให้กบธุ รกิจของคุณโดยพยายามที่จะสร้าง brand ของคุณโดยวิธี copy โดยเด็จขาด มิฉะนั้นจะเสี ยเงินฟรี หรื อ โดนเลียนแบบตราสิ นค้าได้