พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเข้าพระราชหฤทัยในความเป็นไปของเมืองไทย
 เศรษฐกิจพอเพียงคืออะไร
                             และคนไทยอย่างลึกซึ้งและกว้างไกล ได้ทรงวางรากฐานในการพัฒนาชนบท และช่วยเหลือ
  ประวัติความเป็นมาของ       ประชาชนให้สามารถพึ่งตนเองได้มีความ " พออยู่พอกิน" และมีความอิสระที่จะอยู่ได้
    เศรษฐกิจพอเพียง          โดยไม่ต้องติดยึดอยู่กับเทคโนโลยี และความเปลี่ยนแปลงของกระแสโลกาภิวัฒน์ ทรง
   ประการที่สาคัญของ         วิเคราะห์ว่าหากประชาชนพึ่งตนเองได้แล้วก็จะมีส่วนช่วยเหลือเสริมสร้างประเทศชาติโดย
    เศรษฐกิจพอเพียง          ส่วนรวม ได้ในที่สุด พระราชดารัสที่สะท้อนถึงพระวิสัยทัศน์ในการสร้างความเข้มแข็งใน
    ปรัชญาและแนวคิด          ตนเองของประชาชนและสามารถทามาหากินให้พออยู่พอกินได้ ดังนี้
     หลักแนวคิดของ                  "….ในการสร้างถนน สร้างชลประทานให้ประชาชนใช้นั้น จะต้องช่วยประชาชน
    เศรษฐกิจพอเพียง          ในทางบุคคลหรือพัฒนาให้บุคคลมีความรู้และอนามัยแข็งแรง ด้วยการให้การศึกษาและการ
  แนวทางการประยุกต์ใช้       รักษาอนามัย เพื่อให้ประชาชนในท้องที่สามารถทาการเกษตรได้ และค้าขายได้ …"
 ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
การสร้างขบวนการขับเคลื่อน              ในสภาวการณ์ปัจจุบัน ซึ่งเกิดความถดถอยทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงขึ้นนี้จึงทาให้
    เศรษฐกิจพอเพียง          เกิดความเข้าใจได้ชัดเจนในแนวพระราชดาริของ "เศรษฐกิจพอเพียง" ซึ่งได้ทรงคิดและ
                             ตระหนักมาช้านาน เพราะหากเราไม่ไปพี่งพา ยึดติดอยู่กับกระแสจากภายนอกมากเกินไปจน
  ขั้นตอนการปฏิบัติสู่วิถี
                             ได้ครอบงาความคิดในลักษณะดั้งเดิมแบบไทยๆไปหมด มีแต่ความทะเยอทะยานบนรากฐาน
      เศรษฐกิจพอเพียง
                             ที่ไม่มั่นคงเหมือนลักษณะฟองสบู่ วิกฤตเศรษฐกิจเช่นนี้อาจไม่เกิดขึ้น หรือไม่หนักหนา
ผลที่เกิดจากการปฏิบัติตาม    สาหัสจนเกิดความเดือดร้อนกันถ้วนทั่วเช่นนี้ ดังนั้น "เศรษฐกิจพอเพียง" จึงได้สื่อ
  แนวเศรษฐกิจพอเพียง         ความหมาย ความสาคัญในฐานะเป็นหลักการสังคมที่พึงยึดถือ
 เศรษฐกิจพอเพียงกับการ
ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน
          อ้างอิง
       คณะผู้จัดทา
ในทางปฏิบัติจุดเริ่มต้นของการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียงคือ การฟื้นฟูเศรษฐกิจชุมชนท้องถิ่น เศรษฐกิจ
พอเพียงเป็นทั้งหลักการและกระบวนการทางสังคม ตั้งแต่ขั้นฟื้นฟูและขยายเครือข่ายเกษตรกรรมยั่งยืน เป็นการพัฒนา
ขีดความสามารถในการผลิตและบริโภคอย่างพออยู่พอกินขึ้นไปถึงขั้นแปรรูปอุตสาหกรรมครัวเรือน สร้างอาชีพและ
ทักษะวิชาการที่หลากหลายเกิดตลาดซื้อขาย สะสมทุน ฯลฯ บนพื้นฐานเครือข่ายเศรษฐกิจชุมชนนี้ เศรษฐกิจของ 3
ชาติ จะพัฒนาขึ้นมาอย่างมั่นคงทั้งในด้านกาลังทุนและตลาดภายในประเทศรวมทั้งเทคโนโลยีซึ่งจะค่อยๆ พัฒนาขึ้นมา
จากฐานทรัพยากรและภูมิปัญญาที่มีอยู่ภายในชาติ และทั้งที่จะพึงคัดสรรเรียนรู้จากโลกภายนอก

         เศรษฐกิจพอเพียงเป็นเศรษฐกิจที่พอเพียงกับตัวเอง ทาให้อยู่ได้ ไม่ต้องเดือดร้อน มีสิ่งจาเป็นที่ทาได้โดยตัวเอง
ไม่ต้องแข่งขันกับใคร และมีเหลือเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ไม่มี อันนาไปสู่การแลกเปลี่ยนในชุมชน และขยายไปจนสามารถที่
จะเป็นสินค้าส่งออก เศรษฐกิจพอเพียงเป็นเศรษฐกิจระบบเปิดที่เริ่มจากตนเองและความร่วมมือ วิธีการเช่นนี้จะดึง
ศักยภาพของ ประชากรออกมาสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวซึ่งมีความผู้พันกับ “จิตวิญญาณ” คือ “คุณค่า” มากกว่า
“มูลค่า”
เศรษฐกิจพอเพียงคืออะไร
          “เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดารัสชี้แนะแนวทางการดาเนินชีวิตแก่
พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า ๒๕ ปี ตั้งแต่ก่อนวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ และเมื่อภายหลังได้ทรงเน้นย้าแนวทางการ
แก้ไขเพื่อให้รอดพ้น และสามารถดารงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ
เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดารงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับตั้งแต่ระดับครอบครัวระดับชุมชน
จนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดาเนินไปใน ทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทัน
ต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจาเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันใน
ตัวที่ดีพอสมควร ต่อการมีผลกระทบใดๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน ทั้งนี้ จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความ
รอบคอบ และความระมัดระวังอย่างยิ่งในการนาวิชาการต่างๆมาใช้ในการวางแผนและการดาเนินการทุกขั้นตอน และ
ขณะเดียวกันจะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ นักทฤษฎีและนักธุรกิจในทุกระดับให้มี
สานึกในคุณธรรมความซื่อสัตย์สุจริต และให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสม ดาเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญา และ
ความรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวางทั้งด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม
และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี
ความพอเพียง         หมายถึง ความพอประมาณความมีเหตุผลรวมถึงความจาเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี
พอสมควรต่อการมีผลกระทบใด ๆอันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายในทั้งนี้จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความ
รอบคอบและความระมัดระวังอย่างยิ่งในการนาวิชาการต่างๆ มาใช้ในการวางแผนและการดาเนินการทุกขั้นตอน และ
ขณะเดียวกันจะต้องสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ นักทฤษฎี และนักธุรกิจในทุกระดับ ให้มี
สานึกในคุณธรรมความซื่อสัตย์สุจริตและให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสม ดาเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติปัญญา และ
ความรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ทั้งด้านวัตถุ สังคมสิ่งแวดล้อม
และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี
ประวัติความเป็นมาของเศรษฐกิจพอเพียง
      เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดาริ ชี้แนะแนวทางการดาเนินชีวิตแก่พสก
นิกรชาวไทย ซึ่งพระองค์ทรงมีพระราชหฤทัยมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือผู้ ที่ประกอบอาชีพในภาคเกษตรกรรม ที่มักต้องประสบกับ
ปัญหาความแปรปรวนของดินฟ้าอากาศ เช่น ฝนตกไม่สม่าเสมอ เกิดภาวะแห้งแล้งทั่วไปหรือในช่วงหน้าฝนเกิดภาวะน้าท่วม ทา
ให้การเกษตรกรรม ไม่ได้ผลผลิตเท่าที่ควร




 พระองค์จึงทรงมีพระราชดาริที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว และยกระดับพัฒนาความเป็นอยู่ ของราษฎรในภาคเกษตรกรรม
ให้เกิดความพออยู่พอกิน และสามารถพึ่งพาตนเองได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชวินิจฉัย ค้นคว้า สารวจ
รวบรวมข้อมูล แล้วทาการทดสอบเกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรน้า ที่ดิน พันธุ์พืช เพื่อให้เกษตรกรรมสามารถดารงชีวิตอยู่ได้ใน
พื้นที่ของตนเองที่เรารู้จักกันในชื่อ “ทฤษฎีใหม่” ใช้หลักการบริหารจัดการที่ดินและน้าเพื่อการเกษตรในที่ดินที่มีอยู่จากัดให้เกิด
ประโยชน์สูงสุดอันเป็นแนวทางการพัฒนาการเกษตรแบบพึ่งตนเอง โดยการปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ และทาการประมง ให้เกิดการ
พัฒนาที่ยั่งยืน โดยการทาการเกษตรในลักษณะเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้เกิดความพออยู่พอกิน
 พระองค์ทรงนาทฤษฎีดังกล่าวไปทาการทดลองที่วัดมงคลชัยพัฒนา ตาบลห้วยบง และตาบลเขาดินพัฒนา อาเภอเมือง
(ปัจจุบันคืออาเภอเฉลิมพระเกียรติ) จังหวัดสระบุรี ซึ่งประสบผลสาเร็จเป็นอย่างดีต่อมาในช่วง พ.ศ.     2540 ประเทศไทยต้อง
ประสบกับภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจเกิด ภาวะเศรษฐกิจตกต่าอย่างรุนแรง ประชาชนได้รับความเดือนร้อน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่
ประกอบอาชีพ ในภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการหลายรายที่ต้องปิดกิจการลง ทาให้ประชาชนตกงานเป็น
จานวนมากก่อให้เกิดปัญหาการว่างงานอย่างรุนแรงและต่อเนื่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหาวิธีการที่จะช่วยเหลือพสก
นิกรที่ ประสบปัญหาให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
 พระองค์จึงได้ทรงพระราชทานพระราชดาริเรื่อง              “เศรษฐกิจพอเพียง” เพื่อเป็นแนวทางใหม่ในการดารงชีวิต เพื่อให้รอด
พ้นและสามารถดารงอยู่ได้อย่าง มั่นคงและยั่งยืน โดยการนาหลักการและวิธีการที่ใช้ภาคเกษตรกรรมมาประยุกต์ใช้ในการ
บริหารจัดการ การดาเนินชีวิตของประชาชนชาวไทยให้รู้จักการดาเนินชีวิตอยู่อย่างพอประมาณ เดินสายกลาง มีความพอดีและ
พอเพียงกับตนเอง ดารงชีวิตแบบพออยู่พอกินและสามารถพึ่งพาตนเองได้
ประการที่สาคัญของเศรษฐกิจพอเพียง




                1. พอมีพอกิน ปลูกพืชสวนครัวไว้กินเองบ้าง ปลูกไม้ผลไว้หลังบ้าน 2-3ต้น พอที่จะมีไว้กินเองภายในครัวเรือน เหลือถึงจะขาย
                2. พออยู่พอใช้ ทาให้บ้านน่าอยู่ ปราศจากสารเคมี กลิ่นเหม็น ใช้แต่ของที่เป็นธรรมชาติ (ใช้จุลินทรีย์ผสมน้าถูพื้นบ้าน
จะสะอาดกว่าใช้น้ายาเคมี) รายจ่ายลดลง สุภาพจะดีขึ้น (ประหยัดค่ารักษาพยาบาล)
                3.พออกพอใจ เราต้องรู้จักพอ รู้จักประมาณตน ไม่ใคร่อยากใคร่มีเช่นผู้อื่น เพราะเราจะหลงติดกับวัตถุ ปัญหาจะไม่เกิด
                “การจะเป็นเสือนั้นมันไม่สาคัญ สาคัญอยู่ที่เราพออยู่พอกิน และมีเศรษฐกิจการเป็นอยู่แบบพอมีพอกิน แบบพอมีพอกิน
หมายความว่า
                          “อุ้มชูต้วเองได้ ให้มีพอเพียงกับตัวเอง”
ปรัชญาและแนวคิด
 ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
มีหลักพิจารณาอยู่             5 ส่วน ดังนี้
        กรอบแนวคิด เป็นปรัชญาที่ชี้แนะแนวทางการดารงอยู่และปฏิบัติตนในทางที่ควรจะเป็นโดยมีพื้นฐานมาจากวิถีชีวิต
ดั้งเดิมของสังคมไทย สมารถนามาประยุกต์
ใช้ได้ตลอดเวลา และเป็นการมองโลกเชิงระบบที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลามุ่งเน้นการรอดพ้นจากภัย และวิกฤต
เพื่อความมั่นคง และ ความยั่งยืน ของการพัฒนา
        คุณลักษณะ เศรษฐกิจพอเพียงสามารถนามาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติตนได้ในทุกระดับโดยเน้นการปฏิบัติบนทางสาย
กลาง และการพัฒนาอย่างเป็นขั้นตอน
        คานิยาม ความพอเพียงจะต้องประกอบด้วย 3 คุณลักษณะ พร้อม ๆ กัน ดังนี้
         ความพอประมาณ                 หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไปโดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เช่น
การผลิตและการบริโภคที่อยู่ในระดับพอประมาณ
 ความมีเหตุผล                     หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผลโดย
พิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้องตลอดจนคานึงถึงผล
 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทานั้น ๆ อย่างรอบคอบ
 การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว                   หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและกาเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ที่จะ
เกิดขึ้นโดยคานึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ ต่าง ๆ             ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้และไกล
เงื่อนไข              การตัดสินใจและการดาเนินกิจกรรมต่าง ๆ ให้อยู่ในระดับพอเพียงนั้นต้องอาศัยทั้งความรู้ และ
คุณธรรมเป็นพื้นฐาน กล่าวคือ
        เงื่อนไขความรู้ ประกอบด้วย ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้านความรอบคอบที่จะนาความรู้
เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการ วางแผน และความระมัดระวังในขั้นปฏิบัติ
        เงื่อนไขคุณธรรม ที่จะต้องเสริมสร้างประกอบด้วย มีความตระหนักในคุณธรรมมีความซื่อสัตย์สุจริตและมีความอดทน
มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการดาเนินชีวิต
                หลักปรัชญา
          ...การพัฒนาประเทศจาเป็นต้องทาตามลาดับขั้นต้องสร้างพื้นฐาน คือ ความพอมีพอกิน พอใช้ของประชาชนส่วนใหญ่
เป็นเบื้องต้นก่อน โดยใช้วิธีการและใช้อุปกรณ์ที่ประหยัด แต่ถูกต้องตามหลักวิชา เมื่อได้พื้นฐานมั่นคงพร้อมพอควรและปฏิบัติ
ได้แล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญและฐานะเศรษฐกิจขั้นที่สูงขึ้นโดยลาดับต่อไป หากมุ่งแต่จะทุ่มเทสร้างความเจริญ ยก
เศรษฐกิจขึ้นให้รวดเร็วแต่ประการเดียว โดยไม่ให้แผนปฏิบัติการสัมพันธ์กับสภาวะของประเทศและของประชาชนโดย
สอดคล้องด้วย ก็จะเกิดความไม่สมดุลในเรื่องต่าง ๆ ขึ้น ซึ่งอาจกลายเป็นความยุ่งยากล้มเหลวได้ในที่สุด...




                แนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียง
การพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คือ การพัฒนาที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของทางสายกลางและความไม่ประมาท โดย
คานึงถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ตลอดจนใช้ความรู้ความรอบคอบ และคุณธรรม
ประกอบการวางแผน การตัดสินใจและการกระทา
 แนวทางปฏิบัติ/ผลที่คาดว่าจะได้รับ
        จากการนาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ คือการพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืน พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงใน
ทุกด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมความรู้และเทคโนโลยี
หลักแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียง
     การพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คือ การพัฒนาที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของทางสายกลางและความไม่
ประมาท โดยคานึงถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ตลอดจนใช้ความรู้ความ
รอบคอบ และคุณธรรม ประกอบการวางแผน การตัดสินใจและการกระทา

                                    ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
      มีหลักพิจารณาอยู่ 5 ส่วน ดังนี้
        กรอบแนวคิด เป็นปรัชญาที่ชี้แนะแนวทางการดารงอยู่และปฏิบัติตนในทางที่ ควรจะเป็น โดยมีพื้นฐานมา
จากวิถีชีวิตดั้งเดิมของสังคมไทย สมารถนามาประยุกต์ใช้ได้ตลอดเวลา และเป็นการมองโลกเชิงระบบที่มีการ
เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มุ่งเน้นการรอดพ้นจากภัย และวิกฤต เพื่อ ความมั่นคง และ ความยั่งยืน ของการพัฒนา
     คุณลักษณะ เศรษฐกิจพอเพียงสามารถนามาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติตนได้ในทุกระดับ โดยเน้นการปฏิบัติ
บนทางสายกลาง และการพัฒนาอย่างเป็นขั้นตอน

      คานิยาม ความพอเพียงจะต้องประกอบด้วย 3 คุณลักษณะ พร้อม ๆ กัน ดังนี้
ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไปโดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น
เช่นการผลิตและการบริโภค        ที่อยู่ในระดับพอประมาณ

      ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผลโดย
พิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้องตลอดจนคานึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทานั้น ๆ อย่างรอบคอบ

         การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ที่จะ
เกิดขึ้นโดยคานึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้และไกล

      เงื่อนไข การตัดสินใจและการดาเนินกิจกรรมต่าง ๆ ให้อยู่ในระดับพอเพียงนั้น ต้องอาศัยทั้งความรู้ และ
คุณธรรมเป็นพื้นฐาน กล่าวคือ

     เงื่อนไขความรู้ ประกอบด้วย ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน ความรอบคอบที่
จะนาความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผน และความระมัดระวังในขั้นปฏิบัติ

      เงื่อนไขคุณธรรม ที่จะต้องเสริมสร้างประกอบด้วย มีความตระหนักในคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริตและ
มีความอดทน มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการดาเนินชีวิต

        แนวทางปฏิบัติ/ผลที่คาดว่าจะได้รับ จากการนาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ คือ การพัฒนา
ที่สมดุลและยั่งยืน พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ความรู้และ
เทคโนโลยี
" ถ้าไม่มี เศรษฐกิจพอเพียง เวลาไฟดับ …
    จะพังหมด จะทาอย่างไร. ที่ที่ต้องใช้ไฟฟ้าก็ต้องแย่ไป.
          … หากมี เศรษฐกิจพอเพียง แบบไม่เต็มที่
               ถ้าเรามีเครื่องปั่นไฟ ก็ให้ปั่นไฟ
             หรือถ้าขั้นโบราณกว่า มืดก็จุดเทียน
                คือมีทางที่จะแก้ปัญหาเสมอ.
        … ฉะนั้น เศรษฐกิจพอเพียง นี้ ก็มีเป็นขั้น ๆ
             แต่จะบอกว่า เศรษฐกิจพอเพียง นี้
  ให้พอเพียงเฉพาะตัวเองร้อยเปอร์เซ็นต์ นี่เป็นสิ่งที่ทาไม่ได้.
         จะต้องมีการแลกเปลี่ยน ต้องมีการช่วยกัน.
 …… พอเพียงในทฤษฎีหลวงนี้ คือให้สามารถที่จะดาเนินงานได้. "
พระราชดารัสเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนพรรษา 23 ธันวาคม 2542

                             ข้อมูลจาก
            คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง
     สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
แนวทางการประยุกต์ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
                   แบ่งได้เป็น 3 ระดับ
                        1. ระดับบุคคล
                                  . รู้จก “พอ” ไม่เบียดเบียนผู้อื่น
                                  . พยายามพัฒนาทักษะ ความรู้ ความเข้มแข็งของตนเอง
                                  . ยึดทางสายกลาง พอใจกับชีวิตที่พอเพียง
                        2. ระดับชุมชน
                                  . รวมกลุ่ม ใช้ภูมิปัญญาของชุมชน
                                  . เอื้อเฟื้อกันและกับ
                                  . พัฒนาเครือข่ายความร่วมมือ
                        3. ระดับประเทศ
                                  . ชุมชนร่วมมือกัน
                                  . วางระบบเศรษฐกิจแบบพึ่งตนเอง
                                  . พัฒนาเศรษฐกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป
                                  . เติบโตจากข้างใน
                                  การนาไปใช้
         ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนี้ เป็นกรอบแนวความคิดและทิศทางการพัฒนาระบบเศรษฐกิจ มหาภาคของไทย ซึ่งบรรจุอยู่
ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 (พ.ศ. 2550-2554) เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาที่สมดุล ยั่งยืน และมีภูมิคุ้มกัน เพื่อ
ความอยู่ดีมีสุข มุ่งสู่สังคมที่มีความสุขอย่างยั่งยืน หรือที่เรียกว่า สังคมสีเขียว (Green Society) ด้วยหลักการดังกล่าว แผนพัฒนาฯ
ฉบับที่ 10 นี้จะไม่เน้นเรื่องตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ยังคงให้ความสาคัญต่อระบบเศรษฐกิจแบบทวิลักษณ์ หรือ
ระบบเศรษฐกิจที่มีความแตกต่างกันระหว่างเศรษฐกิจชุมชนเมืองและชนบท
ปัญหาหนึ่งของการนาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ก็คือ ผู้นาไปใช้อาจยังไม่ได้ศึกษาหรือไม่มีความรู้เพียงพอ ทั้งยังไม่
วิเคราะห์หรือตั้งคาถาม เนื่องจากประเพณี. สมเกียรติ อ่อนวิมล เรียกสิ่งนี้ว่า "วิกฤตเศรษฐกิจพอเพียง"คือ ความไม่รู้ว่าจะนา
ปรัชญานี้ไปใช้ทาอะไร กลายเป็นว่าผู้นาสังคมทุกคน ทั้งนักการเมืองและรัฐบาลใช้คาว่า "เศรษฐกิจพอเพียง" เป็นข้ออ้างในการ
ทากิจกรรมใด ๆ เพื่อให้รู้สึกว่าได้สนองพระราชดารัสและให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดี หรือพูดง่ายๆ ก็คือ "เศรษฐกิจพอเพียง" ถูกใช้
เพื่อเป็นเครื่องมือเพื่อตัวเอง สมเกียรติได้ให้สัมภาษณ์วิจารณ์โครงการในยุครัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ว่า "รัฐบาลยังไม่ได้ใช้อะไร
เลยเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียง ใช้แต่พูดเหมือนคุณทักษิณ แต่คุณทักษิณพูดควบคู่กับการเอาทุนนิยม 100 เปอร์เซ็นต์ลงไป.. ซึ่ง
รัฐบาลนี้ต้องปรับทิศทางใหม่ เพราะรัฐบาลไม่ได้เอาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาและเป็นนโยบายทางวัฒนธรรมและสังคม"
สมเกียรติยังมีความเห็นด้วยว่า ความไม่เข้าใจ นี้ อาจเกิดจากการสับสนว่าเศรษฐกิจพอเพียงกับทฤษฎีใหม่นั้นเป็นเรื่องเดียวกัน ทา
ให้มีความเข้าใจว่า เศรษฐกิจพอเพียงหมายถึงการปฏิเสธอุตสาหกรรมแล้วกลับไปสู่เกษตรกรรม ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด.




        ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนี้ ได้รับการเชิดชูสูงสุด จากองค์การสหประชาชาติ (UN)โดยนายโคฟี อันนัน ในฐานะ
เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ได้ทูลเกล้าฯถวายรางวัล The Human Development Lifetime Achievement Award แก่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อ 26 พฤษภาคม 2549 และได้มีปาฐกถาถึงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงว่าเป็นปรัชญาที่สามารถเริ่ม
ได้จากการสร้างภูมิคุ้มกันในตนเอง สู่หมู่บ้าน และสู่เศรษฐกิจในวงกว้างขึ้นในที่สุด เป็นปรัชญาที่มีประโยชน์ต่อประเทศไทย
และนานาประเทศ โดยที่องค์การสหประชาชาติได้สนับสนุนให้ประเทศต่างๆที่เป็นสมาชิก 166 ประเทศยึดเป็นแนวทางสู่การ
พัฒนาประเทศแบบยั่งยืน
การสร้างขบวนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง
     การพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คือ การพัฒนาที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของทางสายกลางและความไม่
ประมาท โดยคานึงถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว โดยใช้ความรอบรู้ ความ
รอบคอบ และคุณธรรม ประกอบการตัดสินใจและการกระทา




       ภาวะวิกฤตเศรษฐกิจปี ๒๕๔๐ ทาให้คนไทยให้ความสาคัญกับการพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ตาม
คาชี้แนะของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมากขึ้น สศช. จึงได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิจากสาขาต่าง ๆ มาร่วมกัน
กลั่นกรองพระราชดารัสเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียง สรุปเป็นนิยาม ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และได้อัญเชิญ
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นปรัชญานาทางในการจัดทาแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๙ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชน
ทุกระดับ มีความเข้าใจเศรษฐกิจพอเพียงและนาไปประกอบการดาเนินชีวิต
ในครั้งนี้ สศช. เสนอให้ริเริ่มการสร้างขบวนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อสานต่อความคิดและ
เชื่อมโยงการขยายผล ที่เกิดจากการนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้อย่างหลากหลาย รวมทั้งเพื่อจุด
ประกายให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ซึ่งจะนาไปสู่การยอมรับ และการนาไปประยุกต์ใช้ให้เกิดผลในทาง
ปฏิบัติในทุกภาคส่วนของสังคมอย่างจริงจัง

       การขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง มีเป้าหมายหลักเพื่อสร้างกระแสสังคมให้มีเป็นกรอบความคิดหรือส่วน
หนึ่งของวิถีชีวิตของประชาชนทุกภาคส่วน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับหลัก
เศรษฐกิจพอเพียง ให้ประชาชนทุกระดับสามารถนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ไปประยุกต์ใช้ได้อย่าง
เหมาะสม และปลูกฝังปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในการดารงชีวิตให้อยู่บนพื้นฐานของเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจน
นาไปสู่การปรับแนวทางการพัฒนาให้อยู่บนพื้นฐานของเศรษฐกิจพอเพียง




      ยุทธวิธีในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงจะมีการดาเนินการอย่างเป็นขั้นตอนและชัดเจน โดยมีขอบเขต
การดาเนินงาน ๔ ด้านควบคู่กันไป คือ เชื่อมโยงเครือข่ายเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง พัฒนาวิชาการและศึกษาวิจัย
สร้างหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงจะเป็นใน
ลักษณะเครือข่ายและระดมพลังจากทุกภาคส่วน โดยมีคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแกนกลาง
ในการดาเนินงาน และจะทูลเกล้าฯ ถวายผลการดาเนินงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อเฉลิมพระเกียรติ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษาครบรอบ ๘๐ พรรษา ในเดือน
ธันวาคม ๒๕๕๐
การขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงนี้ จะเป็นการเสริมพลังในการดาเนินนโยบายของรัฐบาลที่เน้นการพัฒนา
เพื่อให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาไปได้อย่างมั่นคงภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์ โดยให้ความสาคัญกับการสร้าง
ฐานเศรษฐกิจและสังคมในระดับรากหญ้าให้เข้มแข็ง ในขณะที่ส่งเสริม การพัฒนาประเทศให้มีเสถียรภาพใน
ระดับระหว่างประเทศ สามารถปรับตัวเลือกรับสิ่งที่เป็นประโยชน์และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ได้ และ
นาไปสู่ความอยู่ดีมีสุขของคนไทยในที่สุด
ขันตอนการปฏิบตสวถเี ศรษฐกิจพอเพียง
  ้          ั ิ ู่ ิ

         จับประเด็นปัญหา

      วิเคราะห์สาเหตุของปัญหา

 กาหนดขอบเขตเป้าหมายในการแก้ปัญหา

           ปรับปรุงตัวเอง

      ดารงตนด้วยความมุ่งหมาย

  ใช้ความอดทนสูง อดกลั้น และอดออม

     ละวางจากความชั่ว ความทุจริต
ผลที่เกิดจากการปฏิบัติตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง




              1.ยึดความประหยัด ตัดทอนค่าใช้จ่ายในทุกด้าน ลดละความฟุ่มเฟือยในการดารงชีพอย่างจริงจัง
ดังพระราชดารัสที่ว่าความเป้นอยู่ไม่ฟุ้งเฟ้อ ต้องประหยัดไปในทางที่ถกต้อง
                                                                   ู
 2.ยึดถือการประกอบอาชีพด้วยความถูกต้อง สุจริต แม้จะตกอยู่ในสภาวะขาดแคลนในการดารงชีพก็ตาม
ดังพระราชดารัสที่ว่าความเจริญของคนทั้งหลายย่อมเกิดมาจากการประพฤติชอบและการหาเลี้ยงชีพเป็นหลักสาคัญ
              3.ละเลิกการแก่งแย่งผลประโยชน์และการแข่งขันกันทั้งการค้าขายประกอบอาชีพแบบต่อสู้กัน
อย่างรุนแรงดังอดีตซึ่งมีพระราชดารัสเรืองนี้ว่าความสุขความเจริญอันแท้จริงนั้นหมายถึงความสุขความเจริญที่บุคคล
                                        ่
แสวงหามาได้ดวยความเป็นธรรมทั้งในเจตนาและการกระทาไม่ใช่ได้มาด้วยความบังเอิญหรือด้วยการแก่งแย่งเบียดบัง
                 ้
มาจากผู้อื่น
              4.ไม่หยุดนิ่งที่จะหาทางให้ชวิตหลุดพ้นจากความทุกข์ยากครังนีโดยต้องขวนขวายใฝ่หาความรูให้เกิดมีรายได้
                                          ี                          ้ ้                             ้
เพิ่มพูนขึ้นจนถึงขั้นพอเพียงเป็นเป้าหมายสาคัญ พระราชดารัสตอนหนึ่งที่ให้ความชัดเจนว่าการที่ต้องการให้ทุกคนพยายาม
ที่จะหาความรู้และสร้างตนเองให้มั่งคงนี้เพื่อตนเองมีความสุขพอมีพอกินและให้มีเกียรติว่ายืนได้ด้วยตนเอง
              5.ปฏิบัติตนในแนวทางที่ดีลดละสิ่งชั่วให้หมดสิ้นไป เพราะยังมีบุคคลจานวนมิใช่น้อยที่ดาเนินการ
โดยปราศจากการละอายต่อแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวได้พระราชทานพระราโชวาท ว่าพยายามไม่ก่อความชั่ว
                                                             ั
ให้เป็นเครืองทาลายตัวทาลายผู้อื่นพยายามลดพยายามละความชั่วที่ตัวเองมีอยู่ พยายามก่อความดีให้แก่ตัวอยู่เสมอ พยายาม
            ่
รักษาและเพิ่มพูนความดีที่มีอยู่ ให้งอกงามสมบรูณ์ขึ้น
เศรษฐกิจพอเพียงกับการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน
        การนาแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการดาเนินชีวิตประจาวัน สามารถกระทาได้ดังต่อไปนี้
 เศรษฐกิจพอเพียงสาหรับบุคคลทั่วไป
        เศรษฐกิจพอเพียงมีประโยชน์ต่อประชาชนทุกคนไม่ใช่เฉพาะแต่เกษตรกรเท่านั้น แต่ประชาชนโดยทั่วไปไม่ว่านิสิต
นักศึกษา นักเรียน ข้าราชการ พนักงานบริษัทก็สามารถนาหลักการเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการเรียน
การทางาน ตลอดจนการดาเนินชีวิตประจาวันได้ ซึ่งสามารถกระทาได้ดังนี้
        ควรยึดหลักความประหยัด ตัดทอนค่าใช้จ่ายในทุกด้าน และสละความฟุ่มเฟือยในการดารงชีพอย่างจริงจัง
  ควรประกอบอาชีพด้วยความสุจริตและถูกต้อง แม้จะเผชิญกับภาวะขาดแคลนในการดารงชีพก็ตาม
  ควรลดละการแก่งแย่งผลประโยชน์ และการแข่งบันทางการค้าขาย ตลอดจนการประกอบอาชีพที่มีการต่อสู้อย่างรุนแรง
  ควรขวนขวายใฝ่หาความรู้ให้มีรายได้เพิ่มพูนขึ้นจนถึงขั้นพอเพียงในการดารงชีวิตเป็นเป้าหมายสาคัญ




         เศรษฐกิจพอเพียงสาหรับเกษตรกร
         แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง มีประโยชน์ต่อเกษตรกรเป็นอย่างมาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานแนวคิดที่
เรียกว่า “การเกษตรทฤษฎีใหม่” เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรให้มีความรู้ความเข้าใจ ตลอดจนสามารถนาไปประยุกต์
ใช้ในการประกอบอาชีพ โดยจะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานหลักการทฤษฎีใหม่ สาหรับเกษตรกรนั้น แนวคิดระบบเศรษฐกิจแบบ
พอเพียงตามแนวพระราชดาริจะตั้งอยู่บนพื้นฐานหลักการ“ทฤษฎีใหม่” 3 ขึ้นคือ ขั้นที่หนึ่ง มีความพอเพียงเลี้ยงตัวเองได้บน
พื้นฐานของความประหยัด ขจัดการใช้จ่าย ขั้นที่สอง รวมพลังกันในรูปกลุ่ม เพื่อทาการผลิต การตลาด การจัดการ รวมทั้งด้าน
สวัสดิการ การศึกษา และการพัฒนาสังคมขั้นที่สาม สร้างเครือข่ายกลุ่มอาชีพและขยายกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้หลากหลาย โดย
ประสานความร่วมมือกับภาคธุรกิจ ภาคองค์กรพัฒนา ภาคเอกชน และภาครัฐ ในด้านเงินทุน การตลาด การผลิต การจัดการและ
ข่าวสารข้อมูล
อ้างอิง
                                  เศรษฐกิจพอเพียงคืออะไร
                                  http://sufficiencyeconomy.panyathai.or.th
ประวัติความเป็นมาของเศรษฐกิจพอเพียง
                                  http://edtechno.msu.ac.th/mod/resource/view.php?id=86
ประการที่สาคัญของเศรษฐกิจพอเพียง
                                  http://www.secondclass111.com/board/index.php?showtopic=685
ปรัชญาและแนวคิด
                                  http://pineapple-eyes.snru.ac.th
                                  หลักแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียง
                                  http://sufficiencyeconomy.panyathai.or.th/
                                        แนวทางการประยุกต์ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
                                        www.oae.go.th/ewt_news.php?nid=6582&filename...
                                        www.thaindc.org/files/51179.pdf
                                        การสร้างขบวนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง
                                        http://www.sufficiencyeconomy.org/old/show.php?Id=24
                                        ขั้นตอนการปฏิบัติสู่วิถีเศรษฐกิจพอเพียง
                                        http://greennetorganic.blogspot.com/2009/07/7.html
                                        http://th.wikipedia.org/wiki/เศรษฐกิจพอเพียง
                                        ผลที่เกิดจากการปฏิบัติตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง
                       http://www.uinthai.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538933516&Ntype=119
เศรษฐกิจพอเพียงกับการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน
                                        http://www.chaiwit.ac.th/chaiwit02/p024.html
คณะผู้จัดทา



              นายวีระพงษ์ ใจเย็น (ตั้ม)
                    53010516025




               นายศุภชัย ช้วยงาน (โจ้)
                    53010516026




                นายนฤดล สีมีงาม (ทัช)
                    53010516040
นางสาวเบญจวรรณ เหง้ากอก (ปลาย)
         53010516043




 นางสาวปิ่นสุดา มังคะรัตน์ (จ๋อม)
          53010516044

เว็บเศรษฐกิจพอเพียง

  • 1.
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเข้าพระราชหฤทัยในความเป็นไปของเมืองไทย เศรษฐกิจพอเพียงคืออะไร และคนไทยอย่างลึกซึ้งและกว้างไกล ได้ทรงวางรากฐานในการพัฒนาชนบท และช่วยเหลือ ประวัติความเป็นมาของ ประชาชนให้สามารถพึ่งตนเองได้มีความ " พออยู่พอกิน" และมีความอิสระที่จะอยู่ได้ เศรษฐกิจพอเพียง โดยไม่ต้องติดยึดอยู่กับเทคโนโลยี และความเปลี่ยนแปลงของกระแสโลกาภิวัฒน์ ทรง ประการที่สาคัญของ วิเคราะห์ว่าหากประชาชนพึ่งตนเองได้แล้วก็จะมีส่วนช่วยเหลือเสริมสร้างประเทศชาติโดย เศรษฐกิจพอเพียง ส่วนรวม ได้ในที่สุด พระราชดารัสที่สะท้อนถึงพระวิสัยทัศน์ในการสร้างความเข้มแข็งใน ปรัชญาและแนวคิด ตนเองของประชาชนและสามารถทามาหากินให้พออยู่พอกินได้ ดังนี้ หลักแนวคิดของ "….ในการสร้างถนน สร้างชลประทานให้ประชาชนใช้นั้น จะต้องช่วยประชาชน เศรษฐกิจพอเพียง ในทางบุคคลหรือพัฒนาให้บุคคลมีความรู้และอนามัยแข็งแรง ด้วยการให้การศึกษาและการ แนวทางการประยุกต์ใช้ รักษาอนามัย เพื่อให้ประชาชนในท้องที่สามารถทาการเกษตรได้ และค้าขายได้ …" ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การสร้างขบวนการขับเคลื่อน ในสภาวการณ์ปัจจุบัน ซึ่งเกิดความถดถอยทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงขึ้นนี้จึงทาให้ เศรษฐกิจพอเพียง เกิดความเข้าใจได้ชัดเจนในแนวพระราชดาริของ "เศรษฐกิจพอเพียง" ซึ่งได้ทรงคิดและ ตระหนักมาช้านาน เพราะหากเราไม่ไปพี่งพา ยึดติดอยู่กับกระแสจากภายนอกมากเกินไปจน ขั้นตอนการปฏิบัติสู่วิถี ได้ครอบงาความคิดในลักษณะดั้งเดิมแบบไทยๆไปหมด มีแต่ความทะเยอทะยานบนรากฐาน เศรษฐกิจพอเพียง ที่ไม่มั่นคงเหมือนลักษณะฟองสบู่ วิกฤตเศรษฐกิจเช่นนี้อาจไม่เกิดขึ้น หรือไม่หนักหนา ผลที่เกิดจากการปฏิบัติตาม สาหัสจนเกิดความเดือดร้อนกันถ้วนทั่วเช่นนี้ ดังนั้น "เศรษฐกิจพอเพียง" จึงได้สื่อ แนวเศรษฐกิจพอเพียง ความหมาย ความสาคัญในฐานะเป็นหลักการสังคมที่พึงยึดถือ เศรษฐกิจพอเพียงกับการ ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน อ้างอิง คณะผู้จัดทา
  • 2.
    ในทางปฏิบัติจุดเริ่มต้นของการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียงคือ การฟื้นฟูเศรษฐกิจชุมชนท้องถิ่น เศรษฐกิจ พอเพียงเป็นทั้งหลักการและกระบวนการทางสังคมตั้งแต่ขั้นฟื้นฟูและขยายเครือข่ายเกษตรกรรมยั่งยืน เป็นการพัฒนา ขีดความสามารถในการผลิตและบริโภคอย่างพออยู่พอกินขึ้นไปถึงขั้นแปรรูปอุตสาหกรรมครัวเรือน สร้างอาชีพและ ทักษะวิชาการที่หลากหลายเกิดตลาดซื้อขาย สะสมทุน ฯลฯ บนพื้นฐานเครือข่ายเศรษฐกิจชุมชนนี้ เศรษฐกิจของ 3 ชาติ จะพัฒนาขึ้นมาอย่างมั่นคงทั้งในด้านกาลังทุนและตลาดภายในประเทศรวมทั้งเทคโนโลยีซึ่งจะค่อยๆ พัฒนาขึ้นมา จากฐานทรัพยากรและภูมิปัญญาที่มีอยู่ภายในชาติ และทั้งที่จะพึงคัดสรรเรียนรู้จากโลกภายนอก เศรษฐกิจพอเพียงเป็นเศรษฐกิจที่พอเพียงกับตัวเอง ทาให้อยู่ได้ ไม่ต้องเดือดร้อน มีสิ่งจาเป็นที่ทาได้โดยตัวเอง ไม่ต้องแข่งขันกับใคร และมีเหลือเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ไม่มี อันนาไปสู่การแลกเปลี่ยนในชุมชน และขยายไปจนสามารถที่ จะเป็นสินค้าส่งออก เศรษฐกิจพอเพียงเป็นเศรษฐกิจระบบเปิดที่เริ่มจากตนเองและความร่วมมือ วิธีการเช่นนี้จะดึง ศักยภาพของ ประชากรออกมาสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวซึ่งมีความผู้พันกับ “จิตวิญญาณ” คือ “คุณค่า” มากกว่า “มูลค่า”
  • 3.
    เศรษฐกิจพอเพียงคืออะไร “เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดารัสชี้แนะแนวทางการดาเนินชีวิตแก่ พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า ๒๕ ปี ตั้งแต่ก่อนวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจ และเมื่อภายหลังได้ทรงเน้นย้าแนวทางการ แก้ไขเพื่อให้รอดพ้น และสามารถดารงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดารงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับตั้งแต่ระดับครอบครัวระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดาเนินไปใน ทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทัน ต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์ ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจาเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันใน ตัวที่ดีพอสมควร ต่อการมีผลกระทบใดๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน ทั้งนี้ จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความ รอบคอบ และความระมัดระวังอย่างยิ่งในการนาวิชาการต่างๆมาใช้ในการวางแผนและการดาเนินการทุกขั้นตอน และ ขณะเดียวกันจะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ นักทฤษฎีและนักธุรกิจในทุกระดับให้มี สานึกในคุณธรรมความซื่อสัตย์สุจริต และให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสม ดาเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญา และ ความรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวางทั้งด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี
  • 4.
    ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณความมีเหตุผลรวมถึงความจาเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี พอสมควรต่อการมีผลกระทบใด ๆอันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายในทั้งนี้จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความ รอบคอบและความระมัดระวังอย่างยิ่งในการนาวิชาการต่างๆ มาใช้ในการวางแผนและการดาเนินการทุกขั้นตอน และ ขณะเดียวกันจะต้องสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ นักทฤษฎี และนักธุรกิจในทุกระดับ ให้มี สานึกในคุณธรรมความซื่อสัตย์สุจริตและให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสม ดาเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติปัญญา และ ความรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ทั้งด้านวัตถุ สังคมสิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี
  • 5.
    ประวัติความเป็นมาของเศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดาริ ชี้แนะแนวทางการดาเนินชีวิตแก่พสก นิกรชาวไทย ซึ่งพระองค์ทรงมีพระราชหฤทัยมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือผู้ ที่ประกอบอาชีพในภาคเกษตรกรรม ที่มักต้องประสบกับ ปัญหาความแปรปรวนของดินฟ้าอากาศ เช่น ฝนตกไม่สม่าเสมอ เกิดภาวะแห้งแล้งทั่วไปหรือในช่วงหน้าฝนเกิดภาวะน้าท่วม ทา ให้การเกษตรกรรม ไม่ได้ผลผลิตเท่าที่ควร พระองค์จึงทรงมีพระราชดาริที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว และยกระดับพัฒนาความเป็นอยู่ ของราษฎรในภาคเกษตรกรรม ให้เกิดความพออยู่พอกิน และสามารถพึ่งพาตนเองได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชวินิจฉัย ค้นคว้า สารวจ รวบรวมข้อมูล แล้วทาการทดสอบเกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรน้า ที่ดิน พันธุ์พืช เพื่อให้เกษตรกรรมสามารถดารงชีวิตอยู่ได้ใน พื้นที่ของตนเองที่เรารู้จักกันในชื่อ “ทฤษฎีใหม่” ใช้หลักการบริหารจัดการที่ดินและน้าเพื่อการเกษตรในที่ดินที่มีอยู่จากัดให้เกิด ประโยชน์สูงสุดอันเป็นแนวทางการพัฒนาการเกษตรแบบพึ่งตนเอง โดยการปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ และทาการประมง ให้เกิดการ พัฒนาที่ยั่งยืน โดยการทาการเกษตรในลักษณะเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้เกิดความพออยู่พอกิน พระองค์ทรงนาทฤษฎีดังกล่าวไปทาการทดลองที่วัดมงคลชัยพัฒนา ตาบลห้วยบง และตาบลเขาดินพัฒนา อาเภอเมือง (ปัจจุบันคืออาเภอเฉลิมพระเกียรติ) จังหวัดสระบุรี ซึ่งประสบผลสาเร็จเป็นอย่างดีต่อมาในช่วง พ.ศ. 2540 ประเทศไทยต้อง ประสบกับภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจเกิด ภาวะเศรษฐกิจตกต่าอย่างรุนแรง ประชาชนได้รับความเดือนร้อน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ ประกอบอาชีพ ในภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการหลายรายที่ต้องปิดกิจการลง ทาให้ประชาชนตกงานเป็น จานวนมากก่อให้เกิดปัญหาการว่างงานอย่างรุนแรงและต่อเนื่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหาวิธีการที่จะช่วยเหลือพสก นิกรที่ ประสบปัญหาให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พระองค์จึงได้ทรงพระราชทานพระราชดาริเรื่อง “เศรษฐกิจพอเพียง” เพื่อเป็นแนวทางใหม่ในการดารงชีวิต เพื่อให้รอด พ้นและสามารถดารงอยู่ได้อย่าง มั่นคงและยั่งยืน โดยการนาหลักการและวิธีการที่ใช้ภาคเกษตรกรรมมาประยุกต์ใช้ในการ บริหารจัดการ การดาเนินชีวิตของประชาชนชาวไทยให้รู้จักการดาเนินชีวิตอยู่อย่างพอประมาณ เดินสายกลาง มีความพอดีและ พอเพียงกับตนเอง ดารงชีวิตแบบพออยู่พอกินและสามารถพึ่งพาตนเองได้
  • 6.
    ประการที่สาคัญของเศรษฐกิจพอเพียง 1. พอมีพอกิน ปลูกพืชสวนครัวไว้กินเองบ้าง ปลูกไม้ผลไว้หลังบ้าน 2-3ต้น พอที่จะมีไว้กินเองภายในครัวเรือน เหลือถึงจะขาย 2. พออยู่พอใช้ ทาให้บ้านน่าอยู่ ปราศจากสารเคมี กลิ่นเหม็น ใช้แต่ของที่เป็นธรรมชาติ (ใช้จุลินทรีย์ผสมน้าถูพื้นบ้าน จะสะอาดกว่าใช้น้ายาเคมี) รายจ่ายลดลง สุภาพจะดีขึ้น (ประหยัดค่ารักษาพยาบาล) 3.พออกพอใจ เราต้องรู้จักพอ รู้จักประมาณตน ไม่ใคร่อยากใคร่มีเช่นผู้อื่น เพราะเราจะหลงติดกับวัตถุ ปัญหาจะไม่เกิด “การจะเป็นเสือนั้นมันไม่สาคัญ สาคัญอยู่ที่เราพออยู่พอกิน และมีเศรษฐกิจการเป็นอยู่แบบพอมีพอกิน แบบพอมีพอกิน หมายความว่า “อุ้มชูต้วเองได้ ให้มีพอเพียงกับตัวเอง”
  • 7.
    ปรัชญาและแนวคิด ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีหลักพิจารณาอยู่ 5 ส่วน ดังนี้ กรอบแนวคิด เป็นปรัชญาที่ชี้แนะแนวทางการดารงอยู่และปฏิบัติตนในทางที่ควรจะเป็นโดยมีพื้นฐานมาจากวิถีชีวิต ดั้งเดิมของสังคมไทย สมารถนามาประยุกต์ ใช้ได้ตลอดเวลา และเป็นการมองโลกเชิงระบบที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลามุ่งเน้นการรอดพ้นจากภัย และวิกฤต เพื่อความมั่นคง และ ความยั่งยืน ของการพัฒนา คุณลักษณะ เศรษฐกิจพอเพียงสามารถนามาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติตนได้ในทุกระดับโดยเน้นการปฏิบัติบนทางสาย กลาง และการพัฒนาอย่างเป็นขั้นตอน คานิยาม ความพอเพียงจะต้องประกอบด้วย 3 คุณลักษณะ พร้อม ๆ กัน ดังนี้ ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไปโดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เช่น การผลิตและการบริโภคที่อยู่ในระดับพอประมาณ ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผลโดย พิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้องตลอดจนคานึงถึงผล ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทานั้น ๆ อย่างรอบคอบ การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและกาเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ที่จะ เกิดขึ้นโดยคานึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้และไกล
  • 8.
    เงื่อนไข การตัดสินใจและการดาเนินกิจกรรมต่าง ๆ ให้อยู่ในระดับพอเพียงนั้นต้องอาศัยทั้งความรู้ และ คุณธรรมเป็นพื้นฐาน กล่าวคือ เงื่อนไขความรู้ ประกอบด้วย ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้านความรอบคอบที่จะนาความรู้ เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการ วางแผน และความระมัดระวังในขั้นปฏิบัติ เงื่อนไขคุณธรรม ที่จะต้องเสริมสร้างประกอบด้วย มีความตระหนักในคุณธรรมมีความซื่อสัตย์สุจริตและมีความอดทน มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการดาเนินชีวิต หลักปรัชญา ...การพัฒนาประเทศจาเป็นต้องทาตามลาดับขั้นต้องสร้างพื้นฐาน คือ ความพอมีพอกิน พอใช้ของประชาชนส่วนใหญ่ เป็นเบื้องต้นก่อน โดยใช้วิธีการและใช้อุปกรณ์ที่ประหยัด แต่ถูกต้องตามหลักวิชา เมื่อได้พื้นฐานมั่นคงพร้อมพอควรและปฏิบัติ ได้แล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญและฐานะเศรษฐกิจขั้นที่สูงขึ้นโดยลาดับต่อไป หากมุ่งแต่จะทุ่มเทสร้างความเจริญ ยก เศรษฐกิจขึ้นให้รวดเร็วแต่ประการเดียว โดยไม่ให้แผนปฏิบัติการสัมพันธ์กับสภาวะของประเทศและของประชาชนโดย สอดคล้องด้วย ก็จะเกิดความไม่สมดุลในเรื่องต่าง ๆ ขึ้น ซึ่งอาจกลายเป็นความยุ่งยากล้มเหลวได้ในที่สุด... แนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียง การพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คือ การพัฒนาที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของทางสายกลางและความไม่ประมาท โดย คานึงถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ตลอดจนใช้ความรู้ความรอบคอบ และคุณธรรม ประกอบการวางแผน การตัดสินใจและการกระทา แนวทางปฏิบัติ/ผลที่คาดว่าจะได้รับ จากการนาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ คือการพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืน พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงใน ทุกด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมความรู้และเทคโนโลยี
  • 9.
    หลักแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียง การพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คือ การพัฒนาที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของทางสายกลางและความไม่ ประมาท โดยคานึงถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ตลอดจนใช้ความรู้ความ รอบคอบ และคุณธรรม ประกอบการวางแผน การตัดสินใจและการกระทา ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีหลักพิจารณาอยู่ 5 ส่วน ดังนี้ กรอบแนวคิด เป็นปรัชญาที่ชี้แนะแนวทางการดารงอยู่และปฏิบัติตนในทางที่ ควรจะเป็น โดยมีพื้นฐานมา จากวิถีชีวิตดั้งเดิมของสังคมไทย สมารถนามาประยุกต์ใช้ได้ตลอดเวลา และเป็นการมองโลกเชิงระบบที่มีการ เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มุ่งเน้นการรอดพ้นจากภัย และวิกฤต เพื่อ ความมั่นคง และ ความยั่งยืน ของการพัฒนา คุณลักษณะ เศรษฐกิจพอเพียงสามารถนามาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติตนได้ในทุกระดับ โดยเน้นการปฏิบัติ บนทางสายกลาง และการพัฒนาอย่างเป็นขั้นตอน คานิยาม ความพอเพียงจะต้องประกอบด้วย 3 คุณลักษณะ พร้อม ๆ กัน ดังนี้
  • 10.
    ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไปโดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เช่นการผลิตและการบริโภค ที่อยู่ในระดับพอประมาณ ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผลโดย พิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้องตลอดจนคานึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทานั้น ๆ อย่างรอบคอบ การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ที่จะ เกิดขึ้นโดยคานึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้และไกล เงื่อนไข การตัดสินใจและการดาเนินกิจกรรมต่าง ๆ ให้อยู่ในระดับพอเพียงนั้น ต้องอาศัยทั้งความรู้ และ คุณธรรมเป็นพื้นฐาน กล่าวคือ เงื่อนไขความรู้ ประกอบด้วย ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน ความรอบคอบที่ จะนาความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผน และความระมัดระวังในขั้นปฏิบัติ เงื่อนไขคุณธรรม ที่จะต้องเสริมสร้างประกอบด้วย มีความตระหนักในคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริตและ มีความอดทน มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการดาเนินชีวิต แนวทางปฏิบัติ/ผลที่คาดว่าจะได้รับ จากการนาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ คือ การพัฒนา ที่สมดุลและยั่งยืน พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ความรู้และ เทคโนโลยี
  • 11.
    " ถ้าไม่มี เศรษฐกิจพอเพียงเวลาไฟดับ … จะพังหมด จะทาอย่างไร. ที่ที่ต้องใช้ไฟฟ้าก็ต้องแย่ไป. … หากมี เศรษฐกิจพอเพียง แบบไม่เต็มที่ ถ้าเรามีเครื่องปั่นไฟ ก็ให้ปั่นไฟ หรือถ้าขั้นโบราณกว่า มืดก็จุดเทียน คือมีทางที่จะแก้ปัญหาเสมอ. … ฉะนั้น เศรษฐกิจพอเพียง นี้ ก็มีเป็นขั้น ๆ แต่จะบอกว่า เศรษฐกิจพอเพียง นี้ ให้พอเพียงเฉพาะตัวเองร้อยเปอร์เซ็นต์ นี่เป็นสิ่งที่ทาไม่ได้. จะต้องมีการแลกเปลี่ยน ต้องมีการช่วยกัน. …… พอเพียงในทฤษฎีหลวงนี้ คือให้สามารถที่จะดาเนินงานได้. " พระราชดารัสเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนพรรษา 23 ธันวาคม 2542 ข้อมูลจาก คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
  • 12.
    แนวทางการประยุกต์ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง แบ่งได้เป็น 3 ระดับ 1. ระดับบุคคล . รู้จก “พอ” ไม่เบียดเบียนผู้อื่น . พยายามพัฒนาทักษะ ความรู้ ความเข้มแข็งของตนเอง . ยึดทางสายกลาง พอใจกับชีวิตที่พอเพียง 2. ระดับชุมชน . รวมกลุ่ม ใช้ภูมิปัญญาของชุมชน . เอื้อเฟื้อกันและกับ . พัฒนาเครือข่ายความร่วมมือ 3. ระดับประเทศ . ชุมชนร่วมมือกัน . วางระบบเศรษฐกิจแบบพึ่งตนเอง . พัฒนาเศรษฐกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป . เติบโตจากข้างใน การนาไปใช้ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนี้ เป็นกรอบแนวความคิดและทิศทางการพัฒนาระบบเศรษฐกิจ มหาภาคของไทย ซึ่งบรรจุอยู่ ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 (พ.ศ. 2550-2554) เพื่อมุ่งสู่การพัฒนาที่สมดุล ยั่งยืน และมีภูมิคุ้มกัน เพื่อ ความอยู่ดีมีสุข มุ่งสู่สังคมที่มีความสุขอย่างยั่งยืน หรือที่เรียกว่า สังคมสีเขียว (Green Society) ด้วยหลักการดังกล่าว แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 10 นี้จะไม่เน้นเรื่องตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ยังคงให้ความสาคัญต่อระบบเศรษฐกิจแบบทวิลักษณ์ หรือ ระบบเศรษฐกิจที่มีความแตกต่างกันระหว่างเศรษฐกิจชุมชนเมืองและชนบท
  • 13.
    ปัญหาหนึ่งของการนาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ก็คือ ผู้นาไปใช้อาจยังไม่ได้ศึกษาหรือไม่มีความรู้เพียงพอ ทั้งยังไม่ วิเคราะห์หรือตั้งคาถามเนื่องจากประเพณี. สมเกียรติ อ่อนวิมล เรียกสิ่งนี้ว่า "วิกฤตเศรษฐกิจพอเพียง"คือ ความไม่รู้ว่าจะนา ปรัชญานี้ไปใช้ทาอะไร กลายเป็นว่าผู้นาสังคมทุกคน ทั้งนักการเมืองและรัฐบาลใช้คาว่า "เศรษฐกิจพอเพียง" เป็นข้ออ้างในการ ทากิจกรรมใด ๆ เพื่อให้รู้สึกว่าได้สนองพระราชดารัสและให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดี หรือพูดง่ายๆ ก็คือ "เศรษฐกิจพอเพียง" ถูกใช้ เพื่อเป็นเครื่องมือเพื่อตัวเอง สมเกียรติได้ให้สัมภาษณ์วิจารณ์โครงการในยุครัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ว่า "รัฐบาลยังไม่ได้ใช้อะไร เลยเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียง ใช้แต่พูดเหมือนคุณทักษิณ แต่คุณทักษิณพูดควบคู่กับการเอาทุนนิยม 100 เปอร์เซ็นต์ลงไป.. ซึ่ง รัฐบาลนี้ต้องปรับทิศทางใหม่ เพราะรัฐบาลไม่ได้เอาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาและเป็นนโยบายทางวัฒนธรรมและสังคม" สมเกียรติยังมีความเห็นด้วยว่า ความไม่เข้าใจ นี้ อาจเกิดจากการสับสนว่าเศรษฐกิจพอเพียงกับทฤษฎีใหม่นั้นเป็นเรื่องเดียวกัน ทา ให้มีความเข้าใจว่า เศรษฐกิจพอเพียงหมายถึงการปฏิเสธอุตสาหกรรมแล้วกลับไปสู่เกษตรกรรม ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด. ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนี้ ได้รับการเชิดชูสูงสุด จากองค์การสหประชาชาติ (UN)โดยนายโคฟี อันนัน ในฐานะ เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ได้ทูลเกล้าฯถวายรางวัล The Human Development Lifetime Achievement Award แก่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อ 26 พฤษภาคม 2549 และได้มีปาฐกถาถึงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงว่าเป็นปรัชญาที่สามารถเริ่ม ได้จากการสร้างภูมิคุ้มกันในตนเอง สู่หมู่บ้าน และสู่เศรษฐกิจในวงกว้างขึ้นในที่สุด เป็นปรัชญาที่มีประโยชน์ต่อประเทศไทย และนานาประเทศ โดยที่องค์การสหประชาชาติได้สนับสนุนให้ประเทศต่างๆที่เป็นสมาชิก 166 ประเทศยึดเป็นแนวทางสู่การ พัฒนาประเทศแบบยั่งยืน
  • 14.
    การสร้างขบวนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง การพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คือ การพัฒนาที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของทางสายกลางและความไม่ ประมาท โดยคานึงถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว โดยใช้ความรอบรู้ ความ รอบคอบ และคุณธรรม ประกอบการตัดสินใจและการกระทา ภาวะวิกฤตเศรษฐกิจปี ๒๕๔๐ ทาให้คนไทยให้ความสาคัญกับการพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ตาม คาชี้แนะของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมากขึ้น สศช. จึงได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิจากสาขาต่าง ๆ มาร่วมกัน กลั่นกรองพระราชดารัสเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียง สรุปเป็นนิยาม ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และได้อัญเชิญ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นปรัชญานาทางในการจัดทาแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๙ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชน ทุกระดับ มีความเข้าใจเศรษฐกิจพอเพียงและนาไปประกอบการดาเนินชีวิต
  • 15.
    ในครั้งนี้ สศช. เสนอให้ริเริ่มการสร้างขบวนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อสานต่อความคิดและ เชื่อมโยงการขยายผล ที่เกิดจากการนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้อย่างหลากหลาย รวมทั้งเพื่อจุด ประกายให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ซึ่งจะนาไปสู่การยอมรับ และการนาไปประยุกต์ใช้ให้เกิดผลในทาง ปฏิบัติในทุกภาคส่วนของสังคมอย่างจริงจัง การขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง มีเป้าหมายหลักเพื่อสร้างกระแสสังคมให้มีเป็นกรอบความคิดหรือส่วน หนึ่งของวิถีชีวิตของประชาชนทุกภาคส่วน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับหลัก เศรษฐกิจพอเพียง ให้ประชาชนทุกระดับสามารถนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ไปประยุกต์ใช้ได้อย่าง เหมาะสม และปลูกฝังปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในการดารงชีวิตให้อยู่บนพื้นฐานของเศรษฐกิจพอเพียง ตลอดจน นาไปสู่การปรับแนวทางการพัฒนาให้อยู่บนพื้นฐานของเศรษฐกิจพอเพียง ยุทธวิธีในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงจะมีการดาเนินการอย่างเป็นขั้นตอนและชัดเจน โดยมีขอบเขต การดาเนินงาน ๔ ด้านควบคู่กันไป คือ เชื่อมโยงเครือข่ายเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง พัฒนาวิชาการและศึกษาวิจัย สร้างหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ การขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงจะเป็นใน ลักษณะเครือข่ายและระดมพลังจากทุกภาคส่วน โดยมีคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแกนกลาง ในการดาเนินงาน และจะทูลเกล้าฯ ถวายผลการดาเนินงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษาครบรอบ ๘๐ พรรษา ในเดือน ธันวาคม ๒๕๕๐
  • 16.
    การขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงนี้ จะเป็นการเสริมพลังในการดาเนินนโยบายของรัฐบาลที่เน้นการพัฒนา เพื่อให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาไปได้อย่างมั่นคงภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์ โดยให้ความสาคัญกับการสร้าง ฐานเศรษฐกิจและสังคมในระดับรากหญ้าให้เข้มแข็งในขณะที่ส่งเสริม การพัฒนาประเทศให้มีเสถียรภาพใน ระดับระหว่างประเทศ สามารถปรับตัวเลือกรับสิ่งที่เป็นประโยชน์และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ได้ และ นาไปสู่ความอยู่ดีมีสุขของคนไทยในที่สุด
  • 17.
    ขันตอนการปฏิบตสวถเี ศรษฐกิจพอเพียง ้ ั ิ ู่ ิ จับประเด็นปัญหา วิเคราะห์สาเหตุของปัญหา กาหนดขอบเขตเป้าหมายในการแก้ปัญหา ปรับปรุงตัวเอง ดารงตนด้วยความมุ่งหมาย ใช้ความอดทนสูง อดกลั้น และอดออม ละวางจากความชั่ว ความทุจริต
  • 18.
    ผลที่เกิดจากการปฏิบัติตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง 1.ยึดความประหยัด ตัดทอนค่าใช้จ่ายในทุกด้าน ลดละความฟุ่มเฟือยในการดารงชีพอย่างจริงจัง ดังพระราชดารัสที่ว่าความเป้นอยู่ไม่ฟุ้งเฟ้อ ต้องประหยัดไปในทางที่ถกต้อง ู 2.ยึดถือการประกอบอาชีพด้วยความถูกต้อง สุจริต แม้จะตกอยู่ในสภาวะขาดแคลนในการดารงชีพก็ตาม ดังพระราชดารัสที่ว่าความเจริญของคนทั้งหลายย่อมเกิดมาจากการประพฤติชอบและการหาเลี้ยงชีพเป็นหลักสาคัญ 3.ละเลิกการแก่งแย่งผลประโยชน์และการแข่งขันกันทั้งการค้าขายประกอบอาชีพแบบต่อสู้กัน อย่างรุนแรงดังอดีตซึ่งมีพระราชดารัสเรืองนี้ว่าความสุขความเจริญอันแท้จริงนั้นหมายถึงความสุขความเจริญที่บุคคล ่ แสวงหามาได้ดวยความเป็นธรรมทั้งในเจตนาและการกระทาไม่ใช่ได้มาด้วยความบังเอิญหรือด้วยการแก่งแย่งเบียดบัง ้ มาจากผู้อื่น 4.ไม่หยุดนิ่งที่จะหาทางให้ชวิตหลุดพ้นจากความทุกข์ยากครังนีโดยต้องขวนขวายใฝ่หาความรูให้เกิดมีรายได้ ี ้ ้ ้ เพิ่มพูนขึ้นจนถึงขั้นพอเพียงเป็นเป้าหมายสาคัญ พระราชดารัสตอนหนึ่งที่ให้ความชัดเจนว่าการที่ต้องการให้ทุกคนพยายาม ที่จะหาความรู้และสร้างตนเองให้มั่งคงนี้เพื่อตนเองมีความสุขพอมีพอกินและให้มีเกียรติว่ายืนได้ด้วยตนเอง 5.ปฏิบัติตนในแนวทางที่ดีลดละสิ่งชั่วให้หมดสิ้นไป เพราะยังมีบุคคลจานวนมิใช่น้อยที่ดาเนินการ โดยปราศจากการละอายต่อแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวได้พระราชทานพระราโชวาท ว่าพยายามไม่ก่อความชั่ว ั ให้เป็นเครืองทาลายตัวทาลายผู้อื่นพยายามลดพยายามละความชั่วที่ตัวเองมีอยู่ พยายามก่อความดีให้แก่ตัวอยู่เสมอ พยายาม ่ รักษาและเพิ่มพูนความดีที่มีอยู่ ให้งอกงามสมบรูณ์ขึ้น
  • 19.
    เศรษฐกิจพอเพียงกับการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน การนาแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการดาเนินชีวิตประจาวัน สามารถกระทาได้ดังต่อไปนี้ เศรษฐกิจพอเพียงสาหรับบุคคลทั่วไป เศรษฐกิจพอเพียงมีประโยชน์ต่อประชาชนทุกคนไม่ใช่เฉพาะแต่เกษตรกรเท่านั้น แต่ประชาชนโดยทั่วไปไม่ว่านิสิต นักศึกษา นักเรียน ข้าราชการ พนักงานบริษัทก็สามารถนาหลักการเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการเรียน การทางาน ตลอดจนการดาเนินชีวิตประจาวันได้ ซึ่งสามารถกระทาได้ดังนี้ ควรยึดหลักความประหยัด ตัดทอนค่าใช้จ่ายในทุกด้าน และสละความฟุ่มเฟือยในการดารงชีพอย่างจริงจัง ควรประกอบอาชีพด้วยความสุจริตและถูกต้อง แม้จะเผชิญกับภาวะขาดแคลนในการดารงชีพก็ตาม ควรลดละการแก่งแย่งผลประโยชน์ และการแข่งบันทางการค้าขาย ตลอดจนการประกอบอาชีพที่มีการต่อสู้อย่างรุนแรง ควรขวนขวายใฝ่หาความรู้ให้มีรายได้เพิ่มพูนขึ้นจนถึงขั้นพอเพียงในการดารงชีวิตเป็นเป้าหมายสาคัญ เศรษฐกิจพอเพียงสาหรับเกษตรกร แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง มีประโยชน์ต่อเกษตรกรเป็นอย่างมาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานแนวคิดที่ เรียกว่า “การเกษตรทฤษฎีใหม่” เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรให้มีความรู้ความเข้าใจ ตลอดจนสามารถนาไปประยุกต์ ใช้ในการประกอบอาชีพ โดยจะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานหลักการทฤษฎีใหม่ สาหรับเกษตรกรนั้น แนวคิดระบบเศรษฐกิจแบบ พอเพียงตามแนวพระราชดาริจะตั้งอยู่บนพื้นฐานหลักการ“ทฤษฎีใหม่” 3 ขึ้นคือ ขั้นที่หนึ่ง มีความพอเพียงเลี้ยงตัวเองได้บน พื้นฐานของความประหยัด ขจัดการใช้จ่าย ขั้นที่สอง รวมพลังกันในรูปกลุ่ม เพื่อทาการผลิต การตลาด การจัดการ รวมทั้งด้าน สวัสดิการ การศึกษา และการพัฒนาสังคมขั้นที่สาม สร้างเครือข่ายกลุ่มอาชีพและขยายกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้หลากหลาย โดย ประสานความร่วมมือกับภาคธุรกิจ ภาคองค์กรพัฒนา ภาคเอกชน และภาครัฐ ในด้านเงินทุน การตลาด การผลิต การจัดการและ ข่าวสารข้อมูล
  • 20.
    อ้างอิง เศรษฐกิจพอเพียงคืออะไร http://sufficiencyeconomy.panyathai.or.th ประวัติความเป็นมาของเศรษฐกิจพอเพียง http://edtechno.msu.ac.th/mod/resource/view.php?id=86 ประการที่สาคัญของเศรษฐกิจพอเพียง http://www.secondclass111.com/board/index.php?showtopic=685 ปรัชญาและแนวคิด http://pineapple-eyes.snru.ac.th หลักแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียง http://sufficiencyeconomy.panyathai.or.th/ แนวทางการประยุกต์ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง www.oae.go.th/ewt_news.php?nid=6582&filename... www.thaindc.org/files/51179.pdf การสร้างขบวนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง http://www.sufficiencyeconomy.org/old/show.php?Id=24 ขั้นตอนการปฏิบัติสู่วิถีเศรษฐกิจพอเพียง http://greennetorganic.blogspot.com/2009/07/7.html http://th.wikipedia.org/wiki/เศรษฐกิจพอเพียง ผลที่เกิดจากการปฏิบัติตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง http://www.uinthai.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538933516&Ntype=119 เศรษฐกิจพอเพียงกับการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน http://www.chaiwit.ac.th/chaiwit02/p024.html
  • 21.
    คณะผู้จัดทา นายวีระพงษ์ ใจเย็น (ตั้ม) 53010516025 นายศุภชัย ช้วยงาน (โจ้) 53010516026 นายนฤดล สีมีงาม (ทัช) 53010516040
  • 22.
    นางสาวเบญจวรรณ เหง้ากอก (ปลาย) 53010516043 นางสาวปิ่นสุดา มังคะรัตน์ (จ๋อม) 53010516044